เก่ง เกียร์ R หอบหลักฐานแจ้งความเอาผิด บอย ถกลเกียรติ-ผู้บริหารช่องวัน หลังมีรายการข่าวขุดคุ้ยข้อมูล-นำเสนอผิด ๆ จนทำแม่ทรุด ไม่แก้ไข แถมท้าแจ้งความ
1. ตนไม่ได้โดนกักขัง 3 เดือน 15 วัน แต่ศาลสั่งให้รอลงอาญาและบำเพ็ญประโยชน์
2. โดนเพิกถอนใบขับขี่แค่ 3 ปี แล้วก็กลับมาทำใบขับขี่ใหม่ได้
3. ไม่ได้โดนไล่ออกจากดีเจ เป็นแค่การพักงาน ทุกวันนี้ก็ยังทำอยู่ ที่คลื่นก็ยังจ่ายประกันสังคมเช่นเดิม
4. ตนไม่ได้หมดอนาคต เพราะหลังเคลียร์คดีเสร็จ ก็ทำดีเจ พิธีกร ละคร รีวิวสินค้า พรีเซ็นเตอร์คลินิกเสริมความงาม เตะบอลดารา และเปิดธุรกิจเช่าบูชาพระเครื่องในห้าง
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบกับครอบครัวของตน คือตนไม่สามารถไปส่งลูกที่โรงเรียนได้ ลูกกลัวคนจะรู้ว่าตนเป็นพ่อ เขาไม่อยากถูกล้อเลียน ส่วนแม่ที่เป็นแฟนคลับช่องวัน เมื่อเห็นเรื่องของตนก็เครียดจนทรุด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, เฟซบุ๊ก Pattarasak Thiamprasert
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2561 นายภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ หรือ เก่ง เกียร์ R ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Pattarasak Thiamprasert ระบุข้อความว่า "ทีมงานช่องวันบอกให้ผมดำเนินการได้เต็มที่..ผมก็เลยฟ้องช่องวันตามที่คุณแนะนำแล้วนะครับ รวมถึงกรรมการทั้ง 4 ท่านด้วย" ซึ่งเจ้าตัวได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับ บริษัท จีเอ็มเอ็ม วัน ทีวี จำกัด รวมทั้งกรรมการของบริษัท 4 คนคือ นายถกลเกียรติ วีรวรรณ กับพวกอีก 3 คน
ต่อมา วันที่ 5 มิถุนายน 2561 เว็บไซต์เดลินิวส์ รายงานว่า นายภัทรศักดิ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนได้เข้ามาแจ้งความแล้ว 1 ครั้ง โดยให้ดำเนินคดีกับ นายธีมะ กาญจนไพริน หรือ จั๊ด พิธีกรรายการข่าวทางช่องวัน ในข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งในรายการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับบทสรุปของคนหัวร้อน และยกตัวอย่างกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับตน แต่ทางรายการนำเสนอข้อมูลผิด ๆ ทำให้คนเสพข่าวได้รับข้อมูลที่ไม่จริง ซึ่งผิดจรรยาบรรณ
หลังจากนั้น ทางช่องวัน ก็ส่งตัวแทนมาไกล่เกลี่ย แต่แทนที่จะขอโทษกลับอ้างว่าเป็นแค่ข่าวที่นำเสนอในฐานะสื่อมวลชนเท่านั้น และยังบอกเชิงท้าทายว่าอยากทำอะไรก็ทำ เชิญตามสบาย ทำให้ตนไม่พอใจมาก เพราะสื่อต้องเป็นกลาง ใครจะดีจะเลวอยู่ที่คนเสพข่าว แต่อย่างน้อยข้อมูลต้องถูกต้อง เช่น เรื่องการลงโทษตามกฎหมายที่ทางรายการเอาข้อมูลผิด ๆ มานำเสนอ ตนจึงต้องแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหารของช่อง
นายภัทรศักดิ์ บอกอีกว่า เมื่อผู้ดำเนินรายการให้ข้อมูลผิด ๆ แทนที่กรรมการบริษัทจะแก้ไข ขอโทษแบบผู้หลักผู้ใหญ่เพื่อให้ทุกอย่างจบ แต่กลับทำให้คนเข้าใจผิดอยู่อย่างนั้น ถือว่าเป็นการปล่อยปละละเลยไม่ยอมแก้ไขตนจึงเข้าแจ้งความ พร้อมยกตัวอย่าง 4 ข้อ ที่รายการขึ้นข้อมูลผิด ๆ คือ
1. ตนไม่ได้โดนกักขัง 3 เดือน 15 วัน แต่ศาลสั่งให้รอลงอาญาและบำเพ็ญประโยชน์
2. โดนเพิกถอนใบขับขี่แค่ 3 ปี แล้วก็กลับมาทำใบขับขี่ใหม่ได้
3. ไม่ได้โดนไล่ออกจากดีเจ เป็นแค่การพักงาน ทุกวันนี้ก็ยังทำอยู่ ที่คลื่นก็ยังจ่ายประกันสังคมเช่นเดิม
4. ตนไม่ได้หมดอนาคต เพราะหลังเคลียร์คดีเสร็จ ก็ทำดีเจ พิธีกร ละคร รีวิวสินค้า พรีเซ็นเตอร์คลินิกเสริมความงาม เตะบอลดารา และเปิดธุรกิจเช่าบูชาพระเครื่องในห้าง
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบกับครอบครัวของตน คือตนไม่สามารถไปส่งลูกที่โรงเรียนได้ ลูกกลัวคนจะรู้ว่าตนเป็นพ่อ เขาไม่อยากถูกล้อเลียน ส่วนแม่ที่เป็นแฟนคลับช่องวัน เมื่อเห็นเรื่องของตนก็เครียดจนทรุด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, เฟซบุ๊ก Pattarasak Thiamprasert