ทราย เจริญปุระ ขอเคลียร์จากใจ หลังเอาเรื่องที่แม่ซื้อของเข้าบ้านหลังเก่าจนล้น เพื่ออยู่กินกับผู้ชายคนใหม่ ช้ำใจจนอยากเผาบ้านทิ้ง บอกตนเองก็เป็นคนที่ยังกินยาต้านเศร้าทุกวัน หากมีเรื่องบีบหัวใจ ให้ได้ระบายออกบ้างก็ยังดี
หลังจากที่ ทราย เจริญปุระ ออกมาระบายความในใจ กับกรณีที่แม่ของเธอนั้น ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้ามาเต็มบ้าน เพื่ออยู่กินกับผู้ชายใหม่ ทั้งแอร์ 7 เครื่อง เครื่องซักผ้า/อบผ้า 3 เครื่อง ทีวี 5 ชุด ชุดเก้าอี้และที่นอนมูจิ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีราคาแพง และเงินนั้นล้วนแต่เป็นเงินที่เธอเองหามา จนมีคนมาต่อว่าทรายว่า เอาเรื่องแม่มาประจานออกสื่อ (อ่านเพิ่มเติม ทราย บอบช้ำในใจ แม่ใช้เงินลูกซื้อของอยู่กับผู้ชายใหม่ จนอยากเผาบ้านทิ้ง)
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2561 ทรายได้ออกมาเผยว่า ตนขอบคุณสำหรับกำลังใจ ตนอ่านทุกคอมเมนต์ที่มีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ ที่ตนพูดเพราะมันก็คือความเหนื่อยล้าของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่หาเงินเลี้ยงครอบครัว แต่ก่อนพ่อทำให้แม่อย่างไร ตนก็ทำให้แม่อย่างนั้น แต่ถึงอย่างไร ตนก็คือคนที่ต้องกินยาต้านเศร้าทุกวัน บางวันมันรับไม่ไหว ยาก็เอาไม่อยู่ ความรักที่มีอาจจะไม่ได้กุ๊กกิ๊กอย่างที่แม่หวัง แต่ถึงอย่างไร ตนก็ไม่มีวันทิ้งแม่ไปไหน
"เราไม่ได้รู้สึกผิดบาปที่เสียใจเรื่องแม่นะ | อย่างน้อยมันก็เตือนให้เราได้รู้ ว่าเราเป็นคนที่แบกทุกเรื่อง ทุกอารมณ์ไม่ไหวหรอก | แต่อารมณ์ก็เป็นคนละอย่างกับหน้าที่ | และเรามั่นใจอย่างยิ่ง ว่า เราไม่เคยบกพร่องในหน้าที่ ไม่ว่าจะในฐานะลูก ฐานะหัวหน้าครอบครัว ฐานะนักแสดง หรืออะไรก็ตาม :))"
แม่อาจจะไม่รู้ว่าการเลี้ยงเด็กคืออะไร พอโตขึ้นมาหน่อยแม่ก็เป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งในฐานะที่ตนเป็นลูกคนโต ตนก็ได้แต่สัญญาว่าจะดูแลแม่ เพราะแม่เองนั้น บอบบางกว่าที่คิด
"แม่บอบบางกว่าฉัน เข้าใจโลกได้น้อยกว่า การมีแม่คือการมีลูกวัยรุ่นที่ฉันไม่มีวันหมดห่วง ฉันไม่ได้รักแม่ที่เป็นแม่เป็นแม่ที่ดี ตื่นเช้าไปส่ง นั่งฟังปฐมนิเทศทุกปี
ฉันรักที่แม่ไม่ทำอะไรแบบนั้นเลย แล้วบอกฉันว่า, นี่คือแม่จะเลือกได้หรือไม่ เราก็เป็นของกันและกัน"
ไม่ว่าจะอย่างไร ทรายเองก็ไม่ทิ้งแม่ไหน กระปุกดอทคอมก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ