แหม่ม สุริวิภา เผยวินาทีเจอ แหม่ม คัทลียา ครั้งแรกในรอบ 12 ปี งานนี้มีตัวชา !

          แหม่ม สุริวิภา เคลียร์ปมหมางใจ แหม่ม คัทลียา รับเจอกันครั้งแรกในรอบ 12 ปี ถึงกับชาไปทั้งตัว ยันไม่ปิดโอกาสร่วมงาน

          หลังอดีตพี่น้องสุดเลิฟร่วมวงการอย่าง 2 แหม่ม แหม่ม สุริวิภา และ แหม่ม คัทลียา ออกมาประกาศปิดฉากเรื่องราวความบาดหมางใจกับเรื่องราวดราม่าที่เคยเป็นข่าวฮือฮาเมื่อ 12 ปี ก่อน จนทำให้ทั้งคู่ ซดเกาเหลาชามโตตัดสัมพันธ์ความเป็นพี่น้องกันไป ก่อนจะมีข่าวว่าทั้งคู่ได้กลับมาคืนดีกันแล้วหลังปล่อยปัญหาค้างคากันมาเป็น 10 ปี แถมยังมีภาพโผกอดกันกลางรายการ ทำเอาแฟนคลับต่างปลื้มปริ่มไปตาม ๆ กัน

          ล่าสุด (10 กรกฎาคม 2561) แหม่ม สุริวิภา ก็ได้ควงคุณสามี บ๊อบบี้ โรเบิร์ต มาเปิดใจถึงความรู้สึกที่ได้เจอกันเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ว่า จริง ๆ เราเคยเจอกันก่อนหน้านั้นแล้ว เพราะคุณแม่ของน้องแหม่ม เป็นคนประสานให้เราได้เจอกัน ยอมรับว่าวันนั้นเราตื่นเต้นกว่าวันที่ไปอัดรายการอีก แค่รู้สึกว่า เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน และครั้งแรกที่เราได้เจอกัน ก็มีทักทายกอดเหมือนที่เราเคยทำ แต่ครั้งแรกที่เจอกันชาไปทั้งตัว คุณแม่น้องแหม่มพามาที่ร้านทำเล็บของตน


          เมื่อถามว่าได้มีโอกาสพูดคุยปรับความเข้าใจกันไหม เจ้าตัวก็เผยว่า เหมือนมันข้ามชอตไปแล้วมากกว่า ก็เลยไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเอากลับมาพูด ส่วนตัวมองว่าตอนนี้ความรู้สึกของลูก ๆ น้องแหม่มสำคัญที่สุด ทุกคนถามว่าเราต้องเคลียร์อะไรต้องปรับอะไรกันไหม แต่สำหรับตนคิดว่าปัจจุบันนี้น้อง ๆ ก็โตขึ้นทุกวัน น้องอ่านหนังสือได้ อาจจะเสพสื่อโดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่ ถ้าความรู้สึกของน้องถูกกระทบกระเทือน โดยสื่อหรือว่าด้วยความที่น้องไม่เข้าใจ มันจะกลายเป็นว่าต้องมาเล่าให้น้อง ๆ ฟังกันใหม่ ซึ่งมันก็จะเนิ่นนาน เราก็เลยมองว่า อะไรที่เรามองข้ามไปได้ ก็ให้มันข้ามไปดีกว่า เพื่อที่ว่าปัญหาที่มันเคยเกิด จะได้ไม่กลายเป็นปัญหาใหม่สำหรับคนรุ่นหลานเรา เลยมองว่าอันไหนที่มองข้ามได้ เราก็ไม่ควรมองย้อนกลับไปอีก

          ส่วนความรู้สึกของตน จริง ๆ มันก็โล่งตั้งแต่วันนั้นแล้ว มันเป็นแค่อารมณ์หนึ่งที่เรารับมือมันไม่ได้ ตนในวันนั้น ยังรับมือไม่เก่ง ไม่มีประสบการณ์ เลยไม่รู้จะรับมือกับมันอย่างไร มันก็เลยเป็นอารมณ์อย่างที่ทุกคนเห็น แต่ถ้าวันนี้มันตกผลึกขนาดนี้ ถ้ามันเกิดขึ้นอีก เราน่าจะรับมือมันได้ดีกว่า

          ถามว่าหลังจากวันนั้นได้เจอกันไหม คือเวลาเจอกันยังไม่ค่อยมีเลย เพราะว่าต่างคนต่างยุ่งอย่างที่บอก เพราะน้องแหม่มเองก็ต้องไปอังกฤษ เพราะว่าลูกคนโตเขาเรียนอยู่ที่อังกฤษ แล้วพอมีเวลาว่าง ก็ต้องดูแลอีกสองคนที่บ้าน ซึ่งนั่นก็ทำให้ไลฟ์สไตล์ของเราค่อนข้างแตกต่างกัน กับลูก ๆ เขาก็ต้องเรียกว่าเราแพ้ทางเด็กจริง ๆ

          แหม่ม สุริวิภา ยังได้ปิดท้ายถึงโอกาสที่จะกลับมาร่วมงานกันอีกว่า ยังไม่มี แต่ว่าเราสองคนก็ไม่ได้ปิดโอกาส ตนคิดว่าถ้ามันเหมาะสม และเป็นภาพที่ทุกคนคิดว่าเห็นแล้วมันเป็นบวกมากกว่าลบ มันก็น่าจะเกิดขึ้น เพียงแต่ตอนนี้ เราสองคนต่างก็ยุ่ง แล้วยังไม่ได้มีคนชวนด้วย สำหรับแฟน ๆ ที่ตามลุ้นมาตลอด 12 ปี เราก็ดีใจ คือตอนนี้เราเหมือนโล่งใจ ส่วนภาพอื่น ๆ ถ้ามาจะเกิดก็ขอให้มันเกิดจากความเป็นธรรมชาติอย่าไปฝืน หรือต้องการให้มันเกิด

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ห้องข่าวบันเทิง Workpoint