x close

โจอี้ บาซู น้ำตาคลอได้กลับบ้าน หลังล้มป่วยสมองขาดเลือด ทำซีกขวาเป็นอัมพาต

           โจอี้ บาซู นั่งรถเข็น อัปเดตความคืบหน้าอาการป่วย พร้อมคณะแพทย์ หลังล้มป่วยสมองขาดเลือด-หลอดเลือดในสมองตีบ ได้กลับไปรักษาตัวที่บ้านแล้ว หลังนอนโรงพยาบาลนาน 1 เดือน 

           หลังอดีตนักร้องดัง โจอี้ บาซู ล้มป่วยด้วยอาการสมองขาดเลือด จากภาวะหลอดเลือดสมองตีบ ส่งผลให้ร่างกายด้านขวาขยับไม่ได้ ขณะที่ด้านซ้ายก็ไม่มีแรง สื่อสารได้ไม่ชัดเจน และเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้น

           ล่าสุด (24 พฤษภาคม 2561) คณะแพทย์โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ นำโดย พลอากาศตรี นายแพทย์สันติ ศรีเสริมโภค ผู้ช่วยเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พร้อมทีมแพทย์ผู้รักษา นายแพทย์เกรียงไกร ถวิลไพร แพทย์เฉพาะทางด้านโรคติดเชื้อ และแพทย์หญิงธนิศรา เรืองพัฒนาวิวัฒน์ แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู พร้อมด้วย โจอี้ บาซู ที่นั่งรถเข็นมาแถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการป่วย ซึ่งในขณะนี้ คณะแพทย์ได้ประเมินอาการและวางแผนให้เจ้าตัวกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้


           โดย นายแพทย์สันติ เผยว่า เรารับคนไข้มาตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน ด้วยอาการแขนขาอ่อนแรง พูดจาสื่อสารไม่ได้ ปัจจุบันตอนนี้คนไข้อาการดีขึ้นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งการวางแผนการรักษาตอนนี้เราไม่ได้มองแค่จะรักษาอย่างเดียว แต่เรามองถึงการฟื้นฟูในอนาคต ที่เราร่วมมือกับทางเวชศาสตร์ฟื้นฟู เพียงแต่ทางเราได้วางแผนในส่วนของตัวเราไว้หมดแล้ว ว่าจะรักษาคนไข้อย่างไร นับตั้งแต่วันที่ให้ออกจากโรงพยาบาล การที่เราออกมาให้ข่าววันนี้ ก็เป็นเหมือนการออกมาบอกว่าเราได้จบการรักษาของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สำหรับอาการทางสมอง ตอนนี้ถือว่าหยุดเรียบร้อยแล้ว ไม่มีอาการแทรกซ้อน มีแต่จะดีขึ้น เหลือแค่รอการฟื้นฟู

           ทางด้าน แพทย์หญิงธนิศรา เผยว่า เบื้องต้นตอนนี้คนไข้สามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองง่าย ๆ ในการทำกิจวัตรประจำวัน และในเรื่องของการกินอาหารที่ตอนแรกไม่สามารถกินเองทางปากได้ แต่ตอนนี้สามารถกินได้ตามปกติแล้ว ส่วนเรื่องการสื่อสารก็เช่นกัน เพราะคนไข้เข้าใจเกือบทุกอย่างเลย เพียงแต่ว่าการพูดหรือการอธิบายอาจจะไม่เก่งนัก เนื่องจากยังต้องใช้เวลาในการฝึกฝนและฟื้นฟู ขณะที่การช่วยเหลือตัวเอง คนไข้สามารถลุกขึ้น นั่ง ยืน หรือย้ายขึ้น-ลงเก้าอี้ได้ดี เพียงแต่การเดินอาจจะฝึกยากหน่อย เพราะคนไข้เป็นคนตัวใหญ่ ดังนั้นต้องฝึกฝนต่อไป แต่ถามว่าจะสามารถกลับมาเดินได้เป็นปกติไหม แนวโน้มเราต้องรอการฟื้นฟูของกล้ามเนื้อจริง ๆ ถ้าหากกล้ามเนื้อมามากขึ้น ก็อาจจะสามารถเดินได้ดีขึ้น แต่เรายังไม่สามารถระบุเวลาที่ชัดเจนได้ว่าจะเป็นเมื่อไร


           ถามว่ามีเรื่องไหนที่ควรดูแลเป็นพิเศษไหม แพทย์หญิงธนิศรา กล่าวว่า เนื่องจากแผนการรักษาหลังจากนี้ คนไข้จะไปอยู่ในสถานดูแลพักฟื้นทางด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู ดังนั้นก็จะมีทีมที่ดูแลคนไข้ต่อจากนี้เยอะมาก ทั้งทีมกายภาพบำบัด นักฝึกฝนฟื้นฟู และเรื่องของการฝึกพูด ดังนั้นเบื้องต้นจึงไม่มีอะไรน่ากังวล ส่วนการที่คนไข้จะกลับไปอยู่ที่บ้าน คนไข้ก็จะต้องฝึกฝนทักษะที่ทางโรงพยาบาลได้สอนไป เพื่อให้ไม่มีการถดถอย เรายังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด เพราะขึ้นอยู่กับความสามารถในการดูแลของทางบ้าน และการฟื้นฟูของคนไข้เอง ซึ่งในช่วง 2 สัปดาห์ที่อยู่โรงพยาบาล คนไข้ฟื้นตัวได้เร็วมาก และ ณ ตอนนี้ก็ไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไรเลย


           ทั้งนี้ โจอี้ บาซู ก็ได้เปิดใจด้วยสีหน้าสดใสว่า คุณหมอบอกว่าตอนนี้ตนเริ่มดีขึ้น ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง มันอธิบายยาก ยินดี ดีใจ ตนยังไม่มีแรง แต่สบายใจก็ไม่มีอะไร มีแต่จะดีขึ้น ส่วนเรื่องที่เพื่อน ๆ จะจัดคอนเสิร์ตช่วยเหลือ ตนก็อยากจะขอบคุณทุกคน ทั้งสื่อมวลชนและโรงพยาบาลนี้ด้วย ส่วนเรื่องคดีความ โจอี้ บาซู กล่าวว่า เรื่องเก่ามันจบไปแล้ว มีแต่จะทำตัวให้ดีขึ้น ทุกอย่างจบ และหลังจากนี้ก็จะสู้ต่อไป

           สำหรับการรักษาตัวต่อที่บ้านนั้น นายแพทย์สันติ เผยว่า ได้วางแผนกับครอบครัวของผู้ป่วยกันเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะรับช่วงต่อจากเราไป หลังจากนี้คนไข้ต้องเข้ามาตรวจบ้างเป็นปกติ และจะมีหน่วยเยี่ยมบ้านด้วย ถามว่ากลัวคนไข้เครียดไหม ก็บอกเขาว่าต้องหนักแน่น เพราะเมื่อก่อนหนักกว่านี้เยอะ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย อยู่ในสิทธิ์ 30 บาท ซึ่งโรงพยาบาลแพทย์ปัญญา ส่งมาให้ ก็มีส่วนเกินบ้าง ซึ่งคุณเบนรับผิดชอบไปเรียบร้อยครับ



ภาพจาก เฟซบุ๊ก ห้องข่าวบันเทิง

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าเช้านี้ 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
โจอี้ บาซู น้ำตาคลอได้กลับบ้าน หลังล้มป่วยสมองขาดเลือด ทำซีกขวาเป็นอัมพาต อัปเดตล่าสุด 24 พฤษภาคม 2561 เวลา 17:21:25 9,800 อ่าน
TOP