ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด รับเคยติสต์แตก เกลียดคนหลายคนทั้งที่ไม่รู้ความจริง จนลาวงการ 3 ปี เผยเรื่องหัวใจครั้งแรก กำลังคบผู้หญิงอยู่ เพราะอยู่ด้วยแล้วแฮปปี้
จู่ ๆ ก็หายไปจากวงการบันเทิงหลายคนบอกว่าติสต์แตก ?
ไม่มีใครกล้าติเรา ?
ตุ๊ยตุ่ย : ตอนนั้นไม่มีใครกล้าติเรา มันเกิดจากความหลงผิด ถ้าเราดีจริง ๆ ก็ไม่ติเตียนคนอื่น ถ้าเราดีนักเราต้องเข้าใจคนอื่น อาสามารถตัดสินคนอื่นได้ด้วยคำพูดของใครก็ตามที่เราหลง เหมือนเราไม่มีวิจารณญาณ
เห็นว่าแม่ส้ม (ส้ม ณัชพร เจ้าของรายการ) ก็โดนอาตัดสินด้วยเหรอ ?
รู้สึกยังไงที่อาเขาตัดสินเราไปเรียบร้อยแล้ว ?
ส้ม : งง คือจริง ๆ พอครีเอทีฟเขาคุยข้อมูลแล้วรู้เรื่องนี้มา เราก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมตุ่ยคิดแบบนั้น แล้วก็ไม่เคยคิดเลยว่าตุ่ยจะคิดไม่ดีกับเรา
ตุ๊ยตุ่ย : กรรมทั้งหลาย กาย วาจา ใจ กรรมที่น่าติเตียนทั้งสิ้น ที่มีต่อเพื่อนโดยที่เพื่อนไม่รู้ตัว เกิดจากที่เรารับฟังแล้วก็เชื่อคนอื่นแล้วตัดสิน คุณอาจจะคิดว่าคุณฉลาด ดีพร้อม วันหนึ่งคุณอาจจะคิดว่าคุณหลงอะไรมาก ๆ หรือศรัทธาใด ๆ คุณต้องรู้จักมีวิจารณญาณ คุณต้องใช้กาลามสูตรของพระพุทธองค์มาตรวจสอบอันนั้นด้วย มิฉะนั้นคุณจะเสียอะไรหลาย ๆ อย่าง คืออย่างอา อาไม่มีอินเนอร์เลยว่าส้มเขาทำอะไร รู้แต่ว่าเขาไม่ดีก็คือไม่ดี
ส้ม : นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เราได้ยินว่าเขาไม่ได้มีเรื่องกับเราโดยตรง เพราะในชีวิตเราไม่มีปัญหาอะไรกันเลย แล้วอยู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าไม่ชอบขี้หน้าเรา โดยที่เราก็ไม่รู้ตัว
วันนี้อยู่ด้วยกันตรงนี้มีอะไรอยากจะบอกกันไหม ?
ตุ๊ยตุ่ย : แม้ว่าเอ็งไม่เคยรู้ใด ๆ ว่าข้าเคยคิดไม่ดีใด ๆ ซึ่งก็ดีแล้วมันก็บริสุทธิ์อยู่ในนั้น ใจที่มันแปดเปื้อนคือใจของฉันที่คิดไม่ดีต่อเธอ ฟังคำผู้อื่นที่คิดไม่ดีมากกว่าความดีของเธอได้อย่างไร ในขณะนั้นฉันเป็นได้อย่างไร กรรมใด ๆ ที่น่าติเตียน ทั้งความคิด การกระทำ คำพูด ที่อาเคยทำต่อส้ม อาต้องกราบขอขมาส้มด้วย ขอให้เพื่อนอโหสิกรรมต่อเพื่อนด้วยค่ะ
อารมณ์ไหนที่อยู่ดี ๆ ก็คลายจากตรงนั้นได้ ?
ตุ๊ยตุ่ย : มันมีความเอ๊ะบางอย่าง อาว่าอาอาจจะหมดเวรหมดกรรมด้วยแหละ ในช่วงที่เราคลั่ง ๆ อยู่เนี่ย มันก็เอ๊ะนิดนึงว่าคนเราจะไม่ชอบคนอะไรเยอะแยะไปหมด แต่พอมันมีมากคนเข้าเราก็รู้สึกว่าเราเริ่มตรวจสอบ แล้วก็ถ้าเราอยู่ตรงนี้อีกจะเป็นยังไง เราก็เลยถอยออกมานิดนึง มองในแง่ดีของคนอื่นบ้าง มองคนอื่นด้วยความรัก ความเมตตาจริง ๆ บ้าง
แล้วตอนนี้อายังติดต่อกับกลุ่มเพื่อนอาที่ทำให้เรารักและศรัทธาอยู่ไหม ?
เห็นว่าไปไหว้พระขอพรด้วย ?
ตุ๊ยตุ่ย : คือที่หลุดมาได้ส่วนนึงเพราะอาจจะสิ้นเวรสิ้นกรรมด้วย แล้วก็อธิษฐานว่าสิ่งใดที่เป็นมิจฉา ความผิด คนไม่ดีได้โปรดแสดงตัวตนออกมาด้วย เราก็คิดว่าคนที่เราไม่ชอบเขาจะแสดงตัวตนออกมา ปรากฏว่าสิ่งที่เหมือนดีก็แสดงให้เราได้เห็นว่ามันไม่มีดีจริง ๆ นั่นแหละ
ประเด็นเรื่องความรักได้ข่าวว่ามีแฟนคนล่าสุดไม่ใช่ผู้ชายแล้วก็ไม่ใช่ทอม ใครจีบใครก่อน ?
เปลี่ยนจากชายมาเป็นหญิงแตกต่างกันยังไง ?
ตุ๊ยตุ่ย : เราไม่ได้รู้สึกอะไร พอมีแฟนเป็นผู้ชายบางทีก็รู้สึกอึดอัด พอเป็นผู้หญิงมันมีความรู้สึกกลมกลืน คือคนนี้เขาเป็นเพื่อนของเพื่อนอาแล้วเจอกันในกลุ่มมานาน เรารู้สึกว่าเขาใจดี คนนี้เรารู้สึกว่าเขาเป็นพลังบวก มุมมองความรักเราก็เปลี่ยนไปด้วยวัย ด้วยเวลาต่าง ๆ ทุกอย่างมันเปลี่ยนได้เสมอ
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-15.00 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
เพราะความหูเบาของตัวเองที่คิดว่าคนอื่นไม่ดีไปซะหมด ทำให้พิธีกรอารมณ์ดี ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด เกือบเสียคนดี ๆ รอบตัวไปอย่างเพื่อนซี้ ส้ม ณัชพร ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวได้มาเปิดใจชีวิตสุดติสต์แตกของตัวเองที่ทิ้งวงการหายหน้าหายตาไป
3 ปีเต็ม ผ่านรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี หนิง ปณิตา และ
เบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกร พร้อมเอ่ยอโหสิกรรม ส้ม ณัชพร กลางรายการ
จู่ ๆ ก็หายไปจากวงการบันเทิงหลายคนบอกว่าติสต์แตก ?
ตุ๊ยตุ่ย
: เป็นความเชื่อที่ผิดมากกว่า ไม่มีวิจารณญาณ ไม่มีตรงกลาง ไม่ตรวจสอบ
ตรวจทานตัวเองมันใช่ มันถูกหรือเปล่า
ไม่สังเกตคนรอบข้างว่าเขาอยากจะเตือนเรา พอถึงเวลาหนึ่งอาก็เปลี่ยนไป
หายหัวไปเลย คือมองว่าตัวเราดี พรรคพวกของเรานั้นดี
คนอื่นทำอะไรก็ไม่ถูกไม่ควร เรานึกว่าตัวเราดีเอง
ไม่มีใครกล้าติเรา ?
ตุ๊ยตุ่ย : ตอนนั้นไม่มีใครกล้าติเรา มันเกิดจากความหลงผิด ถ้าเราดีจริง ๆ ก็ไม่ติเตียนคนอื่น ถ้าเราดีนักเราต้องเข้าใจคนอื่น อาสามารถตัดสินคนอื่นได้ด้วยคำพูดของใครก็ตามที่เราหลง เหมือนเราไม่มีวิจารณญาณ
เห็นว่าแม่ส้ม (ส้ม ณัชพร เจ้าของรายการ) ก็โดนอาตัดสินด้วยเหรอ ?
ตุ๊ยตุ่ย
: โอ๊ยยย ส้มนี่ชั่วช้าเลย
คือเจ้าตัวหรือคนบางคนเขายังไม่รู้เลยว่าเขาเป็นที่ชังของอา เอาจริง ๆ
พอจะมารายการนี้เราก็คุยข้อมูลกับครีเอทีฟแล้วเราก็นึกได้ว่าเราก็เคยตัดสินส้มไว้ด้วย
ว่าส้มมันเลว แต่เราก็นึกไม่ออกที่ไปตัดสินเขา คือ ณ
ขณะนั้นเราฟังอะไรเยอะแยะว่าส้มไม่ดี เราเลยตัดสินเลย เราขี้เกียจมาสืบด้วย
เหมือนกับว่าเราฟังคนกล่าวถึงแบบนั้นแบบนี้ เรารีบเชื่อ รีบตัดสิน
รู้สึกยังไงที่อาเขาตัดสินเราไปเรียบร้อยแล้ว ?
ส้ม : งง คือจริง ๆ พอครีเอทีฟเขาคุยข้อมูลแล้วรู้เรื่องนี้มา เราก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมตุ่ยคิดแบบนั้น แล้วก็ไม่เคยคิดเลยว่าตุ่ยจะคิดไม่ดีกับเรา
ตุ๊ยตุ่ย : กรรมทั้งหลาย กาย วาจา ใจ กรรมที่น่าติเตียนทั้งสิ้น ที่มีต่อเพื่อนโดยที่เพื่อนไม่รู้ตัว เกิดจากที่เรารับฟังแล้วก็เชื่อคนอื่นแล้วตัดสิน คุณอาจจะคิดว่าคุณฉลาด ดีพร้อม วันหนึ่งคุณอาจจะคิดว่าคุณหลงอะไรมาก ๆ หรือศรัทธาใด ๆ คุณต้องรู้จักมีวิจารณญาณ คุณต้องใช้กาลามสูตรของพระพุทธองค์มาตรวจสอบอันนั้นด้วย มิฉะนั้นคุณจะเสียอะไรหลาย ๆ อย่าง คืออย่างอา อาไม่มีอินเนอร์เลยว่าส้มเขาทำอะไร รู้แต่ว่าเขาไม่ดีก็คือไม่ดี
ส้ม : นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เราได้ยินว่าเขาไม่ได้มีเรื่องกับเราโดยตรง เพราะในชีวิตเราไม่มีปัญหาอะไรกันเลย แล้วอยู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าไม่ชอบขี้หน้าเรา โดยที่เราก็ไม่รู้ตัว
ตุ๊ยตุ่ย :
ในอดีตเคยคิดว่าส้มเขาเจ๋ง สามารถเลี้ยงลูกผู้อื่นเสมือนลูกตน
วันใดต้องปล่อยก็ปล่อยเป็น คือเรารู้สึกรักแล้วก็ศรัทธามันมาก
เราผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ
วันนี้อยู่ด้วยกันตรงนี้มีอะไรอยากจะบอกกันไหม ?
ตุ๊ยตุ่ย : แม้ว่าเอ็งไม่เคยรู้ใด ๆ ว่าข้าเคยคิดไม่ดีใด ๆ ซึ่งก็ดีแล้วมันก็บริสุทธิ์อยู่ในนั้น ใจที่มันแปดเปื้อนคือใจของฉันที่คิดไม่ดีต่อเธอ ฟังคำผู้อื่นที่คิดไม่ดีมากกว่าความดีของเธอได้อย่างไร ในขณะนั้นฉันเป็นได้อย่างไร กรรมใด ๆ ที่น่าติเตียน ทั้งความคิด การกระทำ คำพูด ที่อาเคยทำต่อส้ม อาต้องกราบขอขมาส้มด้วย ขอให้เพื่อนอโหสิกรรมต่อเพื่อนด้วยค่ะ
ส้ม : สำหรับเราไม่ได้คิดว่ามันเป็นกรรมอะไรยิ่งใหญ่เลย เราดีใจที่ตุ่ยกลับมาเป็นตุ่ยเพื่อนเราคนเดิม
อารมณ์ไหนที่อยู่ดี ๆ ก็คลายจากตรงนั้นได้ ?
ตุ๊ยตุ่ย : มันมีความเอ๊ะบางอย่าง อาว่าอาอาจจะหมดเวรหมดกรรมด้วยแหละ ในช่วงที่เราคลั่ง ๆ อยู่เนี่ย มันก็เอ๊ะนิดนึงว่าคนเราจะไม่ชอบคนอะไรเยอะแยะไปหมด แต่พอมันมีมากคนเข้าเราก็รู้สึกว่าเราเริ่มตรวจสอบ แล้วก็ถ้าเราอยู่ตรงนี้อีกจะเป็นยังไง เราก็เลยถอยออกมานิดนึง มองในแง่ดีของคนอื่นบ้าง มองคนอื่นด้วยความรัก ความเมตตาจริง ๆ บ้าง
แล้วตอนนี้อายังติดต่อกับกลุ่มเพื่อนอาที่ทำให้เรารักและศรัทธาอยู่ไหม ?
ตุ๊ยตุ่ย
: ไม่เลยค่ะ รู้สึกว่าใครจะทำอะไรให้เกิดขึ้น
ถ้าเราเป็นคนมั่นคงหนักแน่นแต่แรก เราก็จะไม่มีความเสียหายของหัวใจเกิดขึ้น
ความเชื่อที่ผิดมันก็ทำให้เรากระทำที่ผิด มันทำให้เราสูญเสียเพื่อนบางคน
แต่บางคนเขาโดนเราทำไม่ดีต่อเขาไปอีก เพราะเรารู้สึกว่าเขาไม่ดี
แล้วเราก็สนิทด้วย แล้วคนคนนั้นเขาก็รักในตัวเรามาก
แล้วพอเขาโดนอะไรแบบนี้เขาก็จะเจ็บปวดใจมาก
เห็นว่าไปไหว้พระขอพรด้วย ?
ตุ๊ยตุ่ย : คือที่หลุดมาได้ส่วนนึงเพราะอาจจะสิ้นเวรสิ้นกรรมด้วย แล้วก็อธิษฐานว่าสิ่งใดที่เป็นมิจฉา ความผิด คนไม่ดีได้โปรดแสดงตัวตนออกมาด้วย เราก็คิดว่าคนที่เราไม่ชอบเขาจะแสดงตัวตนออกมา ปรากฏว่าสิ่งที่เหมือนดีก็แสดงให้เราได้เห็นว่ามันไม่มีดีจริง ๆ นั่นแหละ
ประเด็นเรื่องความรักได้ข่าวว่ามีแฟนคนล่าสุดไม่ใช่ผู้ชายแล้วก็ไม่ใช่ทอม ใครจีบใครก่อน ?
ตุ๊ยตุ่ย
: เริ่มมาจากเพื่อนกัน อยู่ด้วยกันได้
ทำอะไรด้วยกันได้คือผู้หญิงอยู่กับผู้หญิงมันดี
เรารักคนที่ข้างในมองข้ามภาพภายนอกของเขาไป
เปลี่ยนจากชายมาเป็นหญิงแตกต่างกันยังไง ?
ตุ๊ยตุ่ย : เราไม่ได้รู้สึกอะไร พอมีแฟนเป็นผู้ชายบางทีก็รู้สึกอึดอัด พอเป็นผู้หญิงมันมีความรู้สึกกลมกลืน คือคนนี้เขาเป็นเพื่อนของเพื่อนอาแล้วเจอกันในกลุ่มมานาน เรารู้สึกว่าเขาใจดี คนนี้เรารู้สึกว่าเขาเป็นพลังบวก มุมมองความรักเราก็เปลี่ยนไปด้วยวัย ด้วยเวลาต่าง ๆ ทุกอย่างมันเปลี่ยนได้เสมอ
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-15.00 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์ ล้วงลึก "ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด" เผยมีแฟนเพศเดียวกัน!