ฉีดไขมันที่หน้า เทรนด์ศัลยกรรมยกกระชับใบหน้าแบบใหม่ คืออะไร มีข้อดี หรือข้อเสียอย่างไรบ้าง ทำแล้วจะปลอดภัยไหม สาว ๆ คนไหนที่มีคำถามนี้อยู่ในใจ วันนี้เรามีความรู้และคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการฉีดไขมันที่หน้ามาฝากกัน
เมื่อคนเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น ทั้งความกระชับและความเต่งตึงบนใบหน้า ก็เริ่มถูกแทนที่ด้วยริ้วรอยและความหย่อนคล้อย ทำให้สาว ๆ ต้องหันมาดูแลตัวเองกันยกใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการทาครีมบำรุง การฉีดฟิลเลอร์ หรือแม้แต่การทำศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า แต่ด้วยนวัตกรรมความงามที่มีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้สาว ๆ ไม่ต้องเสี่ยงต่อการฉีดสารแปลกปลอมเข้าสู่ใบหน้า หรือไม่ต้องทนเจ็บจากการผ่าตัดอีกต่อไปแล้วค่ะ เพราะปัจจุบันนี้เราสามารถเพิ่มความกระชับให้ผิวหน้า และเติมเต็มริ้วรอยต่าง ๆ ได้ด้วยไขมันของตัวเอง หรือที่เรียกกันว่า "ฉีดไขมันที่หน้า" นั่นเอง แต่การฉีดไขมันที่หน้านั้นจะมีลักษณะอย่างไร ทำแล้วปลอดภัยไหม มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง วันนี้กระปุกดอทคอมก็มีความรู้และคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการฉีดไขมันหน้ามาฝากสาว ๆ ทุกคนแล้วค่ะ
การฉีดไขมันหน้า คือ การฉีดเติมเต็มไขมันบนใบหน้า โดยใช้ไขมันในส่วนของร่างกายที่มีไขมันมาก หรือบริเวณที่มีไขมันส่วนเกินที่ต้องการกำจัดออก เช่น หน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก โดยแพทย์จะทำการฉีดยาชาบริเวณดังกล่าว และใช้เข็มดูดไขมันออก จากนั้นนำหลอดไขมันที่ดูดได้นั้นไปเข้าเครื่องมือปั่นทางการแพทย์เพื่อคัดแยกชั้นไขมัน และเมื่อได้เซลล์ไขมันที่สกัดออกมาแล้ว ก็จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการฉีดไขมันที่หน้า ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ค่ะ
ขั้นตอนการฉีดไขมันที่หน้า
1. แพทย์จะกำหนดจุดบริเวณที่คนไข้ต้องการฉีดไขมันเพื่อเติมเต็มความกระชับ เช่น หน้าผาก ร่องแก้ม ขมับ คาง จากนั้นจึงทำการฉีดยาชาเฉพาะที่
2. เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้ว แพทย์จะค่อย ๆ ฉีดไขมันด้วยเข็มปลายทู่ ที่มีขนาดเล็กประมาณ 1 มิลลิเมตร โดยสาเหตุที่ใช้เข็มปลายทู่ก็เพื่อลดการกระทบกระเทือนต่อเส้นประสาท เส้นเลือด และกล้ามเนื้อต่าง ๆ และไม่ทำให้เกิดรอยช้ำนั่นเอง
3. วิธีฉีดไขมันนั้น แพทย์จะใช้เทคนิคฉีดหลาย ๆ แนว หลาย ๆ ระดับ เพื่อให้เซลล์ไขมันได้สัมผัสกับเลือดที่มาหล่อเลี้ยงมากที่สุด ซึ่งจะไม่ทำให้เซลล์ไขมันตาย และช่วยลดการสลายตัวของไขมันหลังผ่าตัดได้มาก โดยแพทย์จะฉีดไขมันเกินปริมาตรที่ต้องการประมาณ 20 % เพื่อชดเชยการสลายตัวในภายหลัง ซึ่งปกติไขมันจะค่อย ๆ สลายไปเองประมาณ 30-40 % หลังการฉีด ส่วนอีก 60-70% จะคงอยู่ตลอดไป อาจลดหายหรือเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักตัวของร่างกาย
4. เมื่อฉีดไขมันเสร็จ แพทย์จะปิดแผลด้วยพลาสเตอร์ ทิ้งไว้ประมาณ 24-48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการไหลกองของไขมันที่ฉีดเข้าไป
5. หลังฉีดเสร็จควรดูแลตัวเองตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด
อาการหลังจากฉีดไขมันที่หน้า
หลังจากฉีดไขมันเสร็จแล้ว บริเวณที่ฉีดไขมันจะมีอาการบวมขึ้นกว่าเดิมประมาณ 2-3 วัน แต่อาการบวมจะลดลงเองเรื่อย ๆ ใน 1-2 สัปดาห์ และจะค่อย ๆ เข้าที่ภายใน 2-3 เดือน โดยไขมันที่ฉีดเข้าไปและได้รับเลือดไปหล่อเลี้ยงนั้น จะเป็นเซลล์ไขมันใหม่ที่อยู่ได้ถาวร ทำให้ใบหน้าดูอวบอิ่ม และเต่งตึงแบบเป็นธรรมชาติ แต่ทั้งนี้อาการบวมของแต่ละคนอาจแตกต่างกับไป ขึ้นอยู่กับ เพศ วัย และปริมาณไขมันที่ฉีด บางรายอาจเกิดอาการเขียวช้ำได้บ้าง บริเวณรอบดวงตา หรือคาง ซึ่งจะค่อย ๆ หายเองภายใน 1-2 สัปดาห์ค่ะ
การดูแลหลังฉีดไขมันหน้า
หลังจากฉีดไขมันใน 24 ชั่วโมงแรก ควรงดการนวดหน้า ทาครีมและโลชั่นต่าง ๆ รวมถึงงดอบไอน้ำ ทำซาวน่า เพราะอาจทำให้ไขมันสลายตัวได้ โดยในช่วง 2-3 วันแรก ควรใช้เจลประคบเย็นบริเวณแผล และนอนยกศีรษะสูงเพื่อลดอาการบวม พร้อมกับหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารร้อน ของหมักดอง หรืออาหารแข็ง ๆ ที่ย่อยยาก งดดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และลดอาการบวม ที่สำคัญควรปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด หากพบอาการผิดปกติใด ๆ ให้รีบกลับมาพบแพทย์ทันที
ข้อดี-ข้อเสียของการฉีดไขมันที่หน้า
สาเหตุที่ทำให้การฉีดไขมันบริเวณใบหน้ากลายเป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะว่าเป็นการทำศัลยกรรมที่ปลอดภัย ไม่ต้องใช้สารเคมี หรือสารแปลกปลอม นอกจากใช้เพียงไขมันตัวเอง ซึ่งถือเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ อีกทั้งยังไม่เจ็บตัวมากเท่าการผ่าตัดแบบอื่น ๆ และไม่มีแผลเป็น ที่สำคัญยังช่วยเติมเต็มชั้นใต้ผิวหนัง และปรับรูปหน้าให้เต่งตึง อวบอิ่ม และดูอ่อนกว่าวัย ซึ่งคล้ายกับการรักษาด้วยฟิลเลอร์ แต่ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานกว่า แต่ทั้งนี้การฉีดไขมันหน้าก็มีข้อเสียเช่นกัน คือ คนผอมหรือคนที่มีไขมันไม่มากจะไม่สามารถทำได้ อีกทั้งการฉีดไขมันหน้านั้น ยังมีโอกาสที่ไขมันบางส่วนจะสลายตัวได้เอง ซึ่งขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน จึงทำให้บางคนต้องมาฉีดไขมันซ้ำอีก 2-3 ครั้งจนกว่าจะเติมเต็มไขมันบนใบหน้าได้อย่างสมบูรณ์
ปัจจุบันการทำศัลยกรรมโดยใช้ไขมันของตัวเองเริ่มเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งหากใครสนใจอยากจะลองฉีดไขมันที่หน้า หน้าผาก แก้ม คาง หรือบริเวณส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เพื่อช่วยเติมเต็มความกระชับและลดเลือนริ้วรอย ก็ควรศึกษาหาข้อมูลและรายละเอียดให้ดี ๆ ก่อน ที่สำคัญควรเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสถานที่ที่มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือด้วยนะคะ
ข้อมูลจาก : realself.com, theprivateclinic.co.uk
การฉีดไขมันหน้า คือ การฉีดเติมเต็มไขมันบนใบหน้า โดยใช้ไขมันในส่วนของร่างกายที่มีไขมันมาก หรือบริเวณที่มีไขมันส่วนเกินที่ต้องการกำจัดออก เช่น หน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก โดยแพทย์จะทำการฉีดยาชาบริเวณดังกล่าว และใช้เข็มดูดไขมันออก จากนั้นนำหลอดไขมันที่ดูดได้นั้นไปเข้าเครื่องมือปั่นทางการแพทย์เพื่อคัดแยกชั้นไขมัน และเมื่อได้เซลล์ไขมันที่สกัดออกมาแล้ว ก็จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการฉีดไขมันที่หน้า ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ค่ะ
1. แพทย์จะกำหนดจุดบริเวณที่คนไข้ต้องการฉีดไขมันเพื่อเติมเต็มความกระชับ เช่น หน้าผาก ร่องแก้ม ขมับ คาง จากนั้นจึงทำการฉีดยาชาเฉพาะที่
2. เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้ว แพทย์จะค่อย ๆ ฉีดไขมันด้วยเข็มปลายทู่ ที่มีขนาดเล็กประมาณ 1 มิลลิเมตร โดยสาเหตุที่ใช้เข็มปลายทู่ก็เพื่อลดการกระทบกระเทือนต่อเส้นประสาท เส้นเลือด และกล้ามเนื้อต่าง ๆ และไม่ทำให้เกิดรอยช้ำนั่นเอง
3. วิธีฉีดไขมันนั้น แพทย์จะใช้เทคนิคฉีดหลาย ๆ แนว หลาย ๆ ระดับ เพื่อให้เซลล์ไขมันได้สัมผัสกับเลือดที่มาหล่อเลี้ยงมากที่สุด ซึ่งจะไม่ทำให้เซลล์ไขมันตาย และช่วยลดการสลายตัวของไขมันหลังผ่าตัดได้มาก โดยแพทย์จะฉีดไขมันเกินปริมาตรที่ต้องการประมาณ 20 % เพื่อชดเชยการสลายตัวในภายหลัง ซึ่งปกติไขมันจะค่อย ๆ สลายไปเองประมาณ 30-40 % หลังการฉีด ส่วนอีก 60-70% จะคงอยู่ตลอดไป อาจลดหายหรือเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักตัวของร่างกาย
4. เมื่อฉีดไขมันเสร็จ แพทย์จะปิดแผลด้วยพลาสเตอร์ ทิ้งไว้ประมาณ 24-48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการไหลกองของไขมันที่ฉีดเข้าไป
5. หลังฉีดเสร็จควรดูแลตัวเองตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด
หลังจากฉีดไขมันเสร็จแล้ว บริเวณที่ฉีดไขมันจะมีอาการบวมขึ้นกว่าเดิมประมาณ 2-3 วัน แต่อาการบวมจะลดลงเองเรื่อย ๆ ใน 1-2 สัปดาห์ และจะค่อย ๆ เข้าที่ภายใน 2-3 เดือน โดยไขมันที่ฉีดเข้าไปและได้รับเลือดไปหล่อเลี้ยงนั้น จะเป็นเซลล์ไขมันใหม่ที่อยู่ได้ถาวร ทำให้ใบหน้าดูอวบอิ่ม และเต่งตึงแบบเป็นธรรมชาติ แต่ทั้งนี้อาการบวมของแต่ละคนอาจแตกต่างกับไป ขึ้นอยู่กับ เพศ วัย และปริมาณไขมันที่ฉีด บางรายอาจเกิดอาการเขียวช้ำได้บ้าง บริเวณรอบดวงตา หรือคาง ซึ่งจะค่อย ๆ หายเองภายใน 1-2 สัปดาห์ค่ะ
การดูแลหลังฉีดไขมันหน้า
หลังจากฉีดไขมันใน 24 ชั่วโมงแรก ควรงดการนวดหน้า ทาครีมและโลชั่นต่าง ๆ รวมถึงงดอบไอน้ำ ทำซาวน่า เพราะอาจทำให้ไขมันสลายตัวได้ โดยในช่วง 2-3 วันแรก ควรใช้เจลประคบเย็นบริเวณแผล และนอนยกศีรษะสูงเพื่อลดอาการบวม พร้อมกับหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารร้อน ของหมักดอง หรืออาหารแข็ง ๆ ที่ย่อยยาก งดดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และลดอาการบวม ที่สำคัญควรปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด หากพบอาการผิดปกติใด ๆ ให้รีบกลับมาพบแพทย์ทันที
สาเหตุที่ทำให้การฉีดไขมันบริเวณใบหน้ากลายเป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะว่าเป็นการทำศัลยกรรมที่ปลอดภัย ไม่ต้องใช้สารเคมี หรือสารแปลกปลอม นอกจากใช้เพียงไขมันตัวเอง ซึ่งถือเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ อีกทั้งยังไม่เจ็บตัวมากเท่าการผ่าตัดแบบอื่น ๆ และไม่มีแผลเป็น ที่สำคัญยังช่วยเติมเต็มชั้นใต้ผิวหนัง และปรับรูปหน้าให้เต่งตึง อวบอิ่ม และดูอ่อนกว่าวัย ซึ่งคล้ายกับการรักษาด้วยฟิลเลอร์ แต่ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานกว่า แต่ทั้งนี้การฉีดไขมันหน้าก็มีข้อเสียเช่นกัน คือ คนผอมหรือคนที่มีไขมันไม่มากจะไม่สามารถทำได้ อีกทั้งการฉีดไขมันหน้านั้น ยังมีโอกาสที่ไขมันบางส่วนจะสลายตัวได้เอง ซึ่งขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน จึงทำให้บางคนต้องมาฉีดไขมันซ้ำอีก 2-3 ครั้งจนกว่าจะเติมเต็มไขมันบนใบหน้าได้อย่างสมบูรณ์
ปัจจุบันการทำศัลยกรรมโดยใช้ไขมันของตัวเองเริ่มเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งหากใครสนใจอยากจะลองฉีดไขมันที่หน้า หน้าผาก แก้ม คาง หรือบริเวณส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เพื่อช่วยเติมเต็มความกระชับและลดเลือนริ้วรอย ก็ควรศึกษาหาข้อมูลและรายละเอียดให้ดี ๆ ก่อน ที่สำคัญควรเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสถานที่ที่มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือด้วยนะคะ
ข้อมูลจาก : realself.com, theprivateclinic.co.uk