ดี้ ชนานา เปลือยใจเล่าเรื่องอดีตหย่าสามี ไปสมัครงานแต่ถูกตราหน้าเป็นดาราตกกระป๋อง พร้อมเผยถึงฉายา ตัวแม่ท่ายาก เล่นโยคะฟิตหุ่นอวดความแซ่บ
คำว่า "เจ้าแม่ท่ายาก" มาได้ยังไง ?
ดี้ : จริง ๆ ก็ท่าไม่ค่อยยากนะคะ ใคร ๆ เขาก็ทำได้ โดยส่วนมากคนที่ออกกำลังกายหรือคนเล่นโยคะ เขาก็มักจะทำได้ค่ะ แต่ว่ามันอาจจะดูมหัศจรรย์นิดนึง ด้วยวัยที่เราเล่นอะไรแบบนี้ จริง ๆ ก็ฝึกมาประมาณ 5 ปี ช่วงก่อนก็อาการหนักถึงขนาดไปเทคคอร์สเป็นครูค่ะ แต่ว่าไม่ได้เอาไปสอนใครนะ ก็คือไว้สอนตัวเอง แต่ว่าการเล่นโยคะจริง ๆ มันไม่ได้เกี่ยวกับท่ายากนะ ที่ไปเรียนเป็นครูคือเรียนวิถีชีวิตแบบโยคะ แล้วมันจะสมถะมากขึ้น วิถีชีวิตแบบโยคะจริง ๆ แล้วมันก็คล้ายกับวิถีทางศาสนาพุทธนี่แหละค่ะ มีปล่อยวาง ทำจิตใจให้เป็นธรรมชาติ อยู่กับธรรมชาติ ไม่เบียดเบียนสัตว์ ซึ่งจริง ๆ แล้วพวกที่เป็นโยคีเขาจะเป็นมังสวิรัติ มนุษย์ไม่จำเป็นต้องกินเนื้อสัตว์ ก็สามารถมีร่างกายที่แข็งแรงได้เหมือนกัน
ทำยังไงให้มีพลังงานที่จะสามารถลุกขึ้นมาฟิตหุ่นได้แบบนี้ ?
ดี้ : อยากจะบอกว่าเราไม่ได้ออกกำลังกายเพื่อชีวิตหรือว่ามีซิกแพกมาโชว์ จริง ๆ ออกกำลังกายมาตลอดตั้งแต่สาว ๆ ส่วนซิกแพกเนี่ยมันมาเอง เราไม่ได้ประดิษฐ์ อาหารการกินเราก็กินเยอะมาก กินปกติเลย แต่แค่เป็นคนที่ออกกำลังกายมาโดยตลอดเท่านั้นเอง นอกจากไปฟิตเนสแล้วเวลาอยู่ที่บ้านก็สามารถออกกำลังกายเองได้ แรงบันดาลใจง่าย ๆ เลยค่ะ สมมตินะคะว่าคุณนั่งไทม์แมชชีนไปข้างหน้าสักประมาณอายุ 60 อัปไปแล้ว แล้วคุณก็ป่วยสารพัดโรครุมเร้า ต้องนอนกินอาหารอยู่บนเตียง แล้วคุณก็จะนึกได้ว่าทำไมตอนนั้นฉันไม่ลุกขึ้นมาออกกำลังกาย คือในขณะที่เรายังมีแรงอยู่เนี่ย อย่ามาบอกว่าฉันขี้เกียจ ฉันไม่มีแรง เริ่มตั้งแต่วันนี้ดีกว่า
จุดที่หันมา "ออกกำลังกาย" เพราะเราอกหัก "แยกทางกับสามี" จริงไหม ?
เพราะคำพูดดูถูกหรือเปล่าที่ทำให้เราหันมาออกกำลังกาย ?
ดี้ : ไม่ใช่นะ ที่ออกกำลังกายเพราะเรารู้ว่าเราต้องรับงาน แต่ว่าคำพูดนั้นก็อาจจะมีส่วน แต่ตอนนั้นเราคิดว่าเราอาจจะมาอยู่งานเบื้องหลัง ยุคนั้นมันไม่ใช่คนที่แบบแต่งงานแล้วจะกลับเข้าวงการได้ เราก็หันมาออกกำลังกายแล้วก็ประกาศลงมาลัยไทยรัฐ อุ้มลูก 2 คนลงหน้า 1 เลย ว่าพร้อมแล้วที่จะรับงาน เป็นแม่หม้ายที่แรงมากในยุคนั้น ทุกคนก็ด่ากันเละเลยว่าทำไมช่างกล้า แต่ก็ได้งานนะคะ พอกลับมาใหม่ก็เป็นผู้ร้ายตลอดเลยทีนี้
โดนเมาท์ว่าเป็น "ดาราตกกระป๋อง" ผ่านมาได้ยังไง ?
สวย แซ่บ จนผู้ชายวิ่งเข้าหา แต่ไม่เปิดรับใครเลยจริงไหม ?
ดี้ : มีค่ะ ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ตอนที่เราหย่าผู้ชายเข้ามาเยอะมาก คือเป็นผู้หญิงเรื่องมากไง ถามว่ามีคนจีบไหมมันก็มี แต่ว่าเราจะมีไปเพื่ออะไร เพราะเราก็ลูกสองแล้ว เราก็ต้องรู้ตัวเอง ถ้ามาจีบเพื่อหวังเซ็กส์ก็ไม่รู้จะมีไปทำไม คิดว่ามันไม่จำเป็น แล้วเราเป็นคนเรื่องมากในเรื่องสเปกอีก นิสัยดี หน้าตาดี ฐานะต้องใช้ได้ ชอบคนมีความรู้ พูดจารู้เรื่อง ไม่ใช่มาเกาะดิฉันไม่เอานะคะ เยอะแบบนี้จะไปหาที่ไหนมันไม่มี ไม่ได้ปิดตัวเองนะ เราก็เลยอยู่มาจนถึงป่านนี้ไงคะ
แต่ก็เคยมีแฟนหลังจากหย่าแล้ว ?
พอมีคนมาจีบลูก ๆ ว่ายังไงบ้าง ?
ดี้ : ทั้งลูกทั้งแม่เราจะคุยกันทุกเรื่องอยู่แล้ว ใครมาจีบลูกหรือลูกจะไปจีบใคร หรือลูกอกหัก แม่อกหักก็ปลอบกันไป ไม่มีใครว่าอะไร บ้านนี้เราอยู่กันแบบสบายมากเพราะเราคุยกันได้ทุกเรื่อง
ถ้าเด็ก ๆ มาจีบชอบไหม ?
แบบนี้เรียกว่าปิดประตูตายเรื่องความรักกับชีวิตไหม ?
ดี้ : ไม่ปิดนะ แต่คิดว่ามันหมดวัยแล้วไง อย่างที่บอกว่าสาวโสดยังมีอีกเยอะแยะ แล้วใครมันจะมามองเรา ผู้ชายยุคนี้มีผู้หญิงแบบเยอะมากไว้ให้ผู้ชายมอง แล้วคนก็จะบอกอีก ว่าทำไมไม่ไปดูพ่อหม้ายบ้าง แล้วพ่อหม้ายนะคะถ้าเกิดมันดีจริงผู้หญิงที่ไหนมันจะทิ้งลองคิดดูดี ๆ นะ
อยากให้ฝากถึงคนที่เป็นซิงเกิลมัม หรืออาจจะทนอยู่กับครอบครัวที่มันไม่ดีหน่อย ?
ดี้ : บางคนที่ทนอยู่ อาจจะเป็นเพราะรักนะคะ อยากให้ลองชั่งน้ำหนักดูว่ารักหรือทุกข์มันมากกว่ากัน ถ้าคุณคิดว่าอยู่ตรงนั้นแล้วมันมีความรัก ความสุข มากกว่าคุณก็อยู่ แต่ถ้าเกิดอยู่ไม่ได้ค่อยออกมา และการที่จะออกมาเนี่ยคุณต้องสตรองพอ เตรียมตัวให้พร้อม อย่าคิดว่าอนาคตจะมีใครมารักคุณมากกว่าอะไรแบบนี้ ถ้าจะก้าวออกมาคือต้องรักตัวเองค่ะ
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-15.00 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
นอกจากแสดงละครเก่งแล้ว ต้องบอกเลยว่านักแสดงรุ่นใหญ่ ดี้ ชนานา ที่ตอนนี้อายุ 55 ปี แต่ยังคงความแซ่บและสวยเช้งไม่มีเปลี่ยน
อย่างก่อนหน้านี้เจ้าตัวเพิ่งสลัดผ้าอวดหุ่นเฟิร์มในชุดบิกินี่ตัวจิ๋ว
ทำเอาโซเชียลฮือฮาไม่น้อยเลยทีเดียว ล่าสุด ดี้ ชนานา ได้มาเปิดใจถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และหนิง ปณิตา เป็นพิธีกร
คำว่า "เจ้าแม่ท่ายาก" มาได้ยังไง ?
ดี้ : จริง ๆ ก็ท่าไม่ค่อยยากนะคะ ใคร ๆ เขาก็ทำได้ โดยส่วนมากคนที่ออกกำลังกายหรือคนเล่นโยคะ เขาก็มักจะทำได้ค่ะ แต่ว่ามันอาจจะดูมหัศจรรย์นิดนึง ด้วยวัยที่เราเล่นอะไรแบบนี้ จริง ๆ ก็ฝึกมาประมาณ 5 ปี ช่วงก่อนก็อาการหนักถึงขนาดไปเทคคอร์สเป็นครูค่ะ แต่ว่าไม่ได้เอาไปสอนใครนะ ก็คือไว้สอนตัวเอง แต่ว่าการเล่นโยคะจริง ๆ มันไม่ได้เกี่ยวกับท่ายากนะ ที่ไปเรียนเป็นครูคือเรียนวิถีชีวิตแบบโยคะ แล้วมันจะสมถะมากขึ้น วิถีชีวิตแบบโยคะจริง ๆ แล้วมันก็คล้ายกับวิถีทางศาสนาพุทธนี่แหละค่ะ มีปล่อยวาง ทำจิตใจให้เป็นธรรมชาติ อยู่กับธรรมชาติ ไม่เบียดเบียนสัตว์ ซึ่งจริง ๆ แล้วพวกที่เป็นโยคีเขาจะเป็นมังสวิรัติ มนุษย์ไม่จำเป็นต้องกินเนื้อสัตว์ ก็สามารถมีร่างกายที่แข็งแรงได้เหมือนกัน
ดี้ : อยากจะบอกว่าเราไม่ได้ออกกำลังกายเพื่อชีวิตหรือว่ามีซิกแพกมาโชว์ จริง ๆ ออกกำลังกายมาตลอดตั้งแต่สาว ๆ ส่วนซิกแพกเนี่ยมันมาเอง เราไม่ได้ประดิษฐ์ อาหารการกินเราก็กินเยอะมาก กินปกติเลย แต่แค่เป็นคนที่ออกกำลังกายมาโดยตลอดเท่านั้นเอง นอกจากไปฟิตเนสแล้วเวลาอยู่ที่บ้านก็สามารถออกกำลังกายเองได้ แรงบันดาลใจง่าย ๆ เลยค่ะ สมมตินะคะว่าคุณนั่งไทม์แมชชีนไปข้างหน้าสักประมาณอายุ 60 อัปไปแล้ว แล้วคุณก็ป่วยสารพัดโรครุมเร้า ต้องนอนกินอาหารอยู่บนเตียง แล้วคุณก็จะนึกได้ว่าทำไมตอนนั้นฉันไม่ลุกขึ้นมาออกกำลังกาย คือในขณะที่เรายังมีแรงอยู่เนี่ย อย่ามาบอกว่าฉันขี้เกียจ ฉันไม่มีแรง เริ่มตั้งแต่วันนี้ดีกว่า
จุดที่หันมา "ออกกำลังกาย" เพราะเราอกหัก "แยกทางกับสามี" จริงไหม ?
ดี้
: ไม่อกหักค่ะ ดิฉันไม่เคยอกหัก คือตอนนั้นที่คิดว่าจะหย่าแล้วแน่ ๆ
คือเงินหมดแบงก์แล้วไม่เหลือแล้ว แต่ว่าพอจะหย่าจะทำยังไงดีเงินมันหมด
พอเงินหมดเราก็ต้องสมัครงาน จริง ๆ แล้วเคยเป็นดาราแล้วก็แต่งงาน
พอแต่งงานปุ๊บก็ไม่ได้รับละคร
เพราะว่าดันท้องติดกันเพราะเรามีความสามารถพิเศษเป็นแม่พันธุ์
ตอนนั้นพูดจริง ๆ คืออยากมีลูก แต่ว่าพอมาท้องสองเรารู้ว่าเราไม่รอดแน่
เพราะเราใช้ตังค์หมดแบงก์แล้ว ก็เลยเขียนจดหมายไปสมัครงาน
เป็นบริษัทเครื่องสำอางอะไรแบบนี้ เราก็คิดว่าต้องได้แน่ ๆ พอคลอดลูกคนที่ 2
ออกมาปั๊บ ตัวบวมฉึ่งเลย แล้วพอเราไปสมัครงานเขาก็พูดว่า
เคยเป็นดาราแต่ตอนนี้ตกแล้ว เขาพูดใส่หน้าเลยค่ะ
ซึ่งตอนนั้นอ้วนเพราะเพิ่งคลอดลูก แล้วเขาก็บอกเราว่าเดี๋ยวจะติดต่อกลับไป
แค่นี้เราก็รู้แล้วแหละว่าคงไม่ได้ หลังจากนั้นเราก็หันมาออกกำลังกาย
ลดความอ้วน แล้วก็ออกมาประกาศว่าฉันพร้อมแล้วที่จะหย่า
เพราะคำพูดดูถูกหรือเปล่าที่ทำให้เราหันมาออกกำลังกาย ?
ดี้ : ไม่ใช่นะ ที่ออกกำลังกายเพราะเรารู้ว่าเราต้องรับงาน แต่ว่าคำพูดนั้นก็อาจจะมีส่วน แต่ตอนนั้นเราคิดว่าเราอาจจะมาอยู่งานเบื้องหลัง ยุคนั้นมันไม่ใช่คนที่แบบแต่งงานแล้วจะกลับเข้าวงการได้ เราก็หันมาออกกำลังกายแล้วก็ประกาศลงมาลัยไทยรัฐ อุ้มลูก 2 คนลงหน้า 1 เลย ว่าพร้อมแล้วที่จะรับงาน เป็นแม่หม้ายที่แรงมากในยุคนั้น ทุกคนก็ด่ากันเละเลยว่าทำไมช่างกล้า แต่ก็ได้งานนะคะ พอกลับมาใหม่ก็เป็นผู้ร้ายตลอดเลยทีนี้
โดนเมาท์ว่าเป็น "ดาราตกกระป๋อง" ผ่านมาได้ยังไง ?
ดี้
: คือตัวเราก็เป็นตัวเราค่ะ จริง ๆ แล้วเราไม่ได้เป็นคนแรง
คือคาแรกเตอร์เราอาจจะดูแรง
เพราะว่าคนสมัยก่อนออกมาแล้วก็เล่นเป็นนางเอกไม่ได้แล้ว
สังคมไม่ยอมรับ มันไม่เหมือนยุคนี้ที่แต่งงานแล้วยังสามารถมาเล่นอะไรได้
สมัยก่อนบทอะไรมาก็ต้องเล่น เราเล่นบทแม่เร็วมากตั้งแต่ยังไม่ 30 เลย
ตอนนั้นคืออะไรก็ได้ต้องเลี้ยงลูกให้รอด
แล้วสิ่งสำคัญที่ทำให้เราต้องหันมาออกกำลังกายคือ
ในเมื่อเรากลับมารับงานแล้วรูปร่างเราก็ต้องดี
เราจะต้องแข็งแรงเพราะลูกตัวเล็ก เราเป็นแม่ม่ายลูกสอง
เราต้องเลี้ยงลูก ห้ามตายก่อนลูก แข็งแรงและไม่เจ็บไม่ป่วย
แล้วเราก็ทำมาตลอด เลิกงานมาส่วนมากเราก็จะไปอยู่แต่ตามฟิตเนส
แล้วเป็นที่เดียวที่ทำให้เรารู้สึกว่าสามารถคลายเครียดได้
ดี้ : มีค่ะ ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ตอนที่เราหย่าผู้ชายเข้ามาเยอะมาก คือเป็นผู้หญิงเรื่องมากไง ถามว่ามีคนจีบไหมมันก็มี แต่ว่าเราจะมีไปเพื่ออะไร เพราะเราก็ลูกสองแล้ว เราก็ต้องรู้ตัวเอง ถ้ามาจีบเพื่อหวังเซ็กส์ก็ไม่รู้จะมีไปทำไม คิดว่ามันไม่จำเป็น แล้วเราเป็นคนเรื่องมากในเรื่องสเปกอีก นิสัยดี หน้าตาดี ฐานะต้องใช้ได้ ชอบคนมีความรู้ พูดจารู้เรื่อง ไม่ใช่มาเกาะดิฉันไม่เอานะคะ เยอะแบบนี้จะไปหาที่ไหนมันไม่มี ไม่ได้ปิดตัวเองนะ เราก็เลยอยู่มาจนถึงป่านนี้ไงคะ
แต่ก็เคยมีแฟนหลังจากหย่าแล้ว ?
ดี้
: ก็เคยมีค่ะ แต่มันก็ไม่เวิร์กไงคะ
คือเรื่องเยอะแล้วพอเจ้าชู้มันก็จบข่าวแล้ว มันก็ไม่ไหว
ขี้โกหก ขี้หึงก็ไม่ไหว ขี้หึงนี่น่ารังเกียจที่สุด หึงแบบบ้า ๆ บอ ๆ โรคจิต
ชอบเช็กทุกอย่าง เคยมีแบบโทร. สั่งลูกน้องว่าให้ไปอัดคนนู้นคนนี้
บ้าหรือเปล่า เราก็เลยอยู่ด้วยไม่ได้
พอมีคนมาจีบลูก ๆ ว่ายังไงบ้าง ?
ดี้ : ทั้งลูกทั้งแม่เราจะคุยกันทุกเรื่องอยู่แล้ว ใครมาจีบลูกหรือลูกจะไปจีบใคร หรือลูกอกหัก แม่อกหักก็ปลอบกันไป ไม่มีใครว่าอะไร บ้านนี้เราอยู่กันแบบสบายมากเพราะเราคุยกันได้ทุกเรื่อง
ถ้าเด็ก ๆ มาจีบชอบไหม ?
ดี้
: ไม่ชอบค่ะ (หัวเราะ) เห็นเป็นลูกหมดอะ
เคยมีนะฝรั่งมาจีบส่วนมากก็เด็กหมดเลย เราก็แบบ อุ๊ยตายแล้ว !
รุ่นลูกเราหมดเลยจะเอาไปทำอะไร
แบบนี้เรียกว่าปิดประตูตายเรื่องความรักกับชีวิตไหม ?
ดี้ : ไม่ปิดนะ แต่คิดว่ามันหมดวัยแล้วไง อย่างที่บอกว่าสาวโสดยังมีอีกเยอะแยะ แล้วใครมันจะมามองเรา ผู้ชายยุคนี้มีผู้หญิงแบบเยอะมากไว้ให้ผู้ชายมอง แล้วคนก็จะบอกอีก ว่าทำไมไม่ไปดูพ่อหม้ายบ้าง แล้วพ่อหม้ายนะคะถ้าเกิดมันดีจริงผู้หญิงที่ไหนมันจะทิ้งลองคิดดูดี ๆ นะ
อยากให้ฝากถึงคนที่เป็นซิงเกิลมัม หรืออาจจะทนอยู่กับครอบครัวที่มันไม่ดีหน่อย ?
ดี้ : บางคนที่ทนอยู่ อาจจะเป็นเพราะรักนะคะ อยากให้ลองชั่งน้ำหนักดูว่ารักหรือทุกข์มันมากกว่ากัน ถ้าคุณคิดว่าอยู่ตรงนั้นแล้วมันมีความรัก ความสุข มากกว่าคุณก็อยู่ แต่ถ้าเกิดอยู่ไม่ได้ค่อยออกมา และการที่จะออกมาเนี่ยคุณต้องสตรองพอ เตรียมตัวให้พร้อม อย่าคิดว่าอนาคตจะมีใครมารักคุณมากกว่าอะไรแบบนี้ ถ้าจะก้าวออกมาคือต้องรักตัวเองค่ะ
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-15.00 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama