แอมมี่ The Bottom Blues จัดฉลองความรัก ไทร แต่เป็นแค่แฟน ไม่เรียกว่างานแต่ง

          แอมมี่ รับอยู่ก่อนแต่ง ไทร หลังลือวิวาห์ฟ้าแลบ บอกแค่ปาร์ตี้ แจงไม่พูดเยอะเกรงใจครอบครัวฝ่ายหญิง ไม่ติดตนเคยมีลูก

          เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แอมมี่ The Bottom Blues มีข่าวประกาศแต่งฟ้าแลบกับแฟนสาวคนใหม่ ไทร ปนัสยา พร้อมปล่อยภาพหวานลงอินสตาแกรม ล่าสุด (27 กันยายน 2561) ที่เจ้าตัวเดินทางมาร่วมงาน The Mall Group X AEG Partnership Announcement @ สยามภาวลัย รอยัล แกรนด์ เธียเตอร์ ชั้น 6 ศูนย์การค้าสยามพารากอน งานนี้หนุ่มแอมมี่ ก็ตอบคำถามที่หลายคนสงสัย

ข่าวว่าเพิ่งแต่งงานฟ้าแลบ ?

          แอมมี่ : จริง ๆ ตอนนี้เป็นแฟนกันครับ แต่ยังไม่ได้ฤกษ์ที่แน่นอน (หัวเราะ) ไม่หรอกครับ ก็ลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันดูครับ

แสดงว่ายังไม่มีพิธีแต่งงาน ?

          แอมมี่ : ก็ขอเป็นเรื่องส่วนตัวแล้วกันครับ (ยิ้ม)

จริง ๆ มีการแต่งงานเกิดขึ้นจริงไหม ?

          แอมมี่ : เรียกว่าเป็นปาร์ตี้แล้วกันครับ ปาร์ตี้เพื่อน ๆ มาสนุกกันครับ

ถือว่าเป็นการแต่งงานไหม ?

          แอมมี่ : ถือว่าเป็นการเฉลิมฉลองแล้วกัน (หัวเราะ)

มีแพลนจะแต่งเมื่อไร ?

          แอมมี่ : จริง ๆ ปีนี้ผมก็อายุเยอะแล้วนะ มีความรักครั้งหนึ่ง ผมก็อยากทำให้มันดีขึ้นกว่าทุก ๆ ครั้งครับ

แสดงว่าวางแพลนไว้ ?

          แอมมี่ : ถ้าหมายถึงแต่งเป็นเรื่องสาธารณะเลย ก็คงต้องคิดกันอีกทีครับ คบกันก็สักระยะแล้วครับ ไม่ได้นับว่านานเท่าไหร่ แต่เขาก็จะจำวันครบรอบได้ครับ

ก็เรียกว่าลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปก่อน ?

          แอมมี่ : ครับ เป็นสหายเลยครับ อยู่ด้วยกัน ผมทำเพลงด้วยกัน ทำงานด้วยกัน ค่อนข้างจะอยู่ด้วยกันบ่อยเลยครับ ก็อยู่ด้วยกันเลย เป็นแฟนน่ะครับ (หัวเราะ)


ยังแค่ในฐานะแฟน ยังไม่ใช่ถึงขั้นภรรยาใช่ไหม ?

          แอมมี่ : คือผมต้องขอโทษที่ไม่อยากพูดอะไรเยอะ จริง ๆ ผมก็เป็นคนตรงนะ แต่หลังจากที่ให้สัมภาษณ์อะไรไปหลาย ๆ อย่างผมรู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องของผมคนเดียวแล้ว มันกลายเป็นเรื่องของพ่อแม่เขาด้วย ผมเลยอยากจะข้ามเรื่องนี้ไป มันเป็นเรื่องของวัฒนธรรม มันเป็นเรื่องของความเคารพกันด้วยครับ ผมเลยอยากขอข้ามเรื่องนี้ไป ก็ผมรักเขา ผมพยายามจะทำให้รักครั้งนี้มันดี และผมก็โตขึ้นแล้ว ทั้งงานเพลง ทั้งงานดนตรีที่ผมทำ ผมก็ตั้งใจสร้างเนื้อสร้างตัวครับ

ตั้งใจจะสร้างเนื้อสร้างตัวกับคนนี้แล้ว ?

          แอมมี่ : เขาก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมอยากจะเริ่มทำอะไรเพื่อตัวเอง เพื่อคนอื่น เพื่อครอบครัว

ทำไมถึงถูกใจคนนี้ ?

          แอมมี่ : มันเหมือนเพลงครับ ผมเขียนเพลงได้ทุกวัน แต่เราจะรู้ว่าวันไหนที่เนื้อเพลงมันใช่ ไม่ใช่ เพราะในชีวิตเราน่าจะ 90% เลยนะเราเจอกับความไม่ใช่ ผมก็คิดว่าผมต้องรีบคว้าโอกาสนั้นไว้ คว้าความรู้สึกนั้นไว้ มันกำลังอยู่ในช่วงที่ผีเสื้อมันบิน มันเลยอาจจะฮิปปี้ไปนิดนึง (หัวเราะ)

เวลาอาจจะยังดูไม่นานมากสำหรับครั้งนี้ ?

          แอมมี่ : คบกัน 7 ปีก็เลิกกันได้ครับ ผมไม่ซีเรียสเรื่องเวลาเลย ผมคิดว่าจังหวะที่จะได้เจอคนที่ใช่มันเป็นเรื่องยากกว่าอีก

วางแพลนไว้เมื่อไหร่ว่าจะมีข่าวดี ?

          แอมมี่ : เร็วที่สุดครับ เท่าที่ทำได้นะ (ยิ้ม)

ทำไมต้องด่วนขนาดนั้น ?

          แอมมี่ : มันหลายอย่างเลยครับ มันมีเรื่องผู้ใหญ่เข้ามาด้วย และเราก็ต้องเลิกปากกล้าได้แล้ว (หัวเราะ)

ก็ต้องมีการเข้าไปสู่ขอก่อนใช่ไหม ?

          แอมมี่ : ก็อาจจะต้องมีการคุยกันเป็นกิจจะลักษณะมากกว่าครับ แต่อันนี้มันเป็นในแง่ของความสัมพันธ์ที่มันมากกว่าเราแล้วล่ะ มันก็ต้องใช้เวลาด้วย เราก็ต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยครับ ก็ต้องเตรียมตัวไว้ดี ๆ เตรียมเสื้อเกราะไป (หัวเราะ)

คุณพ่อคุณแม่เขาหวงเหรอถึงต้องใส่เสื้อเกราะไป ?

          แอมมี่ : อันนี้ต้องไปถามพ่อกับแม่เขาครับ เนี่ยให้ผมพูดถึงพ่อแม่เขา เดี๋ยวเขาก็มาว่าผมอีก (หัวเราะ) แต่ถามว่าหวงไหม ก็เป็นธรรมดาครับ ลูกสาว

น่าจะเป็นปีหน้าไหม ?

          แอมมี่ : ไม่แน่ไม่นอนเลยครับ ผมไม่ได้ดูฤกษ์อะไรอยู่แล้ว พร้อมเมื่อไรก็ได้ จังหวะชีวิตเมื่อไรมันได้มันก็ได้ แต่ก็พิสูจน์ตัวเองกันไปก่อน พิสูจน์ความสัมพันธ์กันไปก่อนว่าเราจะอยู่กันรอดไหม (หัวเราะ)

แต่ข่าวที่ว่าแต่งแล้วเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ไม่ใช่ใช่ไหม ?

          แอมมี่ : ก็เรียกว่างานฉลองดีกว่าครับ ยังไม่ได้แต่งครับ เพราะแต่งงานคืออะไรล่ะ แต่งงานคือต้องมีบาทหลวง ต้องมีประธาน แต่มันยังไม่ได้เรียกว่าอย่างนั้นครับ

เรียกว่าเป็นปาร์ตี้สละโสดเหรอ ?

          แอมมี่ : ไม่ใช่ปาร์ตี้สละโสด (หัวเราะ) ปาร์ตี้สละโสดมีไปก่อนแล้ว

อยากแต่งงานให้เร็วที่สุดเลยใช่ไหม ?

          แอมมี่ : ตอนแรกก็มีความเห็นว่าควรจะแต่งเลย แต่ตอนนี้ก็กลายเป็นกระเถิบออกไปก่อน พอหยุดคิดกันได้ ก็เลยกระเถิบออกไปก่อนครับ ในทางของสาธารณะนะครับ ก็มาคิดว่าทำไมไม่ลองดูไปก่อนว่าไปกันรอดไหม เพราะอาร์ทิสต์ทั้งคู่ (หัวเราะ)

ความรักที่ผ่านมาเราเอามาเรียนรู้กับครั้งนี้ขนาดไหน ?

          แอมมี่ : ก็เอามาครับ ผมคิดว่าผมเจอแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง และผมก็รักษามันไว้ไม่ได้ คือเขาบอกว่า ไม่ต้องมาเริ่มใหม่กับเขาแล้ว ไปเริ่มใหม่กับคนใหม่แล้วทำให้เห็นก่อน ทำให้ดูก่อน ผมก็เอาจุดที่ผมบกพร่องทั้งหมดเอากลับมาแก้ มีการคุยกันแบบผู้ใหญ่มากขึ้นว่าเราควรจะอยู่กันยังไง ปรับปรุงกันตรงไหน เราจะต้องทำอะไร ที่แน่ ๆ ก็คือเรื่องลูกของผม

ฝ่ายหญิงเขาติดใจไหมที่เราเคยมีครอบครัวมาก่อน ?

          แอมมี่ : ถ้าตัวเขาเองก็ไม่ค่อยนะครับ เขาไปดูหมอมาเขาบอกว่าไปดูที่ไหนก็บอกว่าเขาจะได้พ่อหม้าย (หัวเราะ)

รักครั้งก่อนทำให้เราเปลี่ยนไปแค่ไหน ?

          แอมมี่ : ปีนี้อยากให้ไปดูโชว์ของผมนะครับ นักข่าวหรือใครก็ตามขอให้ไปดูกัน ดูงานผม ความรักครั้งนี้เป็นเรื่องที่ยากที่สุดแล้วกัน แต่ผมก็ตั้งใจเต็มที่ ผมเอามาแก้อยู่แล้วครับ ปีนี้ผมจะ 30 แล้ว และอัลบั้มที่ 3 แล้ว เราผ่านช่วงขึ้น-ลง ๆ มาเยอะแล้ว เราต้องมีประสบการณ์และเอามาแก้ได้แล้ว นี่ก็ช้าแล้วนะ (หัวเราะ)


ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN