x close

ยิ่งยง ปัดเตรียมบวชหนีคดี หลังถูกศาลตัดสินจำคุก 20 ปี คดีทำธุรกิจฉ้อโกง


           ยิ่งยง ยอดบัวงาม จูงมือภรรยาเปิดใจมรสุมชีวิต หลังถูกศาลตัดสินจำคุก 20 ปี คดีทำธุรกิจฉ้อโกงประชาชน ปัดเตรียมตัวบวชหนีคดี


           หลังนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ยิ่งยง ยอดบัวงาม  ถูกศาลจังหวัดมีนบุรีพิพากษาตัดสินลงโทษจำคุก คนละ 20 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีทำธุรกิจฉ้อโกงประชาชน ก่อนที่จะได้ประกันตัวชั่วคราวในวงเงินคนละ 5 แสนบาท และขณะนี้กำลังอยู่ในชั้นอุทรณ์ ล่าสุด (28 กุมภาพันธ์ 2561) ในรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง one31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ กับ หนิง ปณิตา เป็นพิธีกร ยิ่งยง พร้อมภรรยา ทิพย์ มลฑาทิพย์ ก็ได้จูงมือมาเปิดใจเป็นครั้งแรกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เกิดอะไรขึ้น ?
           ยิ่งยง : ทางโรงงานเจ้าของปุ๋ยเสนอให้เราเป็นพรีเซ็นเตอร์ เราก็รับปากไป แล้วเค้าก็มาบอกว่า ถ้าเป็นพรีเซ็นเตอร์มันได้น้อย เดี๋ยวทางบริษัทจะให้เราเป็นหุ้นส่วน 10 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่ต้องลงเงิน ใช้แต่ชื่อเสียง ทางเราก็มีหน้าที่เป็นพีอาร์ให้กับบริษัท ร้องเพลง แต่มันมีอีกบริษัทหนึ่งที่มีหน้าที่รับฝากขายปุ๋ย คือเค้าซื้อปุ๋ยจากบริษัทของเราไปเพื่อไปขายให้กับเกษตรกร พอเค้าซื้อปุ๋ยเราไป บริษัทนั้นก็ครบสัญญาปีหนึ่ง มีคืนเงินบ้าง ไม่คืนบ้าง เค้าก็ทำธุรกิจของเค้าไป เอาเงินไปให้เกษตรกรกู้ แล้วเค้าก็ไม่ได้คืนเงินขายฝากทางนี้ เค้าก็มาฟ้อง จริง ๆ แล้วเรื่องนี้มันมีมาตั้งแต่ปี 57 แล้ว มาฟ้องโดยการที่ว่าซื้อปุ๋ยมาจากของเรา แต่จริง ๆ แล้วสัญญาขายฝากไม่เกี่ยวกับทางเราเลย

ทำไมถึงโดนเอี่ยวด้วย ?
           ยิ่งยง : เราโดนลากเอี่ยวไปกับคดี เพราะเค้าถือว่าเรามีชื่อเสียง ซื้อปุ๋ยมาเพราะเรา เราเป็นพรีเซ็นเตอร์ พอเค้าเสียหาย เค้าก็ต้องฟ้องเรา เพราะเราเป็นคนที่ทำให้เค้าเชื่อถือมาซื้อปุ๋ยของเรา แต่จริง ๆ แล้วมาขายฝากบริษัทนั้น ก็มีสัญญาถูกต้องทุกอย่าง ถามว่ารู้มั้ยว่าอีกบริษัทเค้ามีการรับขายฝาก เราก็รู้นะ แต่เราบอกไปแล้วว่าเราไม่ยุ่งนะ แต่เราขายปุ๋ยจริง ๆ ตอนที่เราไปขึ้นศาลกัน ตอนนั้นเราไม่คิดไง เราคิดแค่ว่าไม่ต้องกลัว เราไม่ผิด เพราะเราอยู่ในบริษัทขายปุ๋ย แล้วที่เค้าฟ้องนั่นคือบริษัทที่รับฝากขายปุ๋ย เป็นสัญญาขายฝากของอีกบริษัทหนึ่ง แต่มุมมองของศาลเค้ามองว่าเป็นการเชื่อมโยงกัน จริง ๆ แล้วบริษัทของเราไม่ผิดเลย อาจจะผิดตรงนี้ พ.ร.บ.ขายปุ๋ยไม่ให้ขายตรง น่าจะผิดตรงนั้น วันที่ศาลตัดสินผมก็ยืนนิ่งสงบเลย ไม่ได้คิดอะไรนะ เราไม่ได้คิดว่าเรื่องจะใหญ่


แต่มันตัดสินว่า 20 ปี ไม่รอลงอาญามันหนักมาก ?
           ยิ่งยง : หนักมากครับ แต่ในใจเราไม่ได้คิดอะไรเลย แต่คิดแค่ว่าเราจะไปยังไงต่อ

ถ้าเรายื่นอุทรณ์ แต่ไม่เป็นดังที่ใจเราคิด เราจะทำยังไง ?
           ยิ่งยง : ศาลคงไม่ยืนเหมือนเดิมในความคิดเรา เพราะตอนนี้ทางบริษัทออกมารับผิดชอบ ตอนนี้จ่ายไปแล้ว 2 ส่วน แล้วอีกสิ้นเดือนมีนาคม จะจ่ายอีกส่วนตามที่ตกลงกันไว้

ทำไมเราไม่ได้ผิด แต่เราต้องจ่าย ?
           พี่ทิพย์ : คือตามที่เราคิดคือ เงินเดือนที่เราได้รับคือ 3 หมื่น แล้วพี่ยิ่งยงได้ 5 หมื่น กับคอนเสิร์ตที่เราไปทัวร์ประมาณ 2 ปี ก็ให้เค้าไปเถอะ เพราะพี่มีความคิดว่า เงินตรงนั้นมันไม่ใช่ พี่มีความรู้สึกอย่างนั้น อีกอย่างทางผู้เสียหายเค้าก็ต่อสู้มาโดยตลอด พี่มีความสุขที่เค้าได้เงินคืน เราอยากให้เค้าได้เงินคืน เพราะเราคุยกับผู้เสียหายตลอดว่า พี่ฟ้องเถอะ เพราะเราจ่ายเองไม่ไหว อีกอย่างบริษัทเราไม่ผิด 


ผู้เสียหายว่าอย่างไรบ้าง
           พี่ทิพย์ :  เค้าก็ยืนยันว่าเค้าจะเอาพี่ยิ่งยง เพราะเป็นคนที่ทำให้เค้าเชื่อถือ แต่เราไม่คิดว่าพี่ยิ่งยงจะโดนฟ้องด้วย เพราะเค้าอยู่ในบริษัทขายปุ๋ย ไม่ได้อยู่ในบริษัทรับขายฝาก จำนวนผู้เสียหายที่ฟ้องไปประมาณ 11 ล้าน แต่เราต่อรองกัน เค้าก็เห็นใจ ตอนนี้เหลืออยู่ที่ 8 ล้านกว่า พี่ไม่ได้กลัวนะว่าจะไม่รอด พี่มั่นใจ เราบอกพี่ยงไว้เสมอว่า เราไม่ได้ผิด เรามีจิตที่ดี พี่คิดว่าทุกอย่างต้องผ่านไปได้ ตอนนี้เราได้จ่ายเงินผู้เสียหายแล้ว เค้าก็จะไปอุทรณ์ให้ด้วย วันที่ไปตกลงเราก็คุยกันดีนะ ดีใจที่เค้าได้เงินคืน โชคดีที่ทางทนายและผู้เสียหายเค้าน่ารัก เราคุยกันตลอด

           ยิ่งยง : เราก็ดีใจที่ผู้เสียหายได้เงินคืน ส่วนเรื่องคดีความก็อยู่ในขบวนการของศาล

คนที่มาซุบซิบนินทา ทำลายความรู้สึกของเราบ้างมั้ย ?
           ยิ่งยง : ก็มีบ้างครับ เพียงแต่ว่าเราห้ามคนคิดไม่ได้ แต่ดีที่ทุกคนให้กำลังใจหมด เรายอมรับในเรื่องที่เกิดขึ้น ก็มีผลต่องานบ้างครับ ทั้งพรีเซ็นตอร์และคอนเสิร์ต แต่คนไม่พูดถึงเรื่องนี้เลย มีแต่บอกให้สู้ ๆ นะ


พอเกิดเรื่องราวแบบนี้มา มันเกิดผลกระทบกับครอบครัวมั้ย ?
           ยิ่งยง : ในความรู้สึกของพี่เอง พี่ยอมรับทุกสิ่งอย่างที่มันเกิดขึ้น แต่เรื่องของคนรอบข้างเราก็ห้ามความคิดไม่ได้ เราก็น้อมรับ อย่างลูกสาวก็ไปโพสต์ข้อความให้กำลังใจ ก็มีคนไปโพสต์ด่าลูกเราว่า ใช้เงินเกินตัว ไปเอาเงินมาจากไหน แต่จริง ๆ แล้วเงินนั้นมันไม่ถึงล้าน แต่ถ้าเป็นปีมันถึงล้านแน่ ผมไม่ได้สปอยลูกเลย และมันไม่ใช่ความจริงที่ผมต้องให้เงินลูกเดือนละเป็นล้าน แต่จริง ๆ เราให้เงินลูกแค่ค่าเรียนเท่านั้น ส่วนค่ากินเค้าทำงานเสิร์ฟ

แบ่งค่าใช้จ่ายให้ลูกยังไง ?
           ยิ่งยง : ลูกสาวคนโตพี่ทิพย์เค้าก็ดูแล ให้เงินเดือน เพราะเค้าก็พิการตั้งแต่มีลูก ส่วนลูกชายเค้าก็ไปร้องเพลงหาเงินเอง ถ้ามีปัญหาอะไรเค้าก็มาหาเรา ส่วนลูกสาวน้องโย่เค้าก็หาเองของเค้า

ล่าสุดถูกเม้าท์ว่าจะบวชหนีคุก ?
           ยิ่งยง : ไม่ใช่ การบวชมันหนีไม่ได้เลย แต่เราบวชเพื่อความสบายใจมากกว่า ยอมรับว่าก็มีความเครียดกับข่าวที่เกิดขึ้นเหมือนกันครับ คนที่เค้าคอมเมนต์ว่าเราอาจจะแค่ทำเพื่อถูกใจตัวเอง แต่ลืมความถูกต้อง แต่ก็ไม่เป็นไร เราน้อมรับ น่าจะบวชประมาณ 7 เมษายน บวชไปจนได้วันสึก น่าจะประมาณ 20 กว่าวัน


พี่ยิ่งยงทำพี่ทิพย์เสียน้ำตามาเยอะมาก จริงมั้ย ?
           พี่ทิพย์ : จริงค่ะ เป็นเรื่องหนี้สิน ก่อนหน้านั้นที่ผ่านมาประมาณ 20 ปี พี่ยงเค้าเป็นหนี้เยอะ ซึ่งเราไม่รู้ว่าเค้าเป็นหนี้เยอะ มีหนี้เข้ามาทีละก้อน ๆ หนี้ล่าสุดประมาณ 5.5 ล้าน ซึ่งมันมากสำหรับเรามาก ๆ ตอนนั้นได้กันใหม่ ๆ

           ยิ่งยง : ตอนนั้นเราไปกู้ซื้อตึก แล้วขาดส่ง ซึ่งทางธนาคารก็ยื่นโนติสท์มาว่าต้องจ่าย และทางตึกเองก็ขายทอดตลาดไปแล้ว ผมจ่ายดอกไปประมาณ 2 ล้าน ทางธนาคารก็ฟ้องล้มละลาย ผมก็ไปกรมบังคับคดีไปล้มละลาย ทางผู้จัดการก็ให้โอกาส เพราะถ้าเวลาเราเดินทางไปต่างประเทศมันไปไม่ได้ หรือทำธุรกรรมอะไรก็ไม่ได้ เลยประนอมหนี้ ยอดจริง ๆ 4 ล้าน ขายไปแล้ว 2.8 ล้าน ก็เหลือจริง ๆ 1.2 ล้าน ธนาคารก็ประนอมหนี้ให้เหลือ 2 ล้าน ซึ่งทางพี่ทิพย์เองก็เป็นคนดำเนินเรื่องให้ ไม่งั้นเราก็ต้องจ่ายเอง

รู้สึกยังไงที่พี่ทิพย์อยู่เคียงข้าง ไม่เคยทิ้งเราเลย ?
           ยิ่งยง : เค้าทิ้งไม่ได้หรอก เค้ารักพี่

           พี่ทิพย์ : พี่ยิ่งยงเค้าเป็นคนดี เค้าเป็นคนซื่อ อย่างเงินในคดีนั้นที่เราตกลงทำกับบริษัทปุ๋ยเราตัดสินใจทำเพื่อสร้างครอบครัวไง แต่พอมันผิดพลาดก็ไม่เป็นไร เราให้กำลังใจกัน สู้ ๆ คนเราอาจจะเป็นวิบากกรรม เราเสียนน้ำตาให้เค้าบ่อยนะเรื่องหนี้ เรื่องเงิน เรื่องลูก


รู้สึกยังไงบ้างที่เค้าไม่ทิ้งเรา ?
           ยิ่งยง : ก็ดีใจครับ แต่เรายินดีอยู่แล้วรักเค้าอยู่แล้ว ขอบคุณมากครับ จะบอกเค้าว่า ที่ผ่านมาทุกอย่าง เราไม่มีเจตนาที่จะเกิดขึ้น สิ่งที่ทำไม่ว่าจะเป็นหนี้สินทุกอย่าง เรามีการทำวงไปกู้เงินนอกระบบมาเพื่อซัพพอร์ตวง เค้ารู้ดีว่าเราเอาเงินมาจ่ายค่านั่นนี่ คนเรามันจมไม่ลง พยายามจะดันตัวเองให้มันอยู่ให้ได้ แต่ในที่สุดในโลกนี้มันไม่มีอะไรที่ยั่งยืนจริง ๆ ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่เราต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกวันนี้รู้แล้วว่าอะไรที่มันไปต่อไม่ได้ ก็อย่าไปดันทุรังทำมัน ก็บอกเค้าว่า สิ่งต่าง ๆ ที่มันเกิดขึ้นก็ไม่ได้เจตนาให้มันเกิด แต่ก็ขอบคุณเค้าด้วยที่ยังรักกันอยู่

ฝากบอกแฟนคลับ ?
           ยิ่งยง : ก็อยากจะขอบคุณแฟน ๆ ทุกท่านที่เข้าใจและไม่เข้าใจ ผมเชื่อว่าคนเราเกิดมาไม่ได้มีเจตนาที่จะทำผิดตลอดเวลา บางครั้งการผิดอาจจะผิดด้วยการที่ไม่ได้เจตนาเลยก็มี ผมเชื่อว่าสักวันแฟน ๆ อาจจะเข้าใจในเจตนาของผม อะไรที่เกิดขึ้นถ้าเรามีสติ เราตั้งรับกับมัน ผมเชื่อว่ามันจะผ่านไปได้

           ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama




คลิปสัมภาษณ์ เปิดใจครั้งแรก ยิ่งยง ยอดบัวงาม มรสุมชีวิตวินาทีขึ้นศาล โดนคดีจำคุก 20 ปี

https://www.youtube.com/embed/Ac7Ca7MXxWY?feature=oembed

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ยิ่งยง ปัดเตรียมบวชหนีคดี หลังถูกศาลตัดสินจำคุก 20 ปี คดีทำธุรกิจฉ้อโกง โพสต์เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 20:51:21 4,976 อ่าน
TOP