กีต้าร์ ศิริพิชญ์ สุดทน โพสต์ระบายยาวเหยียด โมโหสายการบิน ไม่ยอมให้ลูกชายคนเล็กขึ้นเครื่อง เพราะไม่มีสูติบัตรตัวจริง ทำ น้องเติมเต็ม ร้องไห้หนักมาก
ทั้งนี้ กีต้าร์ ศิริพิชญ์ ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดลงในเฟซบุ๊ก
ระบุว่า พนักงานไม่อนุญาตให้ น้องเติมเต็ม ขึ้นเครื่อง
เพราะไม่มีสูติบัตรตัวจริงมายืนยัน มีแต่ใบที่ถ่ายเอกสารมา
โดยเป็นกฎใหม่ที่เพิ่งออกมาเมื่อเดือนที่แล้ว
เมื่อถามกลับไปว่าจะต้องทำอย่างไร
พนักงานก็บอกว่าต้องกลับไปเอาสูติบัตรตัวจริงมาให้เท่านั้น
ทำเอาเจ้าตัวไม่พอใจอย่างมาก ตนไม่ได้จะทำผิดกฎ
แต่มองว่าพนักงานควรแนะนำวิธีการแก้ปัญหา ไม่ใช่แค่คืนเงิน
แล้วปล่อยให้ลูกค้าไปหาทางออกเอาเอง เด็กร้องไห้หนักแค่ไหนก็ไม่สนใจแบบนี้
สำหรับเรื่องราวทั้งหมด มีดังนี้
"สายการบินหนึ่ง... ปกติแล้ว ในชีวิตจะเป็นคนไม่วีน ไม่เหวี่ยงใครใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าคนสนิทต้าจริง ๆ จะรู้ ต้าจะเป็นคนที่.. ช่างมันเถอะ เดี๋ยวก็ผ่านไป พนักงานทำอะไร ไปที่ไหนจะพูดดี ๆ กับเค้าเสมอ เพราะรู้ว่าเค้าทำงานเหนื่อย และที่สำคัญเราเป็นที่รู้จักของทุกคน ไม่ควรทำอะไรที่เค้าจะเอาเราไปว่าลับหลังได้ แต่วันนี้ ! มันสุดจะทน ในชีวิตไม่เคยโมโหใครขนาดนี้ ยิ่งหันไปเห็นลูกร้องไห้ยิ่งรู้สึกแย่มาก ๆ ต้าไปเช็กอินที่สายการบินหนึ่งในภูเก็ตค่ะ ไปถึงก็ยื่นเอกสารทั้งครอบครัวให้ ซักพักพนักงานก็บอกว่า ของน้องผู้ชายมีสูติบัตรตัวจริงมามั้ยคะ เราก็บอกว่า ไม่มีค่ะ พอดีเอาตัว copy มา เพราะปกติบางครั้งใช้ตัว copy และต้าร์กลัวเอกสารตัวจริงหาย เพราะถ้าสูติบัตรหายจะยุ่งมาก ๆ เพราะน้องยังเป็นเด็ก ต้องหยุดเรียนไปทำ พ่อแม่ต้องไปครบ เลยเก็บไว้ และตัวจริงก็เปื่อยมาก ๆ เพราะใช้มาเกือบ 6 ปีแล้ว ถ้าขาดจะยุ่งมากเลยบอกพนักงานไปว่า รบกวนหน่อยได้มั้ยคะ นี่ยืนยันเลยค่ะว่า คุณพ่อ คุณแม่และพี่สาวตัวจริง และยื่นหน้าพาสปอร์ตของทุกคนในครอบครัวในโทรศัพท์ให้พนักงานดูว่าเป็นตัวจริงของเติมเต็ม รบกวนหน่อยได้มั้ยคะ ตอนนี้พี่มีแต่ตัว copy พนักงานบอกว่า ไม่ได้ค่ะ กฎเพิ่งออกมาเมื่อเดือนที่แล้วว่าตัองใช้เอกสารตัวจริงเท่านั้น ทางเราไม่อนุญาตให้น้องขึ้นเครื่องได้ !
น้องคะ แล้วพี่จะทำยังไง พนักงานแจ้งว่า เราแจ้งไปทางเว็บไซต์แล้วค่ะว่าต้องใช้ตัวจริง.. ยังไงน้องก็ขึ้นเครื่องกลับไม่ได้ ! อ้าว ! เลยถามพนักงานกลับไปว่า
1. ถ้าเป็นคนที่บ้านเค้าไม่มีคอม เช็กเว็บไซด์ไม่ได้ ซื้อตั๋วจากร้านทั่วไป เค้าจะทราบได้อย่างไรคะ ว่ากฎเพิ่งออก
2. ตอนนี้อยู่ภูเก็ต พี่จะเอาตัวจริงมาให้น้องได้อย่างไร คือพี่ต้องบินกลับกรุงเทพฯ เพื่อไปเอาสูติบัตรตัวจริงมาให้เหรอคะ พนักงานก็ยืนยันต่อว่า ใช่ และยังคงไม่ให้ขึ้นเครื่อง
3. ถ้าต้องให้คนที่บ้านซื้อตั๋วเครื่องบินมา เพื่อเอาสูติบัตรมาให้ พี่เก็บเอกสารไว้ในตู้ กุญแจอยู่ที่พี่ แล้วอย่างนี้จะทำอย่างไร
4. สำคัญสุด *** สมมติว่าพี่บินมากับลูก 2 คน น้องให้พี่เอาสูติบัตรตัวจริงมายืนยันแสดงว่าพี่ต้องบินกลับไปกรุงเทพฯ เอาสูติบัตรตัวจริงมาให้น้อง ลูกพี่ 6 ขวบ จะอยู่กับใคร ใครจะดูแล
5. น้องที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า ถ้าเกิดแบบนี้กับหนู หนูไม่มีเงินซื้อตั๋วใหม่เพื่อกลับไปเอาเอกสาร แล้วอย่างนี้ หนูจะทำยังไง จะพาลูกกลับบ้านยังไง !
กรณีนี้ พนักงานอาจจะแจ้งว่า ครั้งนี้อนุญาตให้น้องขึ้นเครื่องได้ แต่ครั้งหน้ารบกวนคุณแม่ เตรียมเอกสารตัวจริงมาด้วยนะคะ หรือ ให้ไปที่ตำรวจท่องเที่ยว ยืนยันว่าเอกสารนี้พ่อแม่รับรองว่า สำเนาถูกต้อง แล้วเมื่อถึงกรุงเทพฯ ให้เอาสูติบัตรตัวจริงมาแสดง แต่ ! พนักงานไม่แจ้งอะไรเลย แจ้งแค่เพียงว่า ต้องมีสูติบัตรตัวจริงเท่านั้น น้องถึงจะขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ ได้ หรือ คุณเอาเงินคืนไป ในใจคงคิดว่าจะกลับอย่างไร ก็ช่างคุณ ! เด็ก ร้องไห้หนักแค่ไหนก็ช่าง พวกคุณไปแก้ปัญหาเอาเอง !
ต้าไม่ได้ต้องการจะทำผิดกฎนะคะ พนักงานควรแนะนำแก้ไขปัญหา ไม่ใช่ว่า แค่คืนเงินแล้ว คุณก็ไปหาทางออกเอาเอง
เขียนไว้เป็นอุทาหรณ์"
ภาพจาก Instagram guitar_siripich
ภาพจาก Instagram guitar_siripich
ภาพจาก Instagram guitar_siripich
ทำเอาแฟน ๆ ตกอกตกใจ สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อล่าสุด (15
ตุลาคม 2561) กีต้าร์ ศิริพิชญ์ โพสต์เดือดผ่าน IG ว่า "เติมเต็มขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ ไม่ได้ งานนี้ยาวแน่ค่ะ
ร้อนกว่าไฟก็อารมณ์แม่นี่แหละค่ะ !!" พร้อมระบุว่า "ไม่เคยโกรธขนาดนี้
ไม่เคยเขียนขนาดนี้ นี่คือ ครั้งแรกในชีวิต !" ก่อนลงคลิปที่ น้องเติมเต็ม
ลูกชายคนเล็ก ร้องไห้หนักมากที่สนามบินแห่งหนึ่ง บอกว่า สงสารลูกจับใจ
"สายการบินหนึ่ง... ปกติแล้ว ในชีวิตจะเป็นคนไม่วีน ไม่เหวี่ยงใครใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าคนสนิทต้าจริง ๆ จะรู้ ต้าจะเป็นคนที่.. ช่างมันเถอะ เดี๋ยวก็ผ่านไป พนักงานทำอะไร ไปที่ไหนจะพูดดี ๆ กับเค้าเสมอ เพราะรู้ว่าเค้าทำงานเหนื่อย และที่สำคัญเราเป็นที่รู้จักของทุกคน ไม่ควรทำอะไรที่เค้าจะเอาเราไปว่าลับหลังได้ แต่วันนี้ ! มันสุดจะทน ในชีวิตไม่เคยโมโหใครขนาดนี้ ยิ่งหันไปเห็นลูกร้องไห้ยิ่งรู้สึกแย่มาก ๆ ต้าไปเช็กอินที่สายการบินหนึ่งในภูเก็ตค่ะ ไปถึงก็ยื่นเอกสารทั้งครอบครัวให้ ซักพักพนักงานก็บอกว่า ของน้องผู้ชายมีสูติบัตรตัวจริงมามั้ยคะ เราก็บอกว่า ไม่มีค่ะ พอดีเอาตัว copy มา เพราะปกติบางครั้งใช้ตัว copy และต้าร์กลัวเอกสารตัวจริงหาย เพราะถ้าสูติบัตรหายจะยุ่งมาก ๆ เพราะน้องยังเป็นเด็ก ต้องหยุดเรียนไปทำ พ่อแม่ต้องไปครบ เลยเก็บไว้ และตัวจริงก็เปื่อยมาก ๆ เพราะใช้มาเกือบ 6 ปีแล้ว ถ้าขาดจะยุ่งมากเลยบอกพนักงานไปว่า รบกวนหน่อยได้มั้ยคะ นี่ยืนยันเลยค่ะว่า คุณพ่อ คุณแม่และพี่สาวตัวจริง และยื่นหน้าพาสปอร์ตของทุกคนในครอบครัวในโทรศัพท์ให้พนักงานดูว่าเป็นตัวจริงของเติมเต็ม รบกวนหน่อยได้มั้ยคะ ตอนนี้พี่มีแต่ตัว copy พนักงานบอกว่า ไม่ได้ค่ะ กฎเพิ่งออกมาเมื่อเดือนที่แล้วว่าตัองใช้เอกสารตัวจริงเท่านั้น ทางเราไม่อนุญาตให้น้องขึ้นเครื่องได้ !
น้องคะ แล้วพี่จะทำยังไง พนักงานแจ้งว่า เราแจ้งไปทางเว็บไซต์แล้วค่ะว่าต้องใช้ตัวจริง.. ยังไงน้องก็ขึ้นเครื่องกลับไม่ได้ ! อ้าว ! เลยถามพนักงานกลับไปว่า
1. ถ้าเป็นคนที่บ้านเค้าไม่มีคอม เช็กเว็บไซด์ไม่ได้ ซื้อตั๋วจากร้านทั่วไป เค้าจะทราบได้อย่างไรคะ ว่ากฎเพิ่งออก
2. ตอนนี้อยู่ภูเก็ต พี่จะเอาตัวจริงมาให้น้องได้อย่างไร คือพี่ต้องบินกลับกรุงเทพฯ เพื่อไปเอาสูติบัตรตัวจริงมาให้เหรอคะ พนักงานก็ยืนยันต่อว่า ใช่ และยังคงไม่ให้ขึ้นเครื่อง
3. ถ้าต้องให้คนที่บ้านซื้อตั๋วเครื่องบินมา เพื่อเอาสูติบัตรมาให้ พี่เก็บเอกสารไว้ในตู้ กุญแจอยู่ที่พี่ แล้วอย่างนี้จะทำอย่างไร
4. สำคัญสุด *** สมมติว่าพี่บินมากับลูก 2 คน น้องให้พี่เอาสูติบัตรตัวจริงมายืนยันแสดงว่าพี่ต้องบินกลับไปกรุงเทพฯ เอาสูติบัตรตัวจริงมาให้น้อง ลูกพี่ 6 ขวบ จะอยู่กับใคร ใครจะดูแล
5. น้องที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า ถ้าเกิดแบบนี้กับหนู หนูไม่มีเงินซื้อตั๋วใหม่เพื่อกลับไปเอาเอกสาร แล้วอย่างนี้ หนูจะทำยังไง จะพาลูกกลับบ้านยังไง !
กรณีนี้ พนักงานอาจจะแจ้งว่า ครั้งนี้อนุญาตให้น้องขึ้นเครื่องได้ แต่ครั้งหน้ารบกวนคุณแม่ เตรียมเอกสารตัวจริงมาด้วยนะคะ หรือ ให้ไปที่ตำรวจท่องเที่ยว ยืนยันว่าเอกสารนี้พ่อแม่รับรองว่า สำเนาถูกต้อง แล้วเมื่อถึงกรุงเทพฯ ให้เอาสูติบัตรตัวจริงมาแสดง แต่ ! พนักงานไม่แจ้งอะไรเลย แจ้งแค่เพียงว่า ต้องมีสูติบัตรตัวจริงเท่านั้น น้องถึงจะขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ ได้ หรือ คุณเอาเงินคืนไป ในใจคงคิดว่าจะกลับอย่างไร ก็ช่างคุณ ! เด็ก ร้องไห้หนักแค่ไหนก็ช่าง พวกคุณไปแก้ปัญหาเอาเอง !
ต้าไม่ได้ต้องการจะทำผิดกฎนะคะ พนักงานควรแนะนำแก้ไขปัญหา ไม่ใช่ว่า แค่คืนเงินแล้ว คุณก็ไปหาทางออกเอาเอง
เขียนไว้เป็นอุทาหรณ์"
ภาพจาก Instagram guitar_siripich
ภาพจาก Instagram guitar_siripich