x close

ย้ง-บอมบ์ นาดาว เปิดใจ หลัง กัปตัน พ้นครหาทำ มิ้ง ท้อง-นนกุล ไม่ต่อสัญญา

          ย้ง ทรงยศ - บอมบ์ จงจิตต์ เปิดใจ หลัง กัปตัน ชลธร พ้นข้อกล่าวหาทำ มิ้ง ศวภัทร ท้อง รับกระทบชื่อเสียง เผยสุดเสียดาย นนกุล ไม่ต่อสัญญานาดาว เป็นความผิดของค่ายเอง

          หลังจากที่นักแสดงหนุ่ม กัปตัน ชลธร พ้นคำครหา เมื่ออดีตแฟนเก่า มิ้ง ศวภัทร ออกมายอมรับแล้วว่าแต่งเรื่องอ้างว่าตัวเองท้อง ล่าสุด (5 กันยายน 2561) ย้ง ทรงยศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นาดาว บางกอก จำกัด และบอมบ์ จงจิตต์ อินทุ่ง รองผู้อำนวยการแผนกดูแลศิลปิน เปิดใจให้สัมภาษณ์ว่า เจตนาของเราก่อนหน้านั้นในเรื่องของการยื่นฟ้องทั้งหมดมันคืออยากรู้ความจริง เหตุการณ์เมื่อวานคือได้ตามสิ่งที่เราต้องการแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตัวครอบครัวกัปตัน ตัวกัปตัน หรือแม้กระทั่งเรา เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็ได้รู้ถึงเจตนาที่เราอยากได้ นั่นก็คือความจริงค่ะ

คุยกันนานไหม กว่าจะถึงกระบวนการในขั้นตอนการไกล่เกลี่ย ?

          บอมบ์ : ปกติมันเป็นขั้นตอนของศาลอยู่แล้วค่ะ พอเรายื่นฟ้องไปแล้วก็จะมีเรื่องของการยื่นมานัดไกล่เกลี่ยกันก่อน


ย้อนกลับไปทางเราอยากจะเป็นตัวกลางพาไปฝากท้องเพื่อพิสูจน์ด้วยใช่ไหม ?

          บอมบ์ : จริง ๆ ช่วงตอนนั้นก็เป็นช่วงที่เราอยากจะตรวจสอบอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าจนถึงตอนนี้พี่ไม่ค่อยอยากพูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้ว พอมันถึงจุดที่ทุกอย่างคลี่คลายไปหมดแล้วก็อยากให้เป็นเรื่องของอนาคตของทั้งสองคนแหละ ว่าในอนาคตข้างหน้าเขาจะเดินไปยังไง ใช้ชีวิตยังไง ทุกอย่างในบทเรียนมันเป็นชีวิตของเขามากกว่าค่ะ

กับเรื่องที่ผ่านมาส่งผลกระทบกับตัวกัปตันมากแค่ไหน ?

          ย้ง : ถ้าพูดถึงเรื่องความกระทบกระเทือนคงเป็นในส่วนของทางด้านจิตใจแหละครับ กัปตันเป็นน้องที่พวกเรารัก และช่วงนั้นเราก็ทำงานอยู่ด้วยกัน ออกกองละครเลือดข้นคนจาง ก็รู้สึกว่าช่วงนั้นแทบไม่ได้ช่วยพี่บอมบ์เลย เพราะตัวเองออกกองอยู่ และมีเวลาติดตามเรื่องนี้น้อยมาก แต่พี่บอมบ์จะคอยอัปเดตเรื่องรางต่าง ๆ ก็พอรู้อยู่บ้าง แต่ช่วงเวลานั้นเราก็ยังไม่รู้ความจริง เราแค่ได้ยินมาแต่ด่วนสรุปอะไรไม่ได้เลย เราเลยทำได้แค่ฟังทั้งสองฝ่าย และหาวิธีที่พิสูจน์ความจริงตรงนั้น ทีนี้พอเรื่องราวมันดำเนินต่อไปในช่วงระยะที่ผ่านมา สิ่งที่อยากจะบอกคือพอมันอยู่ในเหตุการณ์ที่ยากลำบาก ถึงจุดหนึ่งเราก็ให้คุณพ่อคุณแม่ ญาติ ๆ น้องกัปตัน และตัวน้องกัปตันเองเป็นคนตัดสินใจว่าจะเลือกไปในเส้นทางไหนกับเรื่องนี้


ทางต้นสังกัดให้กำลังใจอย่างไรบ้าง ?

          ย้ง : ทางตัวผม ตัวพี่บอมบ์ ตัวนาดาว หรือน้อง ๆ ที่ทำงานร่วมกัน มีหน้าที่ในการซัพพอร์ต ให้กำลังใจเขา เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่ออกกอง กัปตันจะดูนิ่ง ๆ เศร้า ๆ เรามีหน้าที่ได้แค่เชียร์อัป ที่ผ่านมาเวลาการทำงานอะไรก็ตาม กัปตันจะเต็มที่ตลอด เราเลยรู้สึกว่าไม่อยากให้น้องอยู่ในภาวะแบบนั้น ซึ่งก็รู้สึกดีครับที่เหตุการณ์ทุกอย่างมันคลี่คลายไปในทางที่ดี ผมว่าจริง ๆ แล้วสิ่งนี้น่าจะเป็นบทเรียนของวัยรุ่นทุกคนเนอะ ว่าเราต้องใช้ชีวิตแบบมีสติและรักตัวเองให้มาก ๆ

ตอนที่จะฟ้องกัปตันได้มาปรึกษาทางนาดาวบ้างไหม ?

          บอมบ์ : เราอยู่ในทุกกระบวนการที่ได้เข้าไปรับรู้ทุกเรื่องค่ะ จะได้รับฟังทุกรายละเอียดว่าขั้นตอนไปถึงไหนแล้ว แต่อย่างที่ทราบคือทั้งหมดจะเป็นทางครอบครัวตัดสินใจ

ถือว่าตอนนี้เรื่องจบลงไปได้ด้วยดี ?

          ย้ง : ครับ โชคดีมากเลยที่จบก่อนวันนี้ (หัวเราะ)


นาดาวโดนกระแสโจมตีหนัก เพราะทำซีรีส์วัยรุ่นสะท้อนสังคม แต่เด็กในสังกัดมีเรื่องแบบนี้ ?

          ย้ง : อยากจะบอกว่าจริง ๆ ที่ผ่านมาไม่ได้ตั้งใจจะสอนใครนะครับ เวลาที่เราทำเรื่องเกี่ยวกับวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมน หรือ Hate Love เพราะอยากเล่าเรื่องเรื่องหนึ่งให้คนดูฟัง แต่คนดูเขาจะมีความคิดหรือวิจารณญาณในการรับชมยังไง ถ้าถามพี่ว่าเหตุการณ์นี้เราได้เรียนรู้อะไร พี่ว่าดีนะ หมายถึงดีในแง่ที่ว่า ตัวพี่ ตัวพี่บอมบ์ หรือแม้แต่ตัวทุกคนในนาดาว รวมถึงตัวกัปตัน ล้วนเติบโตและเรียนรู้ผ่านเหตุการณ์นี้ว่าการใช้ชีวิตมันต้องมีสติ มันต้องระมัดระวัง ผมเลยรู้สึกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ดี ไม่เหมาะสม หรือไม่ถูกต้อง เราควรจะเรียนรู้กับมันว่าสิ่งเหล่านี้มันไม่ควรเกิดขึ้นกับเราอีก แต่พี่ก็ไม่กล้ารับปากนะว่าจะไม่เกิดขึ้นกับน้องพี่อีก

จากนี้ต้องมีการประชุมหรือเปลี่ยนกฎใหม่ของนาดาวไหม ?

          ย้ง : ถ้าน้องเป็นศิลปินในสังกัดพี่ น้องจะรู้ว่าพี่เข้มงวดมาก แต่อย่างที่รู้ ๆ กัน เพราะเราก็เคยเป็นวัยรุ่น เราก็เข้าใจว่าวัยรุ่นแต่ละคนจะมีฮอร์โมนของความพลุ่งพล่านที่บางจังหวะอาจจะขาดสติยับยั้งชั่งใจ ซึ่งเวลาที่สอนน้อง ๆ ทุกคนก็จะพยายามสอนว่า เราอย่าต้องไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยตัวเราเอง เราค่อย ๆ เรียนรู้ และควรจะเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ผ่านประสบการณ์ที่คนอื่นเขาผ่านมา เช่น น้อง ๆ นักแสดงวัยรุ่นคนอื่นหรือเด็กวัยรุ่นทั่วไปก็ตาม มันควรจะมีเหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนของชีวิตเขาได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปเจอสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเอง


แสดงว่ามันก็กระทบกับภาพลักษณ์ของศิลปินในสังกัดนาดาวของเราใช่ไหม ?

          ย้ง : กระทบอยู่แล้วครับ เพียงแต่ว่ามาถึงวันนี้ผมเชื่อว่าคนทั่ว ๆ ไป หลังจากทราบความจริงแล้วน่าจะเข้าใจเรามากขึ้น เราในฐานะที่เป็นบริษัทที่ดูแลน้องอยู่ เอาจริง ๆ ตอนนั้นวางตัวยากมาก วางตัวลำบากมาก ในพาร์ตหนึ่งเราอาจจะรู้อะไรบางอย่างมา แต่มันก็ไม่ใช่ความจริงที่มันถูกพิสูจน์ได้ ดังนั้นการวางตัวที่เราทำได้ดีที่สุดในวันนั้นเท่านั้น มาถึงวันนี้ก็รู้สึกดีใจกับกัปตันด้วย ที่ทุกอย่างมันผ่านไปได้อย่างราบรื่น ดีใจกับคุณพ่อคุณแม่ด้วย เห็นช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่เศร้ามาก ๆ เห็นช่วงเวลาที่กัปตันจะไปทำงานแล้วหน้ามันไม่ไหวแล้ว ก็เลยรู้สึกแบบสงสารน้อง ก็คิดว่าพอเหตุการณ์มันผ่านไปได้ด้วยดี หลังจากนี้อยากให้กัปตันโฟกัสในการทำงาน แล้วก็ทำให้เต็มที่กับโปรเจกต์นี้ให้ดีที่สุดครับ

บอกน้อง ๆ ในค่ายไหม ว่านี่เป็นเคสตัวอย่าง ?

          ย้ง : การห้ามไม่ได้ช่วยอะไรมั้งฮะ แนะนำว่าการอธิบายให้เขาเข้าใจมากกว่าว่าการใช้ชีวิตมันต้องระมัดระวังตัวยังไง เพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ ที่เราจะห้ามไม่ให้เขาทำโน่นทำนี่อะไรก็ตาม เพียงแต่ว่าการใช้ชีวิตมันต้องมีสติ เป็นวัยรุ่นถ้าเขาอยากใช้ชีวิตที่มีความเสี่ยง ก็ต้องพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ถ้าเด็กฉลาดก็ไม่น่าจะอยากเจอสิ่งเหล่านี้ แล้วก็ควรจะเรียนรู้จากเหตุการณ์ของคนอื่นได้


ภาพจาก Instagram nonkul

ถามถึงเรื่องที่ นน ชานน ไม่ต่อสัญญา เขาได้เข้ามาปรึกษาก่อนไหม ?

          ย้ง : เริ่มต้นอาจจะต้องให้พี่บอมบ์เล่า แต่เท้าความก่อนแล้วกันว่า จริง ๆ โดยปกตินักแสดงศิลปินในสังกัดนาดาว ก่อนหมดสัญญาเราจะมีการชวนคุณพ่อคุณแม่แล้วก็ตัวน้องเอง เข้ามาพูดคุยกันก่อนอยู่แล้วครับ ในสัญญาจะระบุว่าถ้าสัญญาหมด แล้วไม่มีการพูดคุยกัน สัญญามันจะถูกต่อโดยอัตโนมัติ ในสัญญาโดยปกติจะเป็นแบบนั้น ทีนี้ในช่วงที่พี่บอมบ์ชวนคุณพ่อคุณแม่และตัวน้องเข้ามาพูดคุย เป็นช่วงที่นนกุลทำงานอยู่ที่เมืองจีน มันก็เลยทำให้การพูดคุยนี้ยังไม่มีการนัดหมาย เราเลยยังไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วคุณพ่อคุณแม่หรือตัวน้องมีความตั้งใจอะไรไว้ มันก็เลยมาจนกระทั่งระยะเวลาสัญญามันใกล้จะหมด คุณพ่อก็เลยทำจดหมายแจ้งที่นาดาวว่าอาจจะขออนุญาตยังไม่ต่อสัญญาตอนนี้ เพราะว่าในสัญญาระบุว่า ถ้าตัดสินใจว่าอาจจะยังไม่ต่อสัญญาให้ทำจดหมายแจ้งเข้ามา ทางเราเองรู้จากจดหมาย

สาเหตุเพราะอะไร ?

          ย้ง : หลังจากนั้นพี่บอมบ์ก็จะแจ้งผู้บริหารทุกคน แล้วก็โทร. หาคุณพ่อคุณแม่ว่าอยากเข้าใจเหตุผลว่าทางเรามีการดูแลที่ขาดตกบกพร่องยังไง เราอยากพัฒนาตัวเราเอง แล้วก็ได้เกิดการพูดคุย แล้วก็เข้าใจปัญหา เข้าใจนนกุล เข้าใจคุณพ่อคุณแม่ว่าทำไมถึงเลือกที่จะไม่ต่อสัญญาในวันนี้ครับ

          บอมบ์ : ก็ได้คุยกับคุณพ่อคุณแม่คร่าว ๆ ค่ะ ส่วนใหญ่ตอนนี้ก็คืออย่างที่น้องให้สัมภาษณ์แหละ ก็เป็นช่วงเวลาที่น้องขอไปดูแลตัวเอง ในอนาคตก็ค่อยรอดูกันว่าจะเป็นประมาณไหนยังไงค่ะ


ภาพจาก Instagram nonkul

ทางนาดาวเสียใจไหม นนกำลังมาแรงเลย ?

          ย้ง : จริง ๆ ไม่ได้เสียดายเรื่องที่นนกุลกำลังมาครับ แต่ว่าเสียดายที่จริง ๆ แล้วนนกุลเป็นนักแสดงที่เราอยากทำงานด้วย คือน้อง ๆ นักแสดงทุกคนที่นาดาวชวนเข้ามาอยู่ในสังกัดเรา เป็นน้องที่เรามีความคาดหวังว่าเราอยากให้เขาเป็นนักแสดงที่เราทำงานด้วยในอนาคต ไม่ว่าจะทำซีรีส์ ทำละคร แล้วนนกุลเป็นนักแสดงที่ดี ที่ผู้กำกับหลาย ๆ คนใน GDH อยากร่วมงานด้วย แต่มันอาจจะไม่ใช่ปัญหานะ เพราะต่อให้น้องออกไปเป็นนักแสดงอิสระ ก็สามารถทำงานกับพวกเราได้อยู่ดี เพียงแต่ว่าถ้าจะพูดตรง ๆ ที่ได้คุยกับคุณพ่อคุณแม่ คิดว่าปัญหาในเรื่องการที่น้องไม่ต่อสัญญาในวันนี้ แค่วันนี้นะในอนาคตเรายังไม่รู้

สาเหตุจริง ๆ เพราะอะไร ?

          ย้ง : เป็นเรื่องว่าเหมือนระบบการทำงานบางอย่าง ของตัวนาดาวเอง ระบบเรามันล่าช้า การทำงานมันเลยทำให้เกิดความไม่ราบรื่นอะไรบางอย่างที่มันเป็นการทำงานล้วน ๆ ครับ เหมือนเราคุยกันเองในบริษัทว่าช่วง 8-9 ปีที่นาดาวเปิดบริษัทมาเราโฟกัสไปเรื่องพัฒนาศิลปิน เหมือนวันหนึ่ง GDH ฝากน้อง ๆ นักแสดงที่เคยเล่นหนังมาอยู่กับเรา เราก็อยากพัฒนาน้องกลุ่มนี้ให้เป็นเด็กที่เก่ง จนวันหนึ่ง GDH เอากลับไปเล่นหนัง แล้วเราก็หมกมุ่นอยู่แต่กับการปั้นนักแสดงให้เก่งนี่แหละ จนเราอาจจะลืมพัฒนาระบบเราเอง พัฒนาตัวเราเองให้เก่งเท่าทันน้อง พอวันหนึ่งน้องล้ำหน้าไปกว่าเรา หมายถึงเขาพัฒนาตัวเองไปไกลมาก เราอาจจะเป็นตัวที่ถ่วงอะไรบางอย่างของเขา นี่คือความจริง ผมรู้สึกว่าเคสนี้ เราประชุมบริษัทกัน แล้วเราก็บอกว่านาดาวต้องเรียนรู้จากเคสนี้ เราจะต้องก้าวผ่านเคสนี้ไปให้ได้ เราพยายามทำให้ดีที่สุด เราอาจจะคุยกับคุณพ่อคุณแม่ เราอยากให้นนกุลกลับมาอยู่กับเรา แต่ถ้าวันนั้นมันไม่เกิดขึ้น ผมเชื่อว่าเราควรจะเก่งขึ้นจากการที่นนกุลจากเราไปในวันนี้ คือเราต้องพัฒนาตัวเองให้ได้ครับ เป็นบทเรียนที่เราจะเก่งขึ้นให้ได้ครับ

ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ย้ง-บอมบ์ นาดาว เปิดใจ หลัง กัปตัน พ้นครหาทำ มิ้ง ท้อง-นนกุล ไม่ต่อสัญญา อัปเดตล่าสุด 8 กันยายน 2561 เวลา 20:15:02 13,303 อ่าน
TOP