หมู ดิลก ทองวัฒนา
หมู ดิลก ทองวัฒนา
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก บริษัท ดีทอล์ค จำกัด
ในทำเนียบดารานักแสดงรุ่นพ่อ คงต้องมีชื่อของ หมู ดิลก ทองวัฒนา ติดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของวงการบันเทิงไทย เพราะเวลานี้ไม่ว่าจะเปิดทีวีไปช่องไหน บทบาทของพ่อทุกรูปแบบ มักจะรับบทโดยนักแสดงมากความสามารถคนนี้ ไม่ว่าจะเป็น คุณพ่อจอมกะล่อน คุณพ่อตกยาก หรือคุณพ่อจอมโหด ซึ่ง หมู ดิลก ทองวัฒนา ก็ทำได้ดีกับทุกคาแร็กเตอร์ จนเรียกได้ว่าเขาคือ นักแสดงตัวพ่อ (ตัวจริง) และเป็น "พ่อทุกสถานี" เสียด้วยสิ
ด้วยประสบการณ์ในวงการบันเทิงอันยาวนานกว่า 20 ปี อดีตพระเอกคนดัง หมู ดิลก ทองวัฒนา ผ่านบทเรียนชีวิต และสั่งสมประสบการณ์มาหลากหลายรูปแบบ ชีวิตของเขาไม่ได้สวยหรูอย่างที่ใคร ๆ คิด แม้ว่าปี พ.ศ.2553 อาจเป็นปีทองของเขาปีหนึ่งที่มีงานละครชุกมากถึง 10 เรื่อง และต้องจองคิวออกรายการนานถึง 3 เดือน แต่หากย้อนกลับไปดูเส้นทางที่ไม่ได้ราบรื่นนักของเขา จะพบอดีตที่เป็นแรงผลักดันให้เป็น หมู ดิลก ทองวัฒนา อย่างทุกวันนี้
หมู ดิลก ทองวัฒนา
หมู ดิลก ทองวัฒนา ควงภรรยาสาวสวย และลูกชายลูกสาว ซึ่งเป็นครอบครัวที่อบอุ่นน่ารัก มาบอกเล่าเรื่องราวชีวิต หลังจากได้รับการติดต่อจาก Deetalk บริษัทผู้ผลิตรายการ ที่นี่หมอชิต โดยเขาเล่าว่า เดิมเป็นคนจังหวัดชัยนาท และมีความฝันอยากจะเป็นนักแสดง จึงพยายามไปสมัครตามโมเดลลิ่งต่าง ๆ แต่ก็โดนปฏิเสธมานับครั้งไม่ถ้วน กระทั่งได้ไปสมัครเรียนการแสดง และได้พบกับความฝันที่เคยวาดไว้
เมื่อ หมู ดิลก ทองวัฒนา ได้เป็นนักแสดงอย่างที่ตั้งใจ โดยเป็นพระเอกที่มีผู้นิยมชมชอบอยู่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง กระทั่งอายุได้สามสิบกว่า ๆ หมู ดิลก ทองวัฒนา ก็ต้องเจอวิกฤตในเส้นทางสายบันเทิง เพราะเป็นช่วงของการผลัดเปลี่ยนพระเอกนางเอกรุ่นใหม่ วัยที่ล่วงเลยของเขา ทำให้ไม่อาจได้รับบทพระเอก หรือบทดี ๆ เช่นที่ผ่านมา ประกอบกับปัญหาชีวิตส่วนตัว ที่ต้องแยกทางกับภรรยา ...ความเศร้าและหมดหวังที่สุดในชีวิตก็มาเยือนผู้ชายคนนี้
"ช่วงที่ผลัดเปลี่ยนพระเอกนางเอก เป็นช่วงที่ดีที่สุดของเรา แต่มันกลับกำลังจะจบลง ช่วงนั้นเราฝึกฝนการแสดงมากำลังจะเก่งเลย พอตอนเก่งก็กำลังจะหมดเวลาของเราแล้ว ขณะที่ชีวิตคู่ ก็เกิดการหย่าร้าง คือก่อนแต่งงานผมเซ็นยินยอมให้ทรัพย์สินของเราตกเป็นสินเดิม คือตกเป็นของภรรยาทั้งหมด ตอนแรกก็ช็อก ไม่เชื่อ แล้วก็รับไม่ได้ ถามว่าทำไมถึงเกิดขึ้นกับเรา เราก็เชื่อว่าภรรยาเราเป็นคนดี แต่เขาคงมีเหตุผลที่ต้องไปจากเรา ตอนนั้นก็กินไม่ลง นอนไม่หลับ แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น"
วิกฤตชีวิตที่พัดผ่านเข้ามาในชีวิตของ หมู ดิลก ทองวัฒนา ทำให้เขารู้สึกขาดความเชื่อมั่นทั้งเรื่องงาน และความรัก แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้เจอกับภรรยาคนปัจจุบัน คุณเกรซ ชนินทร ทองวัฒนา ในงานการประกวดรายการหนึ่ง ซึ่งเขาต้องรับหน้าที่เป็นพิธีกร และก็ได้ทำความรู้จักกัน ก่อนที่ความสัมพันธ์ในระยะเวลาสั้น ๆ และยังคลุมเครือจะหายไป อันเนื่องมาจากคุณเกรซ ยังไม่แน่ใจในสถานภาพของพระเอกหนุ่มคนนี้เท่าไหร่นัก จากข่าวการหย่าร้างกับภรรยาเก่า
1 ปี นับจากนั้น หมู ดิลก ทองวัฒนา ได้เจอกับคุณเกรซอีกครั้งในงานอีเว้นท์ ซึ่งเป็นครั้งสำคัญที่ทำให้คนทั้งคู่ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน หลังจากที่นักแสดงหนุ่มได้แจงสภาพอย่างชัดเจน และกำลังใจจากว่าที่ภรรยาสาวในขณะนั้น ที่บอกว่าเธอพร้อมจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการนับศูนย์ไปด้วยกัน
หมู ดิลก ทองวัฒนา
"เราเปิดใจคุยกัน เกรซเขาเล่าชีวิตให้ฟังว่า เขาจบแค่ ม.3 เป็นพนักงานขายตามห้างนะ เขาสู้ชีวิตมาอย่างไร หากจะอยู่ด้วยกันก็ถึงเวลาแล้วนะที่จะต้องนับเลขให้มันถูกต้อง โดยขอให้นับเลขจากศูนย์ แม้ชีวิตมันจะยากขึ้น แต่ตอนนี้เขาขายประกัน ถ้าเราสู้ไปด้วยกัน ก็น่าจะทำให้สถานภาพครอบครัวที่ดีขึ้น เรามาเริ่มต้นกันไหม ซึ่งตอนแรกเราก็เฮ้ย เราเคยอยู่ในแต่สปอร์ตไลท์ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจนับศูนย์ด้วยกันกับเขา เพราะคิดว่าเขามีค่า คิดว่าเราเป็นผู้นำ เราต้องลองทำดูก่อน"
ทันทีที่ตัดสินใจจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ทั้งคุณหมู และคุณเกรซ นำเงินเก็บของตัวเองที่มีอยู่มารวมกัน ซึ่งฝ่ายชายที่เคยเป็นพระเอกดังมีเงินเก็บเพียงหมื่นกว่าบาทหลังจากที่ผ่านช่วงมรสุมชีวิต ขณะที่ฝ่ายภรรยาสาวมีเงิน 4 หมื่น เมื่อรวมกันได้ประมาณ 5 หมื่นบาท พวกเขานำเงินไปดาวน์บ้าน และเหลือเงินติดตัวเพียง 27 บาท จากนั้นทั้งคู่ก็ช่วยกันทำงานจนสร้างครอบครัวให้มีความสุขพร้อมหน้า
แม้ว่า หมู ดิลก ทองวัฒนา จะหยุดการแสดงไป 8 ปี จนไม่คิดแล้วว่าในวงการบันเทิงจะยังมีที่ว่างสำหรับเขา แต่แล้วเมื่อบท "พ่อ" มาถึงมือ เขาตัดสินใจรับการแสดงอีกครั้ง และประสบความสำเร็จในอาชีพนักแสดงอย่างที่เห็นกันอยู่ในทุกวันนี้ ซึ่งเขายอมรับว่า ภรรยาเป็นเหมือนกุญแจสำคัญในชีวิต ขณะที่ภรรยาคนสวย ก็ออกปากชมสามีว่า เป็นคนโรแมนติกมาก ทั้งคำพูดและการกระทำ และไม่เคยทำให้รู้สึกเสียใจ ผิดหวัง หรือรู้สึกว่าขาดอะไรไปเลยในชีวิต
"เคยมีคนบอกว่า อิจฉาเราที่มีสามีดี บางครั้งเรามาคิด ก็ยังอิจฉาตัวเองเลยเหมือนกันที่มีเขาเป็นสามี" ....และเขาคนที่ภรรยากล่าวถึงคนนี้คือ หมู ดิลก ทองวัฒนา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
บริษัท ดีทอล์ค จำกัด