ณเดชน์ : ก็ดีใจ ไม่คิดว่าจะเข้าชิงกับเขา ถามว่าเข้าชิงจากเรื่องอะไร สาขาไหน น่าจะมาจากเรื่องเล่ห์ลับสลับร่าง เพราะดูจากรูปโปรไฟล์แล้ว
จะมีโอกาสได้ไปร่วมงานไหม ?
ณเดชน์ : ผมน่าจะติดธุระไม่ได้ไปร่วมงาน แต่ว่ายังมีนักแสดงอื่น ๆ จากทางช่อง 3 และมีผู้กำกับ พี่ใหม่ ภวัต เดินทางไปกัน มีทีมบุพเพสันนิวาส พี่หลุยส์
ดีใจไหม ?
ณเดชน์ : ส่วนตัวคงอาจจะไม่ได้ดีใจมากขนาดนั้น มันเป็นโอกาสหนึ่งในชีวิตเหมือนกันที่หน้าตาหรือว่าชื่อเสียงของเรามันได้ไปอยู่ตรงจุดจุดนั้น ซึ่งมีคนจากหลายประเทศในเอเชียเดินทางไปร่วมงานก็เป็นโอกาสที่ดีที่เขาได้เห็นหน้าเรา ได้เห็นชื่อเราแค่นั้น มันก็เป็นสิ่งที่ดีแล้ว
ถ้าได้รับรางวัล ?
ณเดชน์ : ถ้าเกิดได้รางวัลขึ้นมา ผมก็คงอะไรเนี่ยเป็นไปได้ยังไง ถ้าสมมติได้ผมว่ามันก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เราภาคภูมิใจ แต่ว่าคนทำงานก็ไม่ได้หวังที่จะต้องได้รับรางวัลอะไรขนาดนั้นอยู่แล้ว
ณเดชน์ : ก็อย่างที่ผมบอกว่าการที่มีชื่อเรา มีภาพออกไปสู่ที่อื่นบ้างมันก็เป็นเรื่องที่ดี มันก็เป็นการขยายฐานแฟนคลับ
ถามเรื่องวันลอยกระทง ?
ณเดชน์ : ก็ไม่ได้ไปลอยกระทงที่ไหน เป็นจังหวะที่ผมถ่ายละครอยู่ที่เชียงใหม่ด้วย
แต่มีญาญ่าไปด้วย ?
ณเดชน์ : อ๋อ…น้องต้องไปถ่ายละครอยู่แล้ว และผมจะกลับวันรุ่งขึ้น เลยไปกินข้าวอะไรกันหน่อย แต่ไม่ได้ลอยกระทงไปกินข้าวกินของหวานกัน เพราะน้องถ่ายละครยาว 15 วัน ที่เชียงใหม่
ก็คือจะไม่ได้เจอกันเลย ?
ณเดชน์ : ก็นั่นแหละครับ 15 วัน กว่าจะมีงานอีเวนต์อีกทีเดือนธันวาคม
ทำไมถึงไม่ไปลอยกระทงกัน ?
ณเดชน์ : อันนี้ก็แล้วแต่คนครับ บางคนก็ลอย บางคนก็ไม่รู้จะไปเบียดเสียดกับเขาทำไม แต่ละคนก็มีการขอพรหรือเรียกว่าการสังสรรค์วันลอยกระทงกันคนละแบบ บางคนก็เลือกไม่สร้างภาวะมลพิษทางน้ำ เลือกใช้กระทงธรรมชาติ
ณเดชน์ : ก็ธรรรมดาครับ
ถ้าทั้งคู่มีเวลาว่างตรงกันก็จะรีบนัดเจอกัน ?
ณเดชน์ : จะว่าอย่างนั้นก็ได้ ถ้ามีเวลาว่างก็จะได้เจอกันเพราะว่าละครก็คนละเรื่องแล้ว ถ่ายก็ถ่ายคนละที่ นาน ๆ ได้เจอกันก็แฮปปี้ แต่เราก็คุยกันปกติ
15 วัน ไม่คิดถึงเหรอ ?
ณเดชน์ : ครับ ตามนั้น ต้องไปฟังเพลงพี่เบิร์ด ธงไชย (หัวเราะ) มีหลายเพลงครับพี่ ฟังเพลงไหนโดนทุกเพลง
เวลาที่ไม่เจอกัน ญาญ่า เขาชินไหม หรือมีงอนบ้าง ?
ณเดชน์ : ไม่เลยนะครับ สำหรับญาญ่า ไม่เคยมีอารมณ์แบบนั้นเลย เขาเป็นคนที่เข้าใจอะไรได้ดีมาก ๆ เลย
เราจัดการปัญหาไม่ได้เจอกันยังไง เฟซไทม์ หรือโทร. หากันทุกวัน ?
ณเดชน์ : ไม่ขนาดนั้นครับ จริง ๆ บางส่วนเราก็มีสเปซของเรา เราเข้าใจเพราะเราเป็นนักแสดงเหมือนกัน บางทีจะมีอารมณ์อยากอยู่หรือทำอะไรคนเดียว เป็นอารมณ์ที่ต้องอยู่กับตัวเอง เราก็จะมีสเปซให้กัน เมื่อถึงเวลาต้องหันเข้าหากันมันก็จะเป็นเวลาที่พอดีกัน ไม่ใช่ว่าเราต้องเห็นหน้า หรือเฟซไทม์กันทุกวัน แต่คุยกัน ถามว่าเป็นยังไงเหนื่อยไหม ก็ปกติทุกวันอยู่แล้ว
ถามถึงคลิปที่เราบอกเป่าเปาว่าเรามีเจ้าของแล้ว ?
ณเดชน์ : อ๋อ ก็แซว พูดเล่น ๆ กับน้องครับ ไม่มีอะไร เป่าเปาน่ารักครับ น่ารัก
มีเจ้าของแล้วหมายถึงญาญ่าใช่ไหม ?
ณเดชน์ : (ยิ้ม) พี่จะเอาอะไรจากคำถามนี้ครับ พูดเล่น ๆ
คนมาแซวเยอะไหม ?
ณเดชน์ : ไม่ครับ ก็มีพี่ ๆ นักข่าวนี่แหละครับ อาจจะมีบ้างแต่ไม่ขนาดนั้น
ถามถึงที่เราติดโพลคู่รักที่คนอยากเห็นเราแต่งงานที่สุด ?
ณเดชน์ : ก็ขอบคุณครับ ที่ช่วยฝัน ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้ ก็น้อมรับไว้แล้วกันแต่ไม่ยึดติดอะไร
เราอยู่ในฐานะดารา พอถูกถามเรื่องแต่งงานเรากดดันไหม ?
ณเดชน์ : ไม่เลยครับ คือหลาย ๆ คนก็อาจจะมองว่าคู่นี้ คู่นั้น เมื่อไรจะแต่งงานกัน เป็นธรรมดาที่คนภายนอกจะคิดหรือวาดภาพฝันไว้ แต่เราไม่ได้เอามากำหนดชีวิตเราขนาดนั้น แต่ถามว่าเกี่ยวไหมที่เราเป็นดารา ผมว่าคนธรรมดาก็ไม่ต่างกันครับ เพราะอยู่ในวัยนี้ ถ้าตามธรรมเนียม อายุ 20 กว่า หรือ 30 กว่า ก็เป็นวัยที่เหมาะสมกับการแต่งงาน แต่ตัวผมเองไม่เคยถูกถาม
ยังไม่คิดเรื่องนี้ใช่ไหม ?
ณเดชน์ : ถามว่ายังไม่คิดเลยมันก็ไม่ได้นะครับ เพราะเวลามันผ่านไปเร็ว หลาย ๆ อย่างเราก็ต้องแพลนไว้ด้วย แต่ว่าอะไรจะเป็นยังไงก็ต้องดูกันไปแต่ละวัน
เราวางแผนในการสร้างครอบครัวไว้บ้างหรือยัง ?
ณเดชน์ : ผมว่าคนธรรมดาก็น่าจะมีความฝันนะครับ น่าจะเป็นฝันที่สวยงาม แต่ฝันนั้นจะเป็นจริงได้ไหมมันก็อยู่กับว่าขึ้นอยู่กับใคร สิ่งแวดล้อม ครอบครัวเป็นยังไง การที่ฝันมันจะเป็นจริงได้มันไม่ได้มาจากเราเองคนเดียว
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN