ไพโรจน์ สังวริบุตร เผยศาลตัดสินแบ่งสมบัติกับอดีตภรรยาแล้ว ชี้บ้านเป็นของตนก็ต้องคัดชื่ออดีตภรรยาออก ยันไม่ต้องการให้มายุ่งเกี่ยวกับครอบครัวใหม่
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ล่าสุด (14 ธันวาคม 2561) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์ นายไพโรจน์ สังวริบุตร เปิดเผยว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นตนเองไม่อยากให้เกิด แต่มันเกิดเพราะความไม่เข้าใจ หรือความเข้าใจผิดในเรื่องของกฎหมายของลูกชาย ตนเองเลิกรากับอดีตภรรยามานานหลายปีแล้ว ซึ่งศาลตัดสินชัดเจนในเรื่องการแบ่งทรัพย์สิน เมื่อปี 2551 โดยบ้านตกเป็นของตน เมื่อคัดชื่ออดีตภรรยาออกจากการเป็นเจ้าบ้านในทะเบียน แล้วเอาชื่อตนเป็นเจ้าบ้านแทน ชื่ออดีตภรรยาก็ต้องออกจากในทะเบียนด้วย เพราะมีการแบ่งทรัพย์สินแล้วชัดเจน กฎหมายให้มีเจ้าบ้านเพื่อรับผิดชอบบ้าน เรื่องนี้ลูกชายตนอาจจะไม่เข้าใจ
นายไพโรจน์ เผยต่อว่า ในเรื่องที่ลูกชายออกมาเปิดเผยว่าตนเองขู่จะแจ้งตำรวจจับนั้น เป็นเพราะตนเองมีครอบครัวใหม่แล้ว ลองนึกดูว่าถ้าเป็นตัวเองจะยินยอมให้ภรรยาเก่าเข้าบ้านหรือไม่ เพราะเรื่องห้ามเข้าบ้านนั้น เป็นเรื่องที่ตนเองแจ้งไว้แต่แรกแล้ว เพราะที่ผ่านมาอดีตภรรยามักเอาลูกชายเข้ามาเกี่ยวข้องตอนมาที่บ้าน ตนบอกลูกไปแล้ว ถ้าแม่มาด้วย พ่อไม่อนุญาต ซึ่งการที่ลูกชายออกมาพูดเรื่องนี้ ตนเองเชื่อว่าอาจมีคนอยู่เบื้องหลัง ตนจึงไม่อยากให้มองลูกตนในด้านลบ แต่หลังจากนี้คงไม่ขอพูดกับลูกชายอีก เนื่องจากเขาแสดงเจตนารมณ์แบบนี้แล้ว แต่ตนยังยืนยันว่าไม่ต้องการให้อดีตภรรยาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับครอบใหม่ตน
ขณะที่ นายรวิกร สังวริบุตร หรือ พีท ลูกชาย เปิดเผยว่า ตนเองไม่มีเจตนาที่จะต้องการให้พ่อเสื่อมเสียชื่อเสียง แค่อยากหวังให้พ่อเห็นใจนำชื่อแม่กลับไปเป็นเจ้าบ้านเหมือนเดิม ยอมรับว่ามีการถูกขู่แจ้งจับจริง ซึ่งบ้านหลังนี้ตนเองมีความผูกพันแต่กลับถูกพ่อห้ามเข้าบ้าน ตนเองยังรักพ่อเสมอ และไม่คิดว่าเรื่องราวนี้จะเป็นข่าวดัง การที่ออกมาพูดตนเองไม่ได้ถูกใครบังคับ แต่แค่ต้องการออกมาขอความเห็นใจเท่านั้น ส่วนตัวแม่ตอนนี้ก็ยังช็อกอยู่ที่รู้ว่าถูกคัดชื่อออกจากทะเบียนบ้าน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
คืบหน้ากรณี นายรวิกร สังวริบุตร หรือ พีท อายุ 22 ปี ลูกชาย นายไพโรจน์ สังวริบุตร อดีตพระเอกดัง ออกมาเปิดเผยปัญหาในครอบครัว หลังทราบเรื่องว่าพ่อได้คัดชื่อแม่ออกจากทะเบียนบ้าน หลังเลิกรากัน และมีการข่มขู่จะแจ้งตำรวจจับหากตนเองและแม่เข้ามาในบ้าน ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวพ่อเปลี่ยนให้เป็นสถานธรรมให้ภรรยาใหม่ไปแล้ว ตามที่มีรายงานไปนั้น (อ่านข่าว : เปิดปม น้องพีท - แม่ ถูกไพโรจน์ ไล่ออกจากทะเบียนบ้าน แฉเคยหลอกเอาเมียน้อยเข้าบ้าน)
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ทั้งนี้ ตนเองไม่อยากจะพูดอะไรมาก เพราะตนสงสารลูก ซึ่งช่วงที่ตนเองต่อสู้กับอดีตภรรยาในชั้นศาลนั้น ลูกชายยังเด็กอยู่ สิ่งที่ตนพูดหรือลูกชายพูดคงไม่มีประโยชน์ให้ดูคำพิพากษาของศาลดีกว่า
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก