ตุ๊ก ดวงตา รับในอดีตเคยหวงลูกชายหนักมาก ถึงขั้นด่าแฟนลูกกระเจิง พ่อแม่ไม่สั่งสอน แถมเคยโมโหอดีตแฟนหนุ่มจนถึงขั้นอยากฆ่าให้ตาย แต่เปลี่ยนได้เพราะมีธรรมะเข้าช่วย
แล้วลูกชายมีแบบพาผู้หญิงมาบ้านบ้างไหม ?
แล้วผู้หญิงคนนั้นหายไปจากลูกแม่ไหม ?
ตุ๊ก : หายไปสิใครจะกล้า หรือว่ามันอาจจะแอบไปเจอกันข้างนอกเราก็ไม่รู้นะ แต่ ณ บัดนั้นเขาก็ไม่เคยมาเหยียบบ้านอีกเลย จริง ๆ เราเป็นคนอาละวาดแบบนี้ เวลาผู้หญิงโทร. มาเรารับสาย เมื่อก่อนยังไม่มีโทรศัพท์มือถือเขาก็บอกว่าขอพูดกับพัตเตอร์หน่อย เราก็บอกได้แป๊บนึงนะลูก แล้วเราก็แกล้งเรียกลูก เตอร์ครับบีโทร. มาลูก บีคนที่สวย ๆ ที่แม่เจอวันนั้นใช่ไหม แต่ในสายคือเอ เสร็จแล้วห่วงลูกหนีเที่ยวเราก็ล็อกห้องจากข้างนอก อยู่ไปในห้องไม่ต้องไปไหน เช้าก็ค่อยมาเปิดให้ไปโรงเรียน
แล้วแบบนี้มีทะเลาะกันบ้างไหม ?
แล้วลูกสะใภ้ ?
ตุ๊ก : ตอนนี้มีเพราะเขาแก่แล้ว อย่าไปยุ่งกับเขาเลย ลูกสะใภ้คนนี้เขาเข้ามาตอนที่เราลดลง แต่ก็ไม่ทั้งหมด แต่บังเอิญเขาเข้ามาในจังหวะที่เราขี้เกียจยุ่งแล้ว เตอร์เขาก็โตแล้ว ตอนนี้อายุ 40-41 แล้ว เรามีความรู้สึกว่าเขาคิดได้เองแล้วแหละเราไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายกับเขา แต่ถ้าเราเห็นอะไรที่ไม่ดีเราถึงจะเข้าไปยุ่ง ส่วนเรื่องหลานยังไม่มี เขาอยู่กันมาเป็น 10 ปีก็ไม่มีนะ แต่ก็ไม่อยากมีกลัวไปรักไปหลงหลาน จริง ๆ ลึก ๆ แล้วเป็นคนดี เป็นคนตรง ๆ จะอ้อมไปทำไมเสียเวลา
ที่ตรงนี้เกี่ยวกับไฝไหม ?
เวลาถ่ายละครด้วยกันสัมภาษณ์แม่เรื่องความรักมันแซ่บมาก แล้ววันนี้มาบอกว่าไม่ให้ถามเรื่องความรัก ?
ตุ๊ก : เราก็มีประสบการณ์มาเยอะ แต่มันเป็นสิ่งที่ผ่านไปแล้วอย่าไปพูดถึงมันเลย พูดแล้วเดี๋ยวของขึ้น เพราะฉะนั้นอย่าเลย ตั้งแต่ชีวิตตัวเองเริ่มนิ่ง เรื่องความรักก็หมดไปจากชีวิตเลย แล้วเชื่อไหมมันก็ไม่มีใครเข้ามาด้วย แต่เราก็มีความรู้สึกว่ามันก็ถูกต้องแล้วอายุ 64 ปีใครจะมาจีบ ยอมรับเลยก่อนหน้านี้ตอนที่อายุประมาณ 40-50 ปี ยังมีเด็กมาจีบ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วเพราะว่าเราไม่ได้สนใจ เราไม่ได้ใช้ตาไปมองใครเลย เห็นผู้ชายมาแก้ผ้าตรงหน้าฉันก็ไม่ขนลุก เพราะมองว่ามันคืออวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย
ตุ๊ก : เป็นเยอะ เป็นคนขี้หงุดหงิด แล้วอีกอย่างเป็นคนที่เวลาพูดแล้วเสียงดัง พูดเบา ๆ ไม่เป็น แล้วตาก็โต เวลาพูดอะไรก็ไปหมดทั้งมือไม้ลูกกระตามันไปหมด บวกกับบทบาทที่เราได้รับ คนก็เลยคิดว่าฉันจะเป็นเหมือนในทีวี จริง ๆ แล้วไม่ใช่ คือถ้าไม่ได้ทำผิดเราก็จะไม่วีน เราจะวีนต่อเมื่อบอกแล้ว สั่งแล้ว เตือนแล้ว แล้วยังทำอยู่ อันนั้นโดนแน่ ๆ
แล้วกับดาราเคยวีนใส่ไหม ?
ตุ๊ก : เคย คือเล่นละครเราต้องเล่นด้วยกันไม่ใช่เล่นคนเดียว มีนักแสดงบางคนบอกว่าเขาดีไซน์มาจากบ้านแล้วเขาจะเล่นแบบนี้แบบนี้ แล้วยูจะมาดีไซน์ได้ยังไง จะรู้ได้ยังไงว่าคนที่เล่นด้วยเขาจะรับ-ส่งมายังไง เขาบอกไม่รู้เขาจะเล่นแบบนี้เขาดีไซน์มาแล้ว กูก็ไม่เล่นกับมึง เรื่องนี้เกิดนานละ เป็นดาราผู้หญิง แต่ตอนนั้นเราดังกว่า
ตุ๊ก : จริง ๆ มันเป็นคนที่โกงเงินเราไป เป็นผู้ชายคนหนึ่งในชีวิตแล้วลับหลังเรามันก็แอบไปมีคนอื่น ก็อยากกินมัน
แล้วแม่ทำยังไงเมื่อเกิดความรู้สึกแบบนี้ ?
แล้วตอนนั้นมันต้องขนาดไหนที่ทำให้เราเอื้อมไปหยิบปืนมายิงได้ ?
ตุ๊ก : ก็มันแค้น แค้นมากอยากให้มันตายไปเดี๋ยวนี้เลย ก็เขาทำเราทั้งเงิน ทั้งหักหลัง ทั้งไม่ซื่อสัตย์กับเรา
โมโหร้ายบ่อย ๆ ทำให้เราเครียดมากไหม ?
ตุ๊ก : เครียดมากเลย เป็นผู้หญิงที่หน้าตาดูไม่มีความสุข เวลาเจอใครก็ไม่ยิ้ม ไม่ค่อยเฮฮา สดใสเบิกบาน ซีเรียสกับทุกอย่าง มันก็กระทบไปถึงงานที่เราทำด้วยทำให้งานออกมาไม่ดี
แล้วแม่มีวิธีการจัดการกับความเครียดยังไง ?
จริงไหมทีมงานบอกว่ามีครั้งนึงจะลาวงการ ?
ตุ๊ก : คิดว่าตัวเองจะหลุดจากวงการ มันมีช่วงหนึ่งของชีวิตคือช่วงผู้ชายคนนี้ด้วย แล้วช่วงปี 2548-2549 งานไม่มีเลยตอนนั้นรายได้เป็นศูนย์อยู่หลายเดือนมาก เราก็เลยคิดว่าเราจะหลุดจากวงการแล้วเหรอ ไม่ได้คิดจะลาออกนะ แต่คิดว่าจะหลุดแล้วเหรอ ไม่มีใครจ้างเราขนาดนี้ แบบคอเลสเตอรอลพุ่งไป 400 กว่า เครียดมาก
ตอนนั้นคิดไหมว่านั่นคือขาลงของเรา ?
แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น ?
ตุ๊ก : ไปวัดแล้วก็ได้เปลี่ยนชีวิตตัวเองในวัดนี่แหละ แล้วหลังจากนั้นงานไม่เคยขาดเลยจริง ๆ คือนอกจากธรรมะก็มองไม่เห็นว่าอะไรจะช่วยได้ แต่ตอนแรกไม่คิดว่าธรรมะจะช่วยได้ พอช่วงที่ไม่มีงานมันก็ฟุ้งซ่านไปต่าง ๆ นานา ก็เลยคิดถึงวัดขึ้นมา พอเข้าไปมันเปลี่ยนชีวิตได้จริง ๆ นะ แค่ 1 คืน กับ 2 วัน ไปแบบบริสุทธิ์สะอาดมาก เปิดโล่งมากสำหรับธรรมะ เอาจริง ๆ ตัวเราเองนั่นแหละที่ทำให้ตัวเองเป็นทุกข์ มันเปลี่ยนมุมมองชีวิตไปเยอะมาก จนกระทั่งวันนึงโทรศัพท์ไปหาผู้ชายคนนั้นแล้วขออโหสิ เขาคงงงเหมือนกัน
เป็นนักแสดงรุ่นใหญ่ที่โลดแล่นอยู่ในวงการมายาวนาน สำหรับ ตุ๊ก
ดวงตา ที่เจ้าตัวผ่านเรื่องราวมาหลายอย่าง ล่าสุด
เจ้าตัวมาเปิดใจผ่านทางรายการคุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี พีเค
ปิยะวัฒน์ และธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกร ว่า
ส่วนมากบทที่ได้รับจะได้เป็นแม่พระเอก ย่าพระเอก
ส่วนใหญ่จะออกแนวหวงพระเอกในเรื่อง อาจจะเป็นเพราะเรามีลูกชายมั้งเขาจะจำภาพเราได้ว่าตอนที่ลูกเด็ก ๆ เราก็หวงลูกเรามากเลย
ก็มันมีกันแค่สองคนในชีวิต เราก็เลิกกับพ่อเขาไป
เราก็อยู่กันมาแค่สองคน ไม่ให้หวงลูกจะให้หวงหมาที่ไหนล่ะ
เพราะเรารักเขามากแล้วมีความรู้สึกว่ายึดติดกับเขา ไปไหนไม่ได้ต้องอยู่กับแม่ตลอด
พอโตขึ้นเริ่มติดเพื่อน เริ่มติดผู้หญิง เริ่มมีเหมือนกัน
แล้วลูกชายมีแบบพาผู้หญิงมาบ้านบ้างไหม ?
ตุ๊ก : ในทีวีเหรอ น้อยกว่าในชีวิตจริง ก็ตอนนั้นเตอร์ยังอยู่ชั้นมัธยม
วันที่จะต้องไปโรงเรียนก็ไม่ไป เราก็เปิดประตูแล้วเจอผู้หญิงนุ่งกางเกงขาสั้นเสมอจิ๋มอยู่บนเตียงนอนลูกชายเรา
เราก็เลยบอกว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนเหรอ นี่แม่ผู้ชายเดินเข้ามายังไม่สวัสดีอีก
แล้วที่เขาไม่สวัสดีเพราะเราเปิดประตูเข้าไปเขาก็ช็อกอยู่ก็เลยไม่ได้ไหว้
เราก็เลยใส่ไปเลยพ่อแม่ไม่สั่งสอนเหรอ
พ่อแม่เป็นใครทำไมถึงไม่รู้จักไหว้ แม่เพื่อนเข้ามาแบบนี้ทำไมไม่รู้จักไหว้ เป็นเด็กนักเรียนยังไงใส่กางเกงขาสั้นขนาดนี้
แล้วมาอยู่บนเตียงผู้ชายเนี่ยอะไร มันคืออะไร
ตอนนั้นเขาก็ทำอะไรไม่ถูกสั่นไปหมด แต่แม่พอระเบิดลงปุ๊บก็จบ
แล้วผู้หญิงคนนั้นหายไปจากลูกแม่ไหม ?
ตุ๊ก : หายไปสิใครจะกล้า หรือว่ามันอาจจะแอบไปเจอกันข้างนอกเราก็ไม่รู้นะ แต่ ณ บัดนั้นเขาก็ไม่เคยมาเหยียบบ้านอีกเลย จริง ๆ เราเป็นคนอาละวาดแบบนี้ เวลาผู้หญิงโทร. มาเรารับสาย เมื่อก่อนยังไม่มีโทรศัพท์มือถือเขาก็บอกว่าขอพูดกับพัตเตอร์หน่อย เราก็บอกได้แป๊บนึงนะลูก แล้วเราก็แกล้งเรียกลูก เตอร์ครับบีโทร. มาลูก บีคนที่สวย ๆ ที่แม่เจอวันนั้นใช่ไหม แต่ในสายคือเอ เสร็จแล้วห่วงลูกหนีเที่ยวเราก็ล็อกห้องจากข้างนอก อยู่ไปในห้องไม่ต้องไปไหน เช้าก็ค่อยมาเปิดให้ไปโรงเรียน
แล้วแบบนี้มีทะเลาะกันบ้างไหม ?
ตุ๊ก : ตอนเด็กมันก็ไม่กล้าหรอก แต่พอโตขึ้นมามีความเป็นตัวเองขึ้นมาแล้วก็ทะเลาะกันแหละ เป็นแม่ลูกที่ทะเลาะกันเยอะ รักกันเยอะ เสียน้ำตากันเยอะมาก
แล้วลูกสะใภ้ ?
ตุ๊ก : ตอนนี้มีเพราะเขาแก่แล้ว อย่าไปยุ่งกับเขาเลย ลูกสะใภ้คนนี้เขาเข้ามาตอนที่เราลดลง แต่ก็ไม่ทั้งหมด แต่บังเอิญเขาเข้ามาในจังหวะที่เราขี้เกียจยุ่งแล้ว เตอร์เขาก็โตแล้ว ตอนนี้อายุ 40-41 แล้ว เรามีความรู้สึกว่าเขาคิดได้เองแล้วแหละเราไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายกับเขา แต่ถ้าเราเห็นอะไรที่ไม่ดีเราถึงจะเข้าไปยุ่ง ส่วนเรื่องหลานยังไม่มี เขาอยู่กันมาเป็น 10 ปีก็ไม่มีนะ แต่ก็ไม่อยากมีกลัวไปรักไปหลงหลาน จริง ๆ ลึก ๆ แล้วเป็นคนดี เป็นคนตรง ๆ จะอ้อมไปทำไมเสียเวลา
ที่ตรงนี้เกี่ยวกับไฝไหม ?
ตุ๊ก :
ไฝอันนี้เขาบอกว่าเป็นไฝอาภัพคู่ แต่เป็นไฝมีชื่อเสียง ถ้าอยู่ในวงการนี้มีชื่อเสียง แต่ว่าถ้าอยากจะมีสามีหรือมีคู่ที่ดีจะต้องเอาไฝออก
เราก็มานั่งคิดแล้วว่ามีเงินแต่ไม่มีผัว
หรือมีผัวแต่ไม่มีเงินอันไหนมันดีกว่ากัน
แล้วเราก็เลือกมีเงินแต่ไม่มีผัว ก็เลยไม่ได้เอาไฝออก
เวลาถ่ายละครด้วยกันสัมภาษณ์แม่เรื่องความรักมันแซ่บมาก แล้ววันนี้มาบอกว่าไม่ให้ถามเรื่องความรัก ?
ตุ๊ก : เราก็มีประสบการณ์มาเยอะ แต่มันเป็นสิ่งที่ผ่านไปแล้วอย่าไปพูดถึงมันเลย พูดแล้วเดี๋ยวของขึ้น เพราะฉะนั้นอย่าเลย ตั้งแต่ชีวิตตัวเองเริ่มนิ่ง เรื่องความรักก็หมดไปจากชีวิตเลย แล้วเชื่อไหมมันก็ไม่มีใครเข้ามาด้วย แต่เราก็มีความรู้สึกว่ามันก็ถูกต้องแล้วอายุ 64 ปีใครจะมาจีบ ยอมรับเลยก่อนหน้านี้ตอนที่อายุประมาณ 40-50 ปี ยังมีเด็กมาจีบ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วเพราะว่าเราไม่ได้สนใจ เราไม่ได้ใช้ตาไปมองใครเลย เห็นผู้ชายมาแก้ผ้าตรงหน้าฉันก็ไม่ขนลุก เพราะมองว่ามันคืออวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย
ขอถามนิสัยเหวี่ยงวีนของแม่หน่อยเมื่อก่อนเป็นยังไงบ้าง ?
ตุ๊ก : เป็นเยอะ เป็นคนขี้หงุดหงิด แล้วอีกอย่างเป็นคนที่เวลาพูดแล้วเสียงดัง พูดเบา ๆ ไม่เป็น แล้วตาก็โต เวลาพูดอะไรก็ไปหมดทั้งมือไม้ลูกกระตามันไปหมด บวกกับบทบาทที่เราได้รับ คนก็เลยคิดว่าฉันจะเป็นเหมือนในทีวี จริง ๆ แล้วไม่ใช่ คือถ้าไม่ได้ทำผิดเราก็จะไม่วีน เราจะวีนต่อเมื่อบอกแล้ว สั่งแล้ว เตือนแล้ว แล้วยังทำอยู่ อันนั้นโดนแน่ ๆ
แล้วกับดาราเคยวีนใส่ไหม ?
ตุ๊ก : เคย คือเล่นละครเราต้องเล่นด้วยกันไม่ใช่เล่นคนเดียว มีนักแสดงบางคนบอกว่าเขาดีไซน์มาจากบ้านแล้วเขาจะเล่นแบบนี้แบบนี้ แล้วยูจะมาดีไซน์ได้ยังไง จะรู้ได้ยังไงว่าคนที่เล่นด้วยเขาจะรับ-ส่งมายังไง เขาบอกไม่รู้เขาจะเล่นแบบนี้เขาดีไซน์มาแล้ว กูก็ไม่เล่นกับมึง เรื่องนี้เกิดนานละ เป็นดาราผู้หญิง แต่ตอนนั้นเราดังกว่า
แล้วที่แม่บอกว่าเคยโมโหถึงขั้นอยากฆ่าคนจริงไหม ?
แล้วแม่ทำยังไงเมื่อเกิดความรู้สึกแบบนี้ ?
ตุ๊ก : มันก็อยากนะปืนก็มี เพราะฉะนั้นตอนนี้ปืนอยู่ในเซฟตลอดเวลา แต่ ณ
ตอนนี้ไม่มีอารมณ์แบบนี้อยู่แล้ว เพราะว่ามันก็มีตัวช่วยที่ทำให้เราสงบลง
แล้วตอนนั้นมันต้องขนาดไหนที่ทำให้เราเอื้อมไปหยิบปืนมายิงได้ ?
ตุ๊ก : ก็มันแค้น แค้นมากอยากให้มันตายไปเดี๋ยวนี้เลย ก็เขาทำเราทั้งเงิน ทั้งหักหลัง ทั้งไม่ซื่อสัตย์กับเรา
โมโหร้ายบ่อย ๆ ทำให้เราเครียดมากไหม ?
ตุ๊ก : เครียดมากเลย เป็นผู้หญิงที่หน้าตาดูไม่มีความสุข เวลาเจอใครก็ไม่ยิ้ม ไม่ค่อยเฮฮา สดใสเบิกบาน ซีเรียสกับทุกอย่าง มันก็กระทบไปถึงงานที่เราทำด้วยทำให้งานออกมาไม่ดี
แล้วแม่มีวิธีการจัดการกับความเครียดยังไง ?
ตุ๊ก : มันมีตัวช่วย แม่ใช้ธรรมะเข้าช่วย
จริงไหมทีมงานบอกว่ามีครั้งนึงจะลาวงการ ?
ตุ๊ก : คิดว่าตัวเองจะหลุดจากวงการ มันมีช่วงหนึ่งของชีวิตคือช่วงผู้ชายคนนี้ด้วย แล้วช่วงปี 2548-2549 งานไม่มีเลยตอนนั้นรายได้เป็นศูนย์อยู่หลายเดือนมาก เราก็เลยคิดว่าเราจะหลุดจากวงการแล้วเหรอ ไม่ได้คิดจะลาออกนะ แต่คิดว่าจะหลุดแล้วเหรอ ไม่มีใครจ้างเราขนาดนี้ แบบคอเลสเตอรอลพุ่งไป 400 กว่า เครียดมาก
ตอนนั้นคิดไหมว่านั่นคือขาลงของเรา ?
ตุ๊ก : คิดแบบนี้ไง ก็คิดว่าแล้วจะไปทำอะไร ชีวิตนี้ก็ไม่เคยทำอะไร คือคิดมาก จนคอเลสเตอรอลพุ่ง
แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น ?
ตุ๊ก : ไปวัดแล้วก็ได้เปลี่ยนชีวิตตัวเองในวัดนี่แหละ แล้วหลังจากนั้นงานไม่เคยขาดเลยจริง ๆ คือนอกจากธรรมะก็มองไม่เห็นว่าอะไรจะช่วยได้ แต่ตอนแรกไม่คิดว่าธรรมะจะช่วยได้ พอช่วงที่ไม่มีงานมันก็ฟุ้งซ่านไปต่าง ๆ นานา ก็เลยคิดถึงวัดขึ้นมา พอเข้าไปมันเปลี่ยนชีวิตได้จริง ๆ นะ แค่ 1 คืน กับ 2 วัน ไปแบบบริสุทธิ์สะอาดมาก เปิดโล่งมากสำหรับธรรมะ เอาจริง ๆ ตัวเราเองนั่นแหละที่ทำให้ตัวเองเป็นทุกข์ มันเปลี่ยนมุมมองชีวิตไปเยอะมาก จนกระทั่งวันนึงโทรศัพท์ไปหาผู้ชายคนนั้นแล้วขออโหสิ เขาคงงงเหมือนกัน
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-15.00 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel :
Orange Mama