x close

รุ่ง สุริยา เล่าชีวิตเคยตกอับ จากนักร้องสู่คนขายตรง ท้อหนักจนคิดฆ่าตัวตาย

            รุ่ง สุริยา เปิดใจ เล่าชีวิตเคยตกอับ เป็นนักร้องทำวงเจ๊ง สู่การเป็นคนขายตรง ท้อหนักถึงขั้นจะฆ่าตัวตาย ก่อนกลับมาดัง และเกือบพังเพราะกินเหล้าหนักจนเสียงาน



            หากพูดถึงชื่อนักร้องลูกทุ่ง รุ่ง สุริยา เชื่อว่าหลายคนรู้จักเป็นอย่างดี แต่ช่วงหลัง ๆ เจ้าตัวได้หายหน้าหายตาไปจากวงการ จนแฟน ๆ แทบจะลืมหน้า โดยล่าสุด (20 ธันวาคม 2561) รุ่ง สุริยา ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร ถึงประเด็นที่ว่า เคยตกอับ ไม่มีเงิน ต้องผันตัวไปเป็นพนักงานขายตรง จนเครียดหนัก เคยคิดสั้นฆ่าตัวตาย

- กว่าจะมีวันนี้ 30 กว่าปีที่แล้ว เห็นว่าลำบากมาก ?

            รุ่ง สุริยา : เข้าวงการตั้งแต่อายุ 17 ปี ก็เข้ามาโดยการประกวดร้องเพลง เดินสายประกวด ทางบ้านมีพี่น้อง 7 คน แล้วเราก็เป็นคนสุดท้อง พี่ ๆ ก็จบแค่ ป.4-6 แล้วเขาก็อยากให้น้องสุดท้องเป็นเสาหลักของครอบครัว เขาก็ช่วยกันทำงานแล้วก็ส่งเราเรียน ตอนที่เรียนก็ไม่คิดว่าเราจะมาสายนี้หรอก แต่คงเป็นเพราะว่าเขาคงคิดไว้แล้วแหละ ก็ได้ไปประกวดแล้วก็เข้ามาในวงการ

- ตอนนั้นประสบความสำเร็จในวงการเลยไหม ?

            รุ่ง สุริยา : ไม่ประสบความสำเร็จครับ เอาแบบภาษาบ้าน ๆ ของเราเลยก็คือ ทำวงเจ๊งนั่นเอง เพราะว่าอันแรกเลยผมคิดว่ามันคงยังไม่ถึงเวลา แล้วสองก็คือเราคงยังไม่ได้ลำบากหรือว่าผ่านอุปสรรคอะไรที่มันหนัก ๆ มา แล้วทำให้เราดังเลยมันก็ไม่น่าจะใช่ มันสำเร็จง่ายเกินไป

- หลังจากไม่ประสบความสำเร็จในวงดนตรี แล้วมาทำอะไรต่อ ?

            รุ่ง สุริยา : หลังจากนั้นก็ยุบวง แล้วก็คนที่ปั้นผมตอนนั้นก็ปิดค่ายไปเลย ก็โดนตราหน้าว่าทำผู้มีพระคุณเจ๊ง หลังจากนั้นเราก็เคว้งคว้าง ก็ไปเล่นตลก 6 เดือน ไปอยู่กับคณะของ อายอด นครนายก เสร็จแล้วก็ไม่มีอะไรดีขึ้นครับ เราก็คิดว่าทำยังไงดี ก็ไปอยู่คาเฟ่ครับ ซึ่งตอนที่ไปสมัครเขาก็ไม่รับ แล้วก็เอาโปสเตอร์ผลงานของเราที่เคยอัดแผ่นเสียงไปให้เขาดู เขาก็รับ ได้ค่าตัว 80 บาท ทั้ง ๆ ที่นักร้องที่ร้องประจำจะได้ 100 บาท แต่เราก็ต้องจำใจรับเพราะถ้าไม่รับเราก็ไม่มีกินครับ เพราะเราเคยปฏิญาณตัวเองว่า ถ้าไม่ดังจะไม่กลับบ้าน ก็ร้องคาเฟ่อยู่ 4-5 ปีครับ


- แล้วชีวิตหลังจากนั้นเป็นยังไงต่อ ?

            รุ่ง สุริยา : ก็ต้องย้อนไปตอนที่อยู่คาเฟ่ ก็ไปเช่าบ้านอยู่ ไม่มีเงินขนาดต้องไปเซ็นมาม่ามากิน คือติดเขาไว้ก่อน พอเงินเดือนออกแล้วค่อยเอามาใช้เขา ความลำบากที่เราเจอในตอนนั้นมันเป็นความคับแค้นใจ ที่ไม่สำเร็จ แล้วก็ทิ้งการเรียนมาด้วย มันรู้สึกว่าทำไมเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่เราวาดฝันไว้สวยหรู ทำวงก็เจ๊ง มาร้องคาเฟ่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น แล้วเผอิญว่ามีเพื่อนมาชวนไปทำขายตรง ตอนนั้นก็ไฟแรงมากทำอยู่ 2-3 เดือน ก็สำเร็จในระดับนึงนะ แต่มันก็มีปัญหาอีก เริ่มชักหน้าไม่ถึงหลังอีกแล้ว เสร็จแล้วความรู้สึกเราก็เลยเป็นลบ เพราะเป็นแบบนี้เราก็ไม่ทำแล้ว

- แล้วตอนนั้นจิตใจเป็นยังไงบ้าง ?


            รุ่ง สุริยา : ตอนนั้นคือเดินมาคนเดียวตั้งแต่อายุ 17 มันรู้สึกว่าเราไม่มีภูมิคุ้มกันในหัวใจ มันกระทบเยอะมาก เป็นเสาหลักก็ไม่ได้เป็นแล้ว เรียนก็ไม่จบทั้ง ๆ ที่ทุกคนและคุณแม่คาดหวังกับเรามาก พอมาทำงานก็ไม่สำเร็จอีก แล้วต้องมาอยู่อย่างนี้ด้วย สมัยก่อนตอนที่เราเป็นหัวหน้าวง ใคร ๆ ก็เคารพนบนอบ ที่นี้เหมือนว่ามันหล่นลงมา จากความฝันที่แบบว่าสูงสุด มันก็แบบว่าไปไม่เป็น

- เคยคิดจะฆ่าตัวตายด้วยจริงไหม ?

            รุ่ง สุริยา : จริงครับ ก็คือว่าเช่าบ้านอยู่ แล้วเราก็มาคิดประมวลอะไรต่าง ๆ นานา ก็คิดอยู่คนเดียว มันก็สับสน ฟุ้งซ่านไง ตอนนี้เราไม่เหลืออะไรเลย เงินก็ไม่มี ขนาดเงินจะกินยังไม่มีเลย แล้วจะไปช่วยใครได้ แล้วก็รู้สึกอาย คนตราหน้า เรียนไม่จบ แล้วเป็นเด็กวัดด้วย มันถาโถมเข้ามาหมด แล้วประกอบกับมีของมึนเมาเข้ามาเสริมด้วยกำลังได้ที่เลย ก็เกิดความกล้าในใจ คิดจะกระโดดตึก ก็คิดว่าจะตาย ๆ ให้หมดเรื่องไป

- แล้วอะไรทำให้คิดได้ ผ่านการกระโดดตึกครั้งนั้นมาได้ยังไง ?

            รุ่ง สุริยา : จังหวะที่เราก้าวไปที่ระเบียงเนี่ย พอก้าวไปปุ๊บ น้ำตามันก็ไหลออกมาเอง ว่าชีวิตเราทำไมไร้ค่าอย่างนี้ แล้วก็นึกถึงคุณแม่ คุณพ่อก็เสียแล้ว ตอนนั้นเหลือคุณแม่เป็นเสาหลักของครอบครัว แล้วถ้าเกิดว่าเราเป็นอะไรไป พี่น้องเนี่ยดูแลเรามาเพื่อจะให้เราสำเร็จแล้วก็ให้เราดูแลครอบครัว เรายังไม่ได้กลับไปหาแม่เลย มันก็ปิ๊งขึ้นมา แล้วเราก็ถอยออกมา มันอาจจะเป็นบุญของเราด้วย เทวดาอารักษ์ที่คุ้มครองตัวเราอยู่ มาสะกิด มาตักมาเตือนเรา ให้เราต้องอยู่ต่อไป หลังจากนั้นก็ตัดสินใจกลับไปหาแม่ แล้วบอกแม่ว่าอยากจะบวช หลังจากบวชได้ 1 พรรษา ก็สึกออกมาแล้วก็คิดว่าอยู่กับแม่ดีกว่า หางานร้องเพลงแถว ๆ บ้าน ทำอะไรก็ได้ขอให้ได้อยู่ใกล้ ๆ แม่

- หลังจากไปอยู่บ้าน เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงกลับมาดังได้ ?

            รุ่ง สุริยา : พูดแล้วขนลุกเลยครับ ผมร้องเพลงอยู่ที่สระบุรี ก็มีครูเพลงครับ คือครูพร พนาไพร ไปนั่งกินข้าว ระหว่างนั้นผมก็ขึ้นไปร้องเพลง ครูก็บอกเด็กให้ไปเรียกนักร้องคนนั้นมา ผมก็ตกใจครับตอนนั้น เรียกผมมาแล้วก็บอกว่าอาจารย์เป็นนักแต่งเพลงนะ กำลังหานักร้องอยู่ แล้วก็ให้ผมร้องเพลงลูกทุ่ง ผมก็คิดในใจงั้นเข้าทางเราสิ พอร้องปุ๊บก็โดนเลย อาจารย์มีเพลง 2 เพลง ให้ผมร้องนั่นคือ "วอนพ่อตากสิน" แล้วก็ "รักจริงหวังแต่ง" ซึ่งทำให้ผมดังมาก เป็นเพลงสร้างชื่อเลย แล้วก็ทำให้ผมได้รับรางวัลพระพิฆเนศทองพระราชทานด้วย


- แล้วชื่อ "รุ่ง สุริยา" ได้มาจากไหน ?

            รุ่ง สุริยา : ต้องย้อนไปอีกนิดนึงครับ คือ "ครูพร พนาไพร" หลังจากที่มาเจอผมแล้วก็ชวนมาทำเพลงด้วยกัน เราก็เสียเปรียบมาเยอะเลยกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่กล้าตัดสินใจ อาจารย์ก็ทิ้งเบอร์ไว้ให้ ผมก็ตัดสินใจอยู่เดือนนึง ความคิดผมมันวกไปวนมา จะทำเพื่ออะไร ในเมื่อเรามาอยู่กับแม่แล้วเรามีความสุขแล้ว แต่บทสรุปของมัน มันตกผลึกตรงที่ว่า เราไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ก็ลองดูก็ได้ ก็เลยโทร. กลับมาหาอาจารย์ครับ แล้วก็ลุยเลยครับ "รุ่ง สุริยา" creative เป็นคนตั้งให้ครับ ชื่อนี้ท่านบอกว่า รุ่งอรุณของวันใหม่ เริ่มต้นวันใหม่ ดวงอาทิตย์ที่ฉายแสงในยามเช้า มันจะสว่าง มันจะเริ่มใหม่ ก็เลยกลายเป็นฉายา "สุภาพบุรุษลูกทุ่ง รุ่ง สุริยา" หลังจากนั้นก็มีคนรู้จักเยอะเลยครับ

- หลังจากมีชื่อเสียงแล้ว มีข่าวว่าหลงชีวิต ดื่มหนักจนเสียงาน จริงไหม ?

            รุ่ง สุริยา : อันนี้กล้าที่จะบอกเลยครับ คิดว่าหนักพอสมควร ไปกินไปเที่ยวนี่แหละแต่ไม่ถึงขั้นติดหรืออะไร มันไม่ได้ดื่มทุกวันหรอก แต่เราเป็นคนของประชาชน แฟนเพลงแฟนคลับเห็นเราดื่มครั้งหนึ่งหรือว่าถือแก้วขึ้นมาเนี่ย เขาก็คิดว่าดื่มอีกแล้ว รุ่ง สุริยา อะไรเนี่ย แต่ที่สำคัญครับ บอกกับตัวเองเลยว่าผิดพลาดมาตลอด และเป็นสิ่งที่เตือนตนตลอดเวลาในการทำงาน มันทำให้เราเสียงาน และนี่แหละครับเป็นสิ่งที่ทำให้เราตกลงมา พอดื่มไปเยอะ ๆ แล้วมันทำให้เราแฮงก์ หรือบางทีทำงานได้ไม่เต็มที่ และที่สำคัญมันไปสาย ทำให้เขารอนี่ อันนี้มันเป็นผลกระทบครับ มันเป็นตราบาปในใจผมเลย หลังจากนั้นมันทำให้เราดรอปลงเรื่อย ๆ เพราะเราไม่ได้ออกอัลบั้มมา 2 ปีด้วย

- หยุดดื่ม แล้วหันมาดูแลตัวเองตรงจุดไหน ?

            รุ่ง สุริยา : พอมีวันหนึ่งที่มันไม่มีเสียง เราก็มาพิจารณา แล้วเราจะหาเลี้ยงครอบครัวยังไง เราไม่มีเสียงร้อง ก็คิดได้ว่าต้องหยุด ผมก็หยุดดื่มแบบหักดิบเลย ตอนนี้ก็ผ่านมา 7 ปีแล้วครับ มองย้อนกลับไป มันก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เขาเรียกว่าถ้าไม่เห็นทุกข์ ก็ไม่เห็นธรรม

- มีคนลือสนั่นว่า "รุ่ง สุริยา" ไม่แมน รู้สึกยังไง ?

            รุ่ง สุริยา : มันก็เป็นเรื่องของเขาที่เขาจะพูดนะ ปกติก็เหมือนว่าเราเป็นคนสนุกสนานร่าเริง เวลาเจอผู้ชายหรือเพื่อนผู้ชายอะไรแบบนี้ เราก็เล่นหัวได้ แบบเป็นกันเอง หรือผมอาจจะเดินตุ้งติ้งไปหน่อยหรือเปล่าก็ไม่รู้ครับ



            ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-15.00 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รุ่ง สุริยา เล่าชีวิตเคยตกอับ จากนักร้องสู่คนขายตรง ท้อหนักจนคิดฆ่าตัวตาย อัปเดตล่าสุด 21 ธันวาคม 2561 เวลา 16:03:11 6,854 อ่าน
TOP