x close

จุ๊บแจง สุดเจ็บช้ำ ผัวแอบกิ๊กสาวสอง เสียใจจนคิดฆ่าตัวตาย เคยขู่ฟ้องทั้งผัวทั้งชู้

          จุ๊บแจง วิมลพันธ์ เปิดใจ หลังหย่าขาดสามีที่อยู่กันมา 21 ปี เพราะฝ่ายชายแอบกิ๊กสาวประเภทสอง ช้ำร้องไห้จนไม่มีน้ำตา กินข้าวไม่ได้ ลั่นสุดท้ายทนไม่ได้ขอหย่าเอง แต่ฝ่ายชายไม่ยอม จนต้องขู่ฟ้องทั้งคู่
 

         กลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อเพจดัง หยุดเผือกไม่ได้จริงๆ เผยข่าวเมาท์ดาราหญิงชื่อดังเซ็นใบหย่าสามี หลังแต่งงาน 21 ปี เหตุเพราะฝ่ายชายมีกิ๊กเป็นสาวประเภทสอง งานนี้ทำเอาชาวเน็ตตามเผือกกันยกใหญ่ว่าดาราคนนี้เป็นใครกันแน่ และหลายคนก็พุ่งประเด็นไปที่นักแสดงรุ่นใหญ่ จุ๊บแจง วิมลพันธ์ เพราะคำใบ้หลายอย่างตรงกับตัวเธอมาก ๆ

          ล่าสุดเจ้าตัวมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกร พร้อมกับยอมรับว่าเป็นดาราหญิงคนที่สามีแอบนอกใจไปคบสาวประเภทสองจริง ๆ

มันเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวาน ?

          จุ๊บแจง : ใช่ค่ะ เขาก็หาอยู่ว่าใครกันนะที่ต้องหย่าขาดกับสามีทั้งที่คบกันมา 21 ปี จริง ๆ ไม่อยากบอกใคร เพราะเราเป็นผู้หญิง เหมือนหม้ายขันหมาก เหมือนจะแต่งงานแล้ว ที่สำคัญผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับรู้แล้ว แล้วผู้ใหญ่ในวงการหลาย ๆ ท่านที่เราเชิญท่านมาเพื่อเป็นแขก เราก็รู้สึกว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นมันจะหมุนกลับยังไง


แล้วตอนนี้คือหย่าขาดแล้ว ?

          จุ๊บแจง : หย่าแล้ว เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา จริง ๆ ก่อนหน้านั้นคนที่แบบว่า 20 ปีที่คบกันไม่ใช่ว่าไม่เคยนอกใจ ครั้งแรกเราให้อภัย คือเขาโวยวายขอออกไปอยู่ข้างนอก ซึ่งเรารักเขามาก ทำใจไม่ได้ ลงไปกราบเท้าเขาเลยแล้วกอดเขา บอกว่าจะลืมทุกอย่าง แล้วกลับมาเป็นครอบครัวได้ไหม

ครั้งหนึ่งเคยอ้อนวอนเขา ถึงขั้นลงไปกราบเท้า ณ จุดนั้นพี่คิดอะไรทำไมทำแบบนั้น ?

          จุ๊บแจง : ครอบครัวสำคัญที่สุดสำหรับเรา เวลาเรารักใครสักคนเราเต็มร้อยอยู่แล้ว คือเขาเป็นคนดีนะคะ ดูแลครอบครัวเราดี เราเป็นพี่คนโตรับผิดชอบครอบครัวอยู่แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างเวลามีแฟนเราก็จะบอกว่าครอบครัวสำคัญที่สุด ซึ่งอดีตแฟนของเราเขาเข้าใจ แต่พอวันนึงเรามารู้ว่าคนที่เรารักเขานอกใจ เราก็รู้สึกว่าเราต้องอยู่คนเดียวเหรอ ครั้งแรกให้อภัยกลับมาคบเหมือนเดิม พอครั้งสองก็เป็นอีก

เขาทำผิดมาพี่จับได้ แต่พี่ไปกราบขอเขาอยู่ อย่างงี้ผู้ชายเขาไม่ได้ใจเหรอพี่ ?

          จุ๊บแจง : อันนั้นไม่รู้ คือความรักมันไม่ได้แบ่งว่าเธอได้เปรียบ ฉันเสียเปรียบ เพราะว่าความรักของนักแสดงบางคนคิดว่าต้องแอ็คติ้งหรือเปล่า จริง ๆ มันไม่ใช่ ชีวิตจริงของเราก็คือฉันที่ต้องประคองครอบครัว ซึ่งพ่อเราเสียไปตั้งแต่มัธยมก็เลยคิดว่าการที่มีแฟนเขาเป็นฮีโร่ของเรา พอถึงวันนึงครอบครัวเราแตกแยก เขาไปมีคนอื่นเรากลับอ้อนวอน พอครั้งที่สองก็เป็นอีก


ห่างกันนานไหม ?

          จุ๊บแจง : ก็เฉลี่ยแล้วประมาณ 5-6 ปีครั้ง

บางคนใจเด็ดเลือกที่จะไปจากชีวิตผู้ชาย แต่บางคนเลือกให้อภัย แล้วการให้อภัยแล้วกลับมาใช้ชีวิตด้วยกันระหว่างทางนั้นมีความสุขไหม ?

          จุ๊บแจง : ไม่มี ระแวง ระวังมากขึ้น แล้วอะไรที่คิดว่าเราบกพร่อง เราต้องอัปตัวเองขึ้นมา ดูแลเขามากขึ้น ตอนเกิดครั้งแรก ครั้งสองเรารู้สึกว่ามันจะมีครั้งที่สามอีกไหม ระวังตลอด แต่มันก็มีครั้งสามมา

ครั้งที่สองคือจับได้ ?

          จุ๊บแจง : จับได้ค่ะ คือครั้งแรกทุบโทรศัพท์มือถือ ครั้งที่สองทุบโน้ตบุ๊ก แต่เราก็กราบและกอดเขาเหมือนเดิม ปัจจุบันนี้พูดได้เลยว่า มันรัก คือแบบคนเรามันรักมันทำอะไรได้ทุกอย่างอยู่แล้ว แต่พอครั้งที่สามมันไม่ไหวจริง ๆ มันเป็นอะไรที่แบบผู้หญิงคนนึงรับไม่ได้หรอก ก็อย่างที่ทุกคนสงสัยทำไมครั้งที่สามเราถึงไม่ยอม จะยอมได้ยังไง เพราะว่าครั้งนี้กลายเป็นสาวประเภทสอง เราตกใจ คือเรารับไม่ได้ มันเกิดอะไรขึ้น ตัวเราบกพร่องในหน้าที่ของความเป็นภรรยาหรือเปล่า สิ่งแรกของผู้หญิงต้องคิดอยู่แล้ว คือแรก ๆ เขาไม่ได้บอกเรา และเราก็ไม่ได้จับได้ เขาปกติ เพราะน้องคนนี้เป็นเด็กฝึกงาน แล้วเขามีการหยอกล้อพูดคุย คนในช่อง ทีมงานก็รู้หมด แต่เขาไม่ได้บอกเรา เราไปแค่ทำรายการเดียว ทำเสร็จก็กลับก็ไม่ได้คิดอะไร เขาสานสัมพันธ์กันถึงไหนเราก็ไม่รู้


เหตุการณ์เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ?

          จุ๊บแจง : เหตุเกิดคือวันที่ 4 เขาบอกว่าเขาต้องไปดูโลเคชั่นที่เขาใหญ่ เราก็ถามเขาทำไมต้องไปให้ทีมงานไปก็ได้  เขาก็ขึ้นเสียงฉันจะไปไหนไม่ได้เลยเหรอ ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่เราไปรับรางวัลจากละครบุพเพสันนิวาส คนเต็มเลย แล้วเขาก็ออกไปตั้งแต่ตีห้าครึ่ง เขาก็ไลน์มาบอกว่าถึงรถแล้วเดี๋ยวถึงที่แล้วจะโทร. มาบอก แต่เขาก็หายไปเลย เราเลยโทร. ไปแต่เขาปิดเครื่องตั้งแต่บ่ายสามถึงเที่ยงคืน

วันนั้นคือผิดปกติ ?

          จุ๊บแจง : ผิดสังเกตค่ะ แต่เราคิดไปถึงเรื่องอุบัติเหตุ หรือว่าโทรศัพท์หายหรือเปล่า เราก็เลยบอกแม่ว่าคนหายจะ 24 ชั่วโมงแล้วไปแจ้งความไหม แล้วหลังจากเตรียมตัวไปแจ้งความโทรศัพท์ก็เด้งว่าสามารถติดต่อเบอร์นี้ได้แล้ว เราก็โทร. ไป เขาตัดสายทิ้ง แม่โทร. ไปตัดสายทิ้ง แล้วไลน์กลับมาบอกว่า "ไม่กลับบ้าน 2-3 วันนะ เพราะเขาเครียดเรื่องงาน ขอเคลียร์ตัวเอง อย่าร้องไห้ อย่าเครียด ไม่ต้องตามหา ถามว่ารักไหม ยังรักเหมือนเดิม กลับมาเขาจะตอบทุกคำถาม และจำไว้ว่าเขาเป็นห่วงมาก นั่นคือเมสเสจเดียวที่เขาให้เรา หลังจากนั้นพี่เหมือนไม่ได้คำตอบอะไร หลังจากนั้นพี่หยิบโทรศัพท์มาดูทุกสิบนาทีว่าเขาอ่านไลน์หรือยัง โทร. หาเขา เขาไม่รับ คือคนรอมันทุกข์ทรมานใจ แต่คนไปเขาแฮปปี้ เราก็ไม่รู้เขาไปไหน เราร้องไห้จนไม่มีน้ำตา กินข้าวไม่ได้ แม่ต้องเอาน้ำแดง เอานมมาให้กิน แล้วน้องชายบอกว่านี่โน้ตบุ๊กของอดีตแฟนหรือเปล่า เราบอกใช่ แล้วเปิดดูปรากฏว่าเขาลบตั๋วที่ไปเที่ยวฮ่องกง เราก็ไปกู้ขึ้นมาแล้วมันเป็นวันเดียวกันกับที่เขาหายตัวไป แล้วพักโรงแรมที่เราเคยไปพักด้วยกัน แล้วที่ร้ายที่สุดคือ เขาเอารูปเขาที่คบกับน้องคนนี้ไปแปะไว้ในไฟล์งานต่าง ๆ มีทั้งรูปกินข้าว เดินเล่น ไปทำกิจกรรมต่าง ๆ เราเห็นแล้วมือสั่น ร้องไห้ล้มไปเลย


คนนี้คือคนที่ทำงานกับเขาด้วย ?

          จุ๊บแจง : เป็นน้องมาฝึกงาน เขาบอกว่ามีน้องมาฝึกงานวันที่ 9 มกราคม ซึ่งพี่กลับมาจากเที่ยวญี่ปุ่นกับเขาวันที่ 7 มกราคม ซึ่งพี่รู้ว่าเขาคบกันเมื่อไรคือเขาเขียนไดอารี่ถึงกันวันที่ 9 มกราคม เจอกันครั้งแรกชวนมาทำรายการก็เฉย ๆ พอวันที่ 11 คิดถึงจนทนไม่ไหว ส่งสติ๊กเกอร์สวัสดีวันพระไปให้ คือเขาไม่เคยมีโมเมนต์แบบนี้กับเรา แล้วคนเป็นแฟนไปอ่านเมสเสจแบบนี้แล้วจะรู้สึกยังไง คือเราจับได้ เรารู้ไฟลต์บิน เราสามารถตามไปที่สนามบินได้ พี่ให้เกียรติเขาก็เลยไม่ไป แล้ววันอาทิตย์เขาก็ไม่ได้กลับบ้าน พอวันจันทร์เขาก็ไปทำงานปกติ ซึ่งเราเป็นพิธีกรอยู่ที่ช่องนั้นเราสามารถไปได้แต่เราไม่ไป เราให้เกียรติเขา เราไม่อยากทำลายเขา เราไม่คิดเลยว่าเขาจะทำเราได้ขนาดนี้ พอเขากลับมาแม่ก็บอกว่าหายไปไหนนี่จุ๊บเข้าโรงพยาบาล เขาก็กินข้าวปกติแล้วก็ขึ้นห้อง

ตอนนั้นเขารู้ไหมว่าเรารู้แล้ว ?

          จุ๊บแจง : ตอนนั้นเขายังไม่รู้ จนยื้อพูดไป พูดมา จนจุ๊บทนไม่ไหวเลยบอกว่าจุ๊บรู้แล้วว่าพี่หนีไปฮ่องกงกับน้องคนนั้น พี่ทำแบบนี้กับจุ๊บได้ยังไง ตลอดเวลา 20 ปี ฉันมีผู้ชายดี ๆ เข้ามามากมาย ฉันไม่เคยนอกใจเธอเลย ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว มันไม่ได้จริง ๆ

เหตุการณ์วันที่ระเบิดเป็นไง เล่าให้ฟังหน่อย ?

          จุ๊บแจง : เขาแค่พูดว่าเธอรู้แล้วเหรอว่าฉันไปฮ่องกง เราก็บอกว่าใช่รู้ เราก็ร้องไห้ไปและพูดไปด้วย ที่ผ่านมาเธอหลอกฉันมาตลอดใช่ไหม เธอชอบแบบนี้ใช่ไหม เขาก็บอกว่าเขาขอโทษ เขาไม่รู้จริง ๆ รู้แต่ว่าเขาชอบเด็กคนนี้มาก เดี๋ยวเธอกับฉันก็ต้องไปถ่ายรายการที่ฮ่องกงอยู่แล้ว แต่น้องเขาอยากไปไหว้พระ เขาพูดแบบไม่รักษาน้ำใจกันเลย ช่วงหนึ่งเดือนที่เขายังอยู่ในบ้าน เขาไม่เคยเยียวยาเราเลย โทร. ไลน์หากัน นัดกินข้าวด้วยกัน


หลังจากที่คุยกันแล้ว เขาจบยังไง ?

          จุ๊บแจง : เขาก็พูดว่าอย่างนั้นเขาก็ออกไปอยู่ข้างนอก ไปใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ แต่ถ้าครั้งนี้เขานอกใจไปคบผู้หญิงอื่น ก็คิด 50 เปอร์เซ็นต์จะลงไปกราบเขาอีก แต่พอเป็นอันนี้เรารับไม่ได้

ความรู้สึกพี่เป็นยังไงบ้าง ?

          จุ๊บแจง : เอาง่าย ๆ เวลาขับรถกลับบ้านเราร้องไห้ทุกครั้ง เวลาพักกองเราก็อยู่ในรถแล้วก็ร้องไห้จนแบบเหมือนคนคิดวนในอ่าง พี่นั่งร้องไห้กับคนที่บ้าน น้องชายมากอดพี่บอกว่า พี่จุ๊บฟังนะ เขาบอกว่าเขาไม่ได้รักพี่แล้ว ครั้งแรกที่เขานอกใจพี่แล้วพี่ให้โอกาสเขา แล้วเขามีครั้งที่สองก็แสดงว่าเขาหมดรักพี่ไปตั้งแต่ครั้งแรกแล้วพี่เข้าใจไหม พอครั้งที่สองพี่ก็ให้โอกาสเขาอีก พี่ดูแลเขาดีขึ้นไปอีก แต่พอครั้งที่สามเขาเปลี่ยนไปแล้ว พี่เข้าใจไหม แต่ถ้าพี่อยากกลับไปเป็นครอบครัว กี้ แม่ จะไปกราบเขา อ้อนวอนให้เขากลับมาเป็นครอบครัวพี่เหมือนเดิม

แสดงว่าพี่เป็นคนขอหย่า ?

          จุ๊บแจง : ใช่ วันที่หย่า เขาก็จะไม่หย่า เขาบอกว่าเขาขอออกไปอยู่ข้างนอกเดือนสองเดือน เพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่าง วันนึงฉันอาจจะมาคุกเข่าขออยู่กับเธอก็ได้ เราก็เลยบอกว่าถ้าไม่หย่าเราจะฟ้องเขาและน้องคนนั้นด้วย


วันที่ตัดสินใจคือไม่ได้คิดอยากได้เขากลับมาแล้ว ?

          จุ๊บแจง : มันจะเป็นเหมือนเดิมมันไม่ได้แล้ว คือสิ่งแรกเหมือนเขาผิดไปแล้ว เปลี่ยนไปแล้ว เขาบอกว่าไม่เห็นเป็นไรเลย ถือว่าเขาออกไปอยู่ข้างนอก แต่ทำทุกอย่างปกติ ทั้งทำบุญ ทำความสะอาดบ้าน เที่ยวเล่น เราก็เลยบอกไม่ต้องฉันทำได้ คือทุกสิ่งทุกอย่างมันทำร้ายจิตใจเรา แต่ไม่รู้ว่าเขาจะได้คิดหรือเปล่า

จากการที่ตัดสินใจหย่า เพราะว่า 20 ปีพี่แจงไม่มีลูกด้วยกันใช่ไหม ?

          จุ๊บแจง : ไม่มี ๆ เหมือนกับพี่เลี้ยงลูก เลี้ยงหลานมาทั้งชีวิตแล้ว อายุเราสองคนก็เยอะแล้ว แล้วตัวเขาเองก็ไม่อยากมีเหมือนกัน แต่วันนี้ก็ย้อนกลับมาคิดนะที่เธอไม่อยากมีลูกกับฉันเพราะเธอเป็นแบบนี้หรือเปล่า

จริงหรือเปล่าที่อดีตแฟนเอากระเป๋าที่เราซื้อให้ไปขาย ?

          จุ๊บแจง : ก็คือว่าไปเที่ยวด้วยกัน ก็ช้อปปกติ ล่าสุดไปญี่ปุ่นก็ซื้อกระเป๋าหลุยส์ด้วยกัน ทีนี้เราก็ถามหลังเกิดเหตุการณ์ที่เขาหนีไปเที่ยวฮ่องกงว่า กระเป๋าหลุยส์ใบนี้มันหายไปไหนทำไมไม่อยู่ที่บ้าน เขาก็บอกว่าอยู่ออฟฟิศ ตอนนั้นซื้อในราคาถ้าในช็อปก็แสนอัป เราก็ถามเขาว่าพี่เอากระเป๋าจุ๊บไปขายใช่ไหม พี่เอาเงินจองตั๋ว จองที่พักใช่ไหม เขาบอกนิ่ง ๆ ก็คืออีกเรื่องหนึ่งที่เธอควรจะรู้ แต่เขาก็พูดติดตลกว่ากระเป๋าหลุยส์เวลาขายราคามันตกนะ เขาพูดแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราก็เลยบอกว่า เฮ้ย ทำไมพี่ทำแบบนี้


นาทีนั้นที่ได้ยินคำพูดแบบนี้ออกมาจากปากคนที่เราเคยรักรู้สึกยังไง ?

          จุ๊บแจง : มันเจ็บจนแบบไม่รู้จะเจ็บยังไง เราเสียใจนะ คือเราใช้เงินกระเป๋าเดียวกัน เวลาไปกินข้าว ช้อปปิ้ง เที่ยวต่างประเทศคือเราจะเป็นคนซัพพอร์ต เพราะเราหาเงินได้มากกว่า แต่เราเสียใจเพราะเงินเดือนเขาไม่เคยมาเลี้ยงข้าวเรา แต่เอาไปเลี้ยงน้องคนนั้น เอาไปซื้อของ พาไปนู่นนี่นั่น เราเลยรู้สึกว่ามันไม่แฟร์สำหรับเราเลย ก็เลยถามเขาว่าเธอทำแบบนี้มันทำร้ายจิตใจเรามาก ๆ แล้วปรากฏว่าเราเคยซื้อนาฬิกาโรเล็กซ์ให้เขาเป็นของขวัญวันเกิด ความที่เขาเอากระเป๋าไปขาย เราก็กลัวว่าเขาจะเอานาฬิกาไปขายด้วย เราก็เลยเอานาฬิกาโรเล็กซ์ของปลอมไปเปลี่ยนแล้วเอาของจริงไปเก็บไว้กับแม่ แล้ววันนึงเขาอาจจะไปช้อปปิ้ง เดินเล่น หรือเอาไปขาย เขาก็มาบอกว่าเธอมาเปลี่ยนนาฬิกาโรเล็กซ์ฉันทำไม ฉันนี่โง่จริง ๆ อยู่กับเธอมาไม่มีอะไรเลย เขาพูดแบบนี้แล้วทุบนาฬิกาโรเล็กซ์ปลอมแล้วส่งรูปมาให้เรา

ที่พี่จับได้เขาเอาของไปขายมันเป็นมูลค่าเท่าไหร่ ?

          จุ๊บแจง : จริง ๆ นาฬิกาโรเล็กซ์เขายังไม่ได้ไปขาย เพราะพี่เปลี่ยนก่อน แต่พี่ว่าน่าจะได้ประมาณหลักหมื่นอยู่แล้ว แต่ก็มีอยู่กรณีนึงที่ไปดูเงินในบัญชี แล้วเงินหายไปแล้วมันไม่มีข้อความอะไรเลย เราก็เลยคิดว่าด้วยระบบแบงก์หรืออะไร เราก็เอาบุ๊กแบงก์ไปเช็กที่ธนาคาร เขาก็บอกว่าโอนตอนตี 2-3 เข้าบัญชีนี้ ก็คือบัญชีของแฟน เราก็ถามว่ายังไง ถ้าไม่ไปแบงก์จะรู้ไหมว่าโอนเงินไป เขาบอกว่าเขาต้องใช้เงิน แล้วตื่นแต่เช้า แล้วเราก็ถามว่าทำไมพี่ลบข้อความ เขาก็บอกว่ากลัวรกเครื่องจุ๊บ


ขอย้อนถามนิดนึงอะไรที่ทำให้เขาเบื่อเรา เรื่องเซ็กส์มีผลสำคัญไหม ?

          จุ๊บแจง : เคยถามเขาตั้งแต่ครั้งแรก ว่าเรามีความบกพร่องหน้าที่ความเป็นเมียไหม เรื่องนี้หรือเปล่า เขาบอกว่าไม่ใช่ เรารองจากแม่เขา เป็นผู้หญิงคนที่สองที่รักเขามากที่สุดในชีวิต เขาไม่รู้จะหาผู้หญิงที่ไหนที่จะรักเขาได้แบบนี้ เราก็บอกเขาว่าฉันรักเธอ เธอก็รู้แล้วนี่คือสิ่งที่เธอตอบแทนฉันเหรอ ซึ่งช่วงที่เครียดหนัก ๆ พี่ไม่อยากรับรู้อะไรเลย แบบกินยาแล้วไม่ต้องตื่นขึ้นมา เคยคิดฆ่าตัวตายหลายที

แล้วอะไรที่ทำให้พี่ผ่านจุดคิดฆ่าตัวตาย ?

          จุ๊บแจง : ครอบครัวค่ะ พี่ น้อง คนรอบข้างเรา ทุกคนให้กำลังใจ พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นคนที่เป็นเพื่อนร่วมงาน คนทั่วไป รักเรามากกว่าคนที่เราคิดจะฝากชีวิตไว้กับเขา


ถ้าอดีตแฟนมาขอคืนดีเราให้ไหม ?

          จุ๊บแจง : คงไม่แล้ว เพราะว่าช่วงระยะเวลาก่อนที่เขาทำหรือหลังทำไปแล้ว และเขาเยียวยาจิตใจเรา อาจไม่แน่คือจะลืมทุกอย่าง แต่เขายืนยันจะออกไปใช้ชีวิตที่เหลือ เราก็เคารพในการตัดสินใจของเขา เพราะฉะนั้นเขาก็ต้องเคารพในการตัดสินใจของเรา เราเคยพูดว่าถ้ามีคนมาขอฉันแต่งงาน ฉันจะแต่งเลย เขาบอกว่าเธออย่าทำประชดฉันเลย เพราะเธอยังรักฉันอยู่

ทุกวันนี้พี่พร้อมจะอโหสิให้เขาทั้งสองไหม ?

          จุ๊บแจง : ทุกวันนี้ทำบุญเยอะมาก ตั้งแต่จับได้ ก็ 20 ปีเนอะ ชาติที่แล้วเราอาจจะทำเวรทำกรรมกับเขาไว้เยอะ ก็พยายามทำบุญเยอะ ๆ ให้เขามีชีวิตที่ดีกับชีวิตคู่ใหม่ที่เขาเลือก ตัวเราเองก็ขอให้มีสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต

          ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-15.00 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ จุ๊บแจง วิมลพันธ์







เรื่องที่คุณอาจสนใจ
จุ๊บแจง สุดเจ็บช้ำ ผัวแอบกิ๊กสาวสอง เสียใจจนคิดฆ่าตัวตาย เคยขู่ฟ้องทั้งผัวทั้งชู้ อัปเดตล่าสุด 2 สิงหาคม 2561 เวลา 11:45:10 14,431 อ่าน
TOP