x close

บดินทร์ ดุ๊ก เปิดใจป่วยอัมพาตครึ่งหน้า ฉุนโดนด่าเกาะกระแสงานศพ โอ วรุฒ

          เปิดใจอดีตพระเอกดัง บดินทร์ ดุ๊ก เจอมรสุมชีวิตเป็นอัมพาตครึ่งหน้า เส้นประสาทคู่ที่ 7 อักเสบ แต่มีสิทธิ์หาย จวกคนด่าเกาะกระแสงานศพ โอ วรุฒ

          หายหน้าหายตาไปจากวงการนานเกือบ 20 ปี สำหรับอดีตพระเอกดัง บดินทร์ ดุ๊ก ที่ในวันนี้เจ้าตัวกลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง ท่ามกลางกระแสข่าวต่าง ๆ มากมาย ล่าสุด บดินทร์ ดุ๊ก ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร

ตอนนี้ทำไมต้องใส่หน้ากาก ?

          ดุ๊ก : เกาะกระแสมั้ง ป่วยครับ เขาเรียกว่าเป็นอัมพาตครึ่งหน้า แต่ข่าวไปลงว่าจะเป็นอัมพาตครึ่งตัว เพราะว่าลงไม่ละเอียด หลายคนก็โทร. กันเข้ามาใหญ่เลยว่าเป็นอะไร นอนโรงพยาบาลไหนอะไรแบบนี้ จริง ๆ เป็นแค่ครึ่งหน้าครับ

มีหลายคนเห็นไปร่วมงานศพ โอ วรุฒ เลยสงสัยว่าไปสนิทกันตอนไหน ?

          ดุ๊ก : คือจริง ๆ ในวงการบางอย่างที่ข่าวออกไปเนี่ย ประชาชนไม่ได้รับรู้ก็มี จริง ๆ เราสนิทกับใคร ทุกคนก็ไม่จำเป็นจะต้องรู้ทั้งหมด คือเราทำงานด้วยกันหลายเรื่อง แล้วก็ส่วนใหญ่เป็นละครยาวเท่านั้น อย่างเรื่อง ผู้กองยอดรัก มี 30 กว่าตอน ถ้าเรตติ้งดีมันก็ยืด ก็เท่ากับว่าละครเรื่องนี้เป็นละครปี เพราะฉะนั้นเราก็จะอยู่กันทั้งปี

ตอนป่วยได้มีไปเยี่ยมกันบ้างไหม ?

          ดุ๊ก : ตอนป่วยก่อนที่เขาจะเสียเนี่ย เราไปเชียงใหม่เราก็จะโทร. หากัน ก็ถามอาการกันอยู่ตลอด ยังเตือนเรื่องการดูแลสุขภาพ พักผ่อนให้พอ อะไรแบบนี้กันอยู่เลย แต่ก็ไม่ได้ถึงกับบ่อย คือคนในวงการสมัยก่อนจะอยู่กันแบบครอบครัว เพราะฉะนั้นมันก็จะมีความสนิทสนมกันครับ ถึงไม่เจอกัน 5 ปี 10 ปีแต่ความรู้สึกดี ๆ ความเป็นพี่เป็นน้องมันก็ยังมีครับ ไม่ใช่แค่โอนะครับ แต่มันกับทุก ๆ คน

ภาพจาก Instagram duke_duke_duke

หวังเกาะกระแสเพื่อที่จะกลับมาดังหรือเปล่า ?

          ดุ๊ก : ชอบจังเลยครับงานโชว์ตัวในงานศพ คิดได้นะครับ ผมแต่งตัวดี ๆ ไปโชว์ตัวตามงานอีเวนต์ไม่ดีกว่าเหรอ คิดได้ยังไง งานศพก็คืองานศพ ไปส่งเพื่อน ไปส่งพี่ ส่งน้อง แต่นี่กลายเป็นเกาะกระแส ลองดูจากพวงหรีดสิครับ ที่จัดงานทำไมถึงมีเยอะขนาดนั้นนั่นก็แสดงว่าโอเขามีคนที่รักเยอะ ด้วย Attitude เขาหรืออะไรต่าง ๆ เขาเป็นคนที่น่ารัก เขาไปที่ไหนก็มีแต่คนรักนะ ถ้าไม่รักกันจริงสนิทกันจริงจะไปไหมลองคิดดู

ไปเปิดเผยเรื่องอาการป่วยที่งาน โดนกล่าวหาว่าสร้างเรื่องอีก ?

          ดุ๊ก : มันเป็นจังหวะ คืออยู่มาทุกคืนก็ไม่เป็นไร จนมาคืนสุดท้าย ตอนไปยังไม่เป็นอะไรก็ยังรับแขกได้ปกติ แต่พอมาคืนสุดท้าย หลังจากที่สวดอภิธรรมอะไรเสร็จ ก็กลับมาบ้านที่พัก แล้วก็นั่งคุยกันไปคุยกันมาก็รู้สึกว่าทำไมหน้าเราตึง ๆ เราก็คิดว่าคงไม่มีอะไรก็เลยเข้านอน แล้วก็เล่นโทรศัพท์มือถือน้ำตามันก็ไหล ปากก็เริ่มตุ่ย ๆ แข็ง ๆ เราก็แปลก ๆ เลยเดินไปส่องกระจก

ครั้งแรกที่เห็นหน้าตัวเองในกระจกเป็นไง ?


          ดุ๊ก : มันก็ตกแล้วไง หน้ามันจะนิ่ง คือกล้ามเนื้อหน้าที่โดนเอฟเฟกต์มันจะไม่ทำงาน แต่ด้านที่มันปกติเราจะพูด จะยิ้มอะไรมันก็สามารถทำได้ปกติ มันเกิดขึ้นเร็วมาก สาเหตุมาจากเส้นประสาทคู่ที่ 7 อักเสบ มันสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยมาก อาจจะเกิดจากติดเชื้อไวรัส ซึ่งเปอร์เซ็นต์น้อยมาก เกิดจากการอักเสบโดยส่วนตัวของอวัยวะเอง หรืออุบัติเหตุอะไรแบบนี้ จริง ๆ มันมีเยอะมาก ต้องบอกก่อนว่าเคยเป็นมา 2 ครั้งแล้ว แต่ครั้งแรกเป็นแล้วจะหาย ครั้งนี้ถามว่าตกใจมากไหม ก็ไม่ตกใจเท่าไร แล้วก็คิดว่าเป็นอีกแล้ว แต่เป็นอีกข้างนึง เราก็เลยรู้แล้วว่าเป็นอะไร

ครั้งที่แล้วที่เป็นนานไหมกว่าจะหาย ?

          ดุ๊ก : ประมาณเกือบ 2 เดือน แต่ต้องทำกายภาพทุกวัน อย่างเช่นตอนนี้ต้องทำทุกวัน ครั้งนี้เป็นมาประมาณอาทิตย์นึงแล้ว ที่ตั้งใจมาออกคืออยากเป็นวิทยาทานกับคนที่เป็น ก็คือไม่ต้องตกใจ สามารถหายได้แต่ว่าคุณต้องขยัน กินยาให้ครบโดสที่หมอสั่ง ก็พยายามทำกายภาพ วิธีทำกายภาพก็คือไปทำที่ศูนย์กายภาพบำบัดโดยการใช้ไฟฟ้าจี้ กระตุ้นกล้ามเนื้อ เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อลีบ หลังจากนั้นก็ทำกายภาพตัวเองเขาก็จะมีท่าให้เราทำได้ แต่ละท่าก็จะประมาณ 15 ครั้ง แต่จะบอกว่าทำให้ได้มากที่สุดก็จะดีกับตัวเรา

ถ้าเกิดต้องเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิตกลัวไหม ?

          ดุ๊ก : ยังไม่คิดถึงขั้นนั้น เพราะว่าได้ทีมคุณหมอเดิม แล้วเขาทำให้เราหายได้ในครั้งนั้น เราก็ต้องโฟกัสที่ตัวเองความขยันในการออกกำลังมากกว่า เหมือนคนนอนติดเตียงที่นอนไปนาน ๆ แล้วแขนลีบขาลีบ แล้วลุกขึ้นมาทำกายภาพมันก็หายได้ แต่บางมุม เช่น มุมยิ้มมุมอะไรมันอาจจะไม่เหมือนเดิม

ตอนนี้การรักษาไปถึงขั้นไหนแล้ว ?

          ดุ๊ก : คือตอนนี้จะแบ่งเป็น 2 ทาง คือ ทางเทอราปิส เวลาเข้าที่เขาจะเห็นว่ามันกระตุ้นกลับมาได้ดีขึ้น แต่เมื่อวานไปหาคุณหมอคุณหมอประเมินด้วยสายตาเปล่า บอกว่ามันยังไม่ยกขึ้น คือถ้ามันดีมันก็ยกขึ้น คุณหมอก็เลยให้ทำสเตียรอยด์ไปอีก 1 อาทิตย์ เพื่อที่จะฆ่าเชื้อให้มันแน่นอน หลังจากนั้นถ้ายังไม่หายต้องเน้นทำกายภาพต่อ

มันกระทบกับชีวิตมากไหม ?

          ดุ๊ก : กระทบมาก ก็คืออย่างเวลาไปทำงาน ไปสอนหรืออะไรแบบนี้ มันจะพูดได้ด้านเดียว บางคำเราจะพูดไม่ได้ เสียงที่ออกมันไม่ชัด มันก็จะรำคาญนิดนึง แล้วก็เรื่องของการกิน เวลาตักอาหารเข้าปาก แล้วปากเราเปิดแค่ด้านเดียวมันก็หก เวลาดูดน้ำก็จะไหลออกทางข้างปาก ก็ต้องบีบปากอีกข้างหนึ่งไว้ การขับรถก็จะลำบากเรื่องสายตานิดนึง ก็ใช้ชีวิตลำบากนิดนึง ความรู้สึกถามว่าเศร้าไหม ก็ไม่เศร้านะมันเป็นธรรมดาของชีวิต ไม่เคยกลัวตาย เพราะเรารู้ว่ายังไงมันก็ต้องตาย แต่ขอตายแบบสบาย ๆ ได้ไหม

          ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-15.00 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
บดินทร์ ดุ๊ก เปิดใจป่วยอัมพาตครึ่งหน้า ฉุนโดนด่าเกาะกระแสงานศพ โอ วรุฒ อัปเดตล่าสุด 2 ตุลาคม 2561 เวลา 11:41:47 17,810 อ่าน
TOP