เป็นประเด็นดราม่าครอบครัว หลังจาก ชูษี เชิญยิ้ม ไลฟ์ประกาศขอตัดขาดกับลูกสาว บูม ชญาภา ด้วยการบอกว่า ตนเข้าใจว่าน้องบูมรักแม่และยาย แต่ก็อย่าเข้าข้างแต่ครอบครัวของตัวเอง ให้เข้าใจครอบครัวคนอื่นด้วย จากนี้ไปต่างคนต่างอยู่ ตายก็ไม่ต้องมาเผา ชี้ลูกมีปัญหากับภรรยาใหม่ จนชูษีต้องออกมาปกป้อง แต่กลายเป็นว่าน้องบูมไม่พอใจ หาว่าพ่อไม่เข้าข้างลูก (อ่านข่าว ชูษี เชิญยิ้ม อัดลูกสาว บูม เป็นฉาก ๆ หาว่าเข้าข้างเมียใหม่ ตัดกันไม่เผาผี)
ล่าสุด (9 มกราคม 2562) ห้องข่าวบันเทิง ได้เผยสัมภาษณ์ บูม ชญาภา และคุณแม่ นก วนิดา ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยนก เล่าว่า "ปัญหาเกิดขึ้นจากว่าพี่ไปเล่นบนเวทีกับพี่ษี ทำให้ภรรยาใหม่เขารู้สึกว่าเล่นกันเกินไป ไม่พอใจ มันเป็นการเล่นบนเวที พอลงจากเวทีเราอยู่กันคนละมุม ไม่ได้มานั่งคุยกันมากมายเลย ก่อนหน้านี้ น้องปอ (ภรรยาชูษี) เขาเป็นคนดี เขาบอกกับพี่ษีให้เอานกกับน้องบูมมาร่วมงานกัน แต่มาช่วงหลังที่ปอเขาเริ่มรู้สึกว่าเขาไม่พอใจ แต่เขาบอกว่าเขาไม่ได้หึง เขารู้สึกว่าการที่เล่นแบบนี้เป็นการไม่ให้เกียรติเขา แต่พี่ก็ได้เคลียร์ไปแล้วว่ามันเป็นการทำงาน ก่อนหน้านี้ปอก็เห็นว่ามันเป็นแบบนี้มาตลอด ไม่ใช่มาเป็นช่วงหลัง แต่ช่วงหลังอาจจะมีเกี่ยวกับเรื่องไลฟ์ขึ้นมา เขาเลยรู้สึกว่าไม่ให้เกียรติเขา แต่พี่ไม่ได้เป็นคนไลฟ์ มันเป็นการไลฟ์บนเวที แต่เขาคิดว่าเราไม่ให้เกียรติเขา"
ถึงเนื้อถึงตัวขนาดไหน ?
นก : คือพี่ษีร้องเพลง เราเป็นแดนเซอร์ก็ต้องมีถูกเนื้อถูกตัวกันอยู่แล้ว เป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ได้โอบกอดขนาดนั้น
ตอนที่เคลียร์กันพี่ษีรู้ไหม ?
นก : พี่ษีรู้ ณ วันแรกที่น้องปอโทร. มาว่าทำไมต้องเล่นแบบนี้ พอพี่รู้ว่าเขาทะเลาะกันพี่ก็โทร. ไปหาเขาเลยว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงทะเลาะกัน เขาก็บอกว่าให้ไปบอกพี่ษีว่าให้เลิกกับหนูไปเลยดีกว่าถ้าทำแบบนี้ พี่ก็เลยบอกให้เขาใจเย็น ๆ ค่อย ๆ อธิบาย แต่พี่รับรู้ได้ว่ามันเกิดจากพี่ เขาก็อธิบายว่าเขาไม่ชอบ พี่ไม่ให้เกียรติหนู พี่ก็บอกเขาว่าถ้าเป็นประเด็นมาจากพี่ พี่ขอโทษ แต่อย่าถึงขั้นต้องเลิกกันเลย อันนี้พี่ก็ถือว่าพี่เคลียร์แล้วก็จบ แต่พอเวลาผ่านมาพี่ษีก็มาบอกให้พี่เข้าไปเคลียร์ พี่ก็เลยมีความรู้สึกว่าเราเคลียร์กันแล้วทำไมต้องเคลียร์อีก จนมันสะสมมา ทางเราเจอกันกับพี่ษีบ่อย แต่กับปอไม่ค่อยเจอ ครั้งแรกที่เจอหลังจากโทร. คุยคืองานที่กาญจนบุรี เขาก็ไม่คุยกับเรา จากปกติเขาจะคุย วันนั้นเขาเฉยไม่คุยกับเรา ไม่ไหว้แม่เรา เราก็เลยรู้ว่าปอไม่ได้เลิกคิดเรื่องนี้ พี่ก็เข้าใจเลยไม่เข้าไปคุย คือพี่อธิบายตั้งแต่ตอนนั้นแล้วถ้าเข้าใจคือเข้าใจ
แล้วทำไมน้องบูมถูกโยงมา เรื่องความก้าวร้าว ?
บูม : หนูมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องในครอบครัว เราสามารถเคลียร์กันได้ หนูแค่รอระยะเวลาให้ทุกอย่างมันเจือจางค่อยเข้าไปคุย แต่มา ณ วันนี้ประเด็นทุกอย่างมันมาจากความผิดของหนู และอยู่บนพื้นที่ของสื่อแล้ว หนูก็ต้องออกมาพูด ต้นเหตุมันเกิดจากหนูมีความรักและเคารพบุพการีของหนู หนูหมายถึง พ่อ แม่ ตา ยาย ถ้าหนูได้รับรู้ว่าใครก็แล้วแต่มาล่วงเกินไม่ว่าจะวิธีใด ในความเป็นลูกหนูก็ยอมไม่ได้ แล้วก็มีการแสดงออกถึงความไม่พอใจ ความผิดของหนูในครั้งนี้คนที่มาล่วงล้ำแม่และยายของหนูคือภรรยาใหม่ของพ่อ (ร้องไห้) หนูก็ไม่ได้มีเจตนาให้พ่อทุกข์ใจ หรือกระทบกระเทือนจิตใจ เหตุผลอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้พ่อเสียใจ ผิดหวังในการกระทำ คำพูดของหนู หนูขอกราบขอโทษพ่อตรงนี้ค่ะ
หมายถึงข้อความในโทรศัพท์ว่าเขาด่าแม่และยาย ?
บูม : ค่ะ แต่หนูขอแยกประเด็นนะคะไม่ขอพูดถึง ในส่วนของเรื่องภรรยาใหม่ของพ่อหนูขอแยกออกมา ประเด็นหลักที่เกิดขึ้นเกิดจากตัวหนู พฤติกรรมการแสดงออกที่หนูทนไม่ได้กับคนที่มาล่วงเกินแม่และยายของหนู
พ่อบอกเรามีพฤติกรรมก้าวร้าวมาเป็นปีแล้ว ?
นก : พี่ว่าไม่มี เวลาไปตามงานตลกทุกคนจะรักบูม รักพี่ รักพี่ษีอยู่แล้ว พี่คิดว่าทุกคนคิดว่าบูมเป็นลูกหลาน ถ้ามันมีพฤติกรรมแบบนั้นจริง ๆ ต้องมีคนดึงไปพูดแล้ว ถามว่ามีไหม มี ที่บูมคุยกับเพื่อนว่าให้ใช้คำที่สุภาพนิดนึง จะมีก็แค่โพสต์ที่ทำให้พี่ษีรู้สึกไม่พอใจ ที่เอามาให้ดูแค่อยากให้ดูว่าเป็นคำก้าวร้าวว่ามีการเอ่ยถึงใครหรือเปล่า
โพสต์นี้คืออะไร ?
บูม : โพสต์นี้ทุกวันนี้ก็ยังเป็นสาธารณะอยู่นะคะ หนูไม่ได้ลบไป มันเป็นโพสต์ที่หนูไปเห็นในไลน์ส่วนตัว หนูยอมรับว่าหนูเสียมารยาทที่เข้าไปดูไลน์พี่ปอ หนูรู้สึกเสียใจ เพราะที่ผ่านมาผู้ใหญ่เกิดปัญหากัน พี่ปอไม่เข้าใจแม่ แต่ก็ยังคุยกับหนูตลอดเวลา พอหนูไปเห็นก็เลยรับไม่ได้
ข้อความนั้นคืออะไร ?
บูม : ขออนุญาตไม่พูดถึงนะคะ ไม่ขอตอบโต้ใด ๆ ทั้งสิ้น หนูอาจมีความเชื่ออีกแบบหนึ่งที่หนูได้รับมา พ่ออาจจะมีความเชื่ออีกแบบหนึ่งในความเชื่อของพ่อ หนูไม่ขอเอามาเป็นข้อโต้แย้งหรือเอาชนะใด ๆ ทั้งสิ้น ความผิดทั้งหมดหนูขอยอมรับ ถ้าหนูจะผิดเพราะปกป้องแม่ ปกป้องยายของหนู หนูรับไม่ได้กับสิ่งเหล่านี้จนเกิดพฤติกรรมแบบนี้ ทำให้ผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่านไม่พอใจ หนูกราบขอโทษค่ะ หนูชี้แจงกับพ่อ แต่โทร. แล้วพ่อไม่รับ หนูก็ได้อธิบายไปว่าตัวหนูเป็นยังไงพ่อก็น่าจะรู้ดี ตลอด 27 ปี ในความเป็นลูกชูษี และนก วนิดา หนูไม่เคยทำตัวเสื่อมเสียให้พ่อและแม่ต้องหนักใจและอับอาย หนูถูกอบรมจากยายและตาให้รักทั้งพ่อ-แม่เท่ากัน แต่หนูอยู่กับฝั่งแม่ พ่ออาจจะคิดว่าหนูรักแม่มากกว่า แต่ในวันนี้ถ้ามีใครมาล่วงเกินพ่อหนูก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน พ่อไม่ฟัง พ่อพูดว่าต่อจากนี้ต่างคนต่างอยู่ ในความรู้สึกของหนู หนูคิดว่าหนูเป็นตัวปัญหาหรือเปล่าที่ไปทำให้ครอบครัวของพ่อหรือพ่อหนักใจ บางทีหนูโพสต์เฟซบุ๊กอะไร บางทีหนูก็ไม่ได้มีเจตนาจะว่าหรืออะไร เราแชร์ข้อความ
นก : ช่วงนั้นที่บูมโพสต์อะไร เขาก็จะคิดว่าไปแขวะฝั่งโน้น เลยกลายเป็นว่าไม่ต้องเห็นกันเลยดีกว่า มันเป็นความคิดที่ตรงกันข้าม พี่ษีคิดว่าบูมจะเอาชนะมันไม่ใช่ ถ้าพี่คิดว่าหนูกับลูกออกมาพูดเพื่อเอาชนะ มันไม่ใช่นะพี่นะ หนูก็มีกันแค่ 2 คนแม่ลูกและยายอีกคน ถ้าคิดจะเอาชนะพี่หนูแพ้ตั้งแต่คิดแล้ว ที่ออกมาพูดในครั้งนี้ ขอใช้หน้าที่ของคนเป็นแม่ปกป้องลูกที่โดนกล่าวหาว่าก้าวร้าว แต่มันไม่มี บูมเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมดีมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโต ไม่เคยทำให้พ่อ-แม่เดือดร้อนเลย
พี่ษีบอกว่าถ้าการแถลงข่าวของพี่นกกับบูมไม่ตรงกัน เขาเอาตายแน่ ?
นก : ก็แล้วแต่เขา ก็เราออกมาพูดความจริง ถ้าความจริงทำให้ตายเราก็ยอม พี่พูดความจริง แต่เขาเป็นพ่อเขาจะฆ่าลูกเขาก็ทำได้ แต่พี่ว่าเขาไม่ทำหรอกค่ะ เพราะมันไม่ได้ร้ายแรงอะไรขนาดนั้น
พ่อตัดขาด ไม่ต้องมาเผา หนูรู้สึกยังไงบ้าง ?
บูม : มันก็เสียใจ ทุกวันนี้หนูยังไม่เลิกร้องไห้เลยด้วยซ้ำ ในความรู้สึกของคนเป็นลูก หนูผิดมากเลยเหรอ (ร้องไห้)
เรื่องเกิดมานานหรือยัง ?
นก : ถ้าเริ่มมาจากเรื่องพี่กับปอก็เกือบปีเหมือนกันนะ (พี่ษีบอกพี่ปอโทร. -ไลน์หาตอนปีใหม่ แต่ไม่รับ) ใช่ ๆ ปอโทร. หาพี่วันที่ 27 ตอนเกือบตี 3 พี่บอกเลยพี่ไม่รับ ที่ไม่รับเพราะไม่รู้ว่าจะโทร. มาด้วยเรื่องอะไร มีปัญหากับพี่ษีหรือเปล่าแล้วจะโทร. มาอะไรกับพี่ แต่ลึก ๆ จากที่เราเห็นในไลน์ เราก็รับรู้ว่าลับหลังเขายังอคติกับเรา พี่เลยอยากจบด้วยการเฉย นิ่ง ไม่ใช่นิ่ง เพราะพี่ไม่อยากให้พี่ษีหนักใจ ถ้าหากว่าโทร. มาแล้วทะเลาะกัน คนหนักใจคือพี่ษี พี่เลยเลือกเฉย แต่การที่พี่เฉยแล้วความผิดทุกอย่างมันมาตกที่ลูก มันก็ไม่ใช่
พ่อรอให้เราเข้าไปขอโทษ ?
บูม : ตั้งแต่ดูคลิป ความเป็นพ่อ-ลูก พ่อตัดหนูไม่ได้หรอก และหนูก็ตัดพ่อไม่ได้ ไม่ว่าพ่อจะตาย หรือหนูจะตาย ความเป็นพ่อ-ลูกก็ยังอยู่กับหนูเสมอ หนูเข้าไปขอโทษพ่อได้ หนูไม่ได้มีทิฐิหรือจะเอาชนะแบบที่พ่อคิด การที่หนูขอโทษหรือขอขมาหนูทำมาตลอดอยู่แล้ว ที่ยังไม่เข้าไปตอนนี้เพราะมันยังแรงอยู่ หนูก็ยอมรับว่าหนูเองก็น้อยใจ หนูรอเวลาให้หนูพร้อม
นก : คือบูมกับพ่อกับปอเขาคุยกันอยู่แล้ว พอเราเริ่มรู้ว่ามันจะมีปัญหาพี่ษีไลฟ์ครั้งแรก พี่คิดว่าเพื่อความสบายใจของพี่ษีจะพาลูกเข้าไปเคลียร์ จะได้เคลียร์กับปอด้วย แต่พี่ยังอยู่งานต่างจังหวัดเลยยังไม่มีเวลา แต่อีกวันเขาก็ไลฟ์ย้ำอีก จนสังคมมองว่าลูกไม่ดี พี่เลยพูดถ้างั้นแม่ไม่เคลียร์แล้วนะ ไม่คุยแล้วนะ ถ้าพี่เคลียร์กันดีแล้ว แต่สังคมยังมองว่าบูมเป็นเด็กไม่ดี ก้าวร้าว พี่ถึงเลือกไม่เคลียร์ ก็เลยเลือกเฉยกันไป เจอกันพี่ไม่เคยไปแขวะ ไปสร้างปัญหาอะไรเลย ต่างคนต่างอยู่ จากการที่เจอมาปอเขาก็เลือกไม่คุยกับพี่
ตอนนี้กลายเป็นปัญหาพ่อ-ลูก ?
บูม : ใช่ค่ะ ทางออกของเรื่องนี้จริง ๆ ยังไงหนูก็จะเข้าไปขอโทษพ่ออยู่แล้ว แต่มันไม่ทันเพราะมันปรากฏต่อหน้าสื่อแล้ว ไม่ใช่ว่าหนูจะมาเอาชนะอะไร เรื่องครอบครัวมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มีแต่เจ็บกับเจ็บ พ่อโดนว่า หนูก็โดนว่า แม่ก็โดนว่า เรื่องในครอบครัว แล้วครอบครัวของเราไม่ได้ดูดีตั้งแต่แรก มันมีแต่ทำร้ายกันมากกว่า อะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้พ่อสบายใจหนูก็ทำได้อยู่แล้ว
พี่ษีบอกบูมก้าวร้าวต่อตลกผู้หญิง ส. ?
บูม : ก็อย่างที่หนูพูดไปตั้งแต่แรก หนูรับไม่ได้กับใครที่มาล่วงเกินบุพการีของหนู ณ วันนั้นไม่มีการทะเลาะกันในงาน หนูแค่มาโพสต์ระบายในเฟซบุ๊กของหนู ตรงนี้ถ้าผิดหนูก็ขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ระบุว่าหมายถึงใคร โพสต์นั้นถ้าคนที่ไม่อยู่ในงานก็ไม่รู้ว่าใคร ตัวเขารู้จากแชตไลน์ที่แคปกันไป
นก : เรื่องแบบนี้มันพูดไม่ได้ มันเสียกันไปหมด จะให้บอกว่าใครคงต้องไปถามพี่ษี (เขาบอกเป็นคนมีบุญคุณกับเรา) คือพฤติกรรมของเขาที่เข้ามา จู่ ๆ เขาเดินมาหาแม่พี่ แล้วเขาก็ตบโต๊ะชี้หน้าแม่พี่ แล้วก็พูด แม่นั่นแหละ แล้วก็ค้อนสะบัดกลับไป บูมก็เดินมาหาพี่ร้องไห้ว่าทำไมเขาถึงมาชี้หน้ายาย ยายหนูทำอะไรผิดเหรอ พี่ษีก็เข้ามาถามว่ามีอะไร พอแม่พี่เล่าให้ฟัง เขาก็บอกเดี๋ยวเคลียร์ให้แล้วก็เดินหายเข้าไป ก็ไม่รู้ว่าเคลียร์หรือไม่เคลียร์ ถามว่าการทะเลาะกันไม่มี ถ้าทะเลาะต้องไม่ใช่บูม แต่เป็นพี่ เพราะน้องของ ส. ยังเดินมาบอกบูมว่า บอกยายว่าอย่าคิดมากนะ เขาเมา เราก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พฤติกรรมก้าวร้าวของลูก การลงเฟซบุ๊กแต่ไม่ได้เอ่ยชื่อ พี่ษีบอกว่าบูมด่าเขา เอ่ยชื่อหรือด่าทั้งตระกูล
ข้อความนั้นคืออะไร ?
บูม : "ทำไมแม่จ๊ะ แม่เรายายเราเป็นยังไงจ๊ะ เป็นเด็กให้เฉยไว้จะน่ารัก แล้วผู้ใหญ่ล่ะจ๊ะ ถ้าเป็นเด็กที่รักแม่รักยายเราต้องทำยังไงจ๊ะ อ๋อ พูดไม่ได้คนจน คนไม่ดัง สวัสดี บ่นกับตัวเองอาจจะดังไปหน่อย ไม่ไหว้ใครและต่อจากนี้ ไหว้แล้วเจ็บหัวใจ หมายถึงคนที่ไม่ไหว้แม่กับยายเรา คนตรง 2018 น้องบูมขอโทษที่ทำตัวไม่น่ารักนะ หนูจะจำวันนี้ทุกชอตและทุกคน" มันเป็นคำตัดพ้อค่ะ มันก็เป็นความรู้สึกที่ทุกคนก็เคยทำระบายผ่านโซเชียล แต่หนูอาจจะขาดความยั้งคิดไปว่าหนูเป็นลูกพ่อกับแม่ แล้วมันกระทบกระเทือนจิตใจพ่อ ทำให้ผู้ใหญ่รู้สึกว่าหนูเป็นคนไม่น่ารัก หนูต้องกราบขอโทษด้วยค่ะ
เหตุผลที่เราถ่ายไลน์พี่ปอ หนูสงสัยอะไรถึงไปดู ?
บูม : ตลอดเวลาที่พี่ปอไม่คุยกับแม่หนู หนูคุยกับพี่ปอตลอด แล้วพี่ปอก็มาปรึกษาว่าพี่อยากเปลี่ยนโทรศัพท์ หนูก็แนะนำให้ใช้ตัวนี้ แล้วพอดีวันนั้นหนูไปบ้านพ่อแล้วเห็นโทรศัพท์เลยหยิบมาบอกว่านี่เหรอพี่ปอที่ซื้อมาใหม่ หนูยอมรับว่าหนูเสียมารยาทจริง ๆ ที่เข้าไปดูแล้วเห็นไลน์อันนั้นเลยถ่ายไว้ ที่ผ่านมาพี่ปอเป็นคนดีกับหนูกับแม่ แม้แต่พ่อเองหนูยังมานั่งคิดหาเหตุผลว่าเพราะอะไร ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ถ้าหนูถ่ายรูปไว้แล้วหนูอยากจะสร้างปัญหาให้พ่อจริง ๆ คืนนั้นพี่ปอขึ้นบ้านไปหนูคงเอาให้พ่อดูแล้ว แต่หนูเลือกไม่ให้พ่อดู จนกระทั่งเรื่องราวมา.. หนูก็ไม่ทราบว่าพ่อรู้ได้ยังไงว่าข้อความไลน์มีอะไร เขาน่าจะเห็นก่อน แต่หนูส่งกลับไปในวันที่พ่อบอกว่าต่อจากนี้ต่างคนต่างอยู่
การที่หนูไปเปิดดูไลน์เขา ตั้งใจถ่ายเป็นหลักฐาน ?
บูม : หนูยอมรับว่าหนูเสียมารยาท หนูถ่ายเพื่อจะกลับมาคุยกับแม่ว่าเสียความรู้สึก จากคนที่เคยรักกัน ทำไมลับหลังเป็นแบบนี้เหรอ เราอยู่ในส่วนของเราไหม ใครไม่ชอบเราก็ไม่ไปอยู่ตรงนั้น เจตนาแค่เอามาให้แม่ดู หนูไม่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐานอะไร
นก : พี่เคยพูดกับบูมนะว่าปอมันดี แต่ทำไมช่วงหลังเป็นแบบนี้ แม่ว่าอาจจะมีคนยุนะ เพราะจริง ๆ พื้นฐานนิสัยปอไม่ใช่คนแบบนี้ ถ้าเรื่องหึงหวงมันน่าจะมีตั้งแต่ต้นแล้ว นี่เราอยู่มา 10 ปีทำไมมาเกินในปีหลัง (คิดว่ามีคนยุ) พี่คิดแบบนั้น เพราะว่าปอเป็นคนดี เขาคงไม่จู่ ๆ ลุกขึ้นมาหึง ในการคุยในแชตเป็นการด่าพี่ ด่าแม่พี่ แต่ในเมื่อต่อหน้าเราอยากเคลียร์กัน แต่ทำไมไม่คุยกัน ใช่พี่เป็นคนเลือกที่จะไม่คุย (เห็นหรือเปล่าว่าในไลน์เขาคุยกับใคร) พี่เห็นว่าเขาคุยกับใคร (ใช่คนที่มีปัญหาในงานไหม) อันนี้ขอไม่พูดถึงดีกว่ามันจะกลายเป็นพาดพิงเขา ที่บูมแคปมาคือเอามาให้เราดูว่าที่แม่สงสัยว่ามีใครยุไหม เลยเอามาให้ดู ไม่ได้จะเอาไปแฉหรือเอาไปให้พี่ษีดู ถ้าคิดจะทำลายครอบครัวเขาคงให้ดูตั้งแต่แรกแล้ว
อยากให้เรื่องนี้จบอย่างไร ?
นก : ประเด็นสำคัญที่สุดคือเรื่องลูกกับเขา พ่อ-ลูกมันตัดกันไม่ขาดหรอก พี่กับพี่ษีความเป็นผัวเมียมันขาดกันไปแล้ว แต่ความเป็นพ่อ-ลูกยังไงมันก็ตัดกันไม่ขาด
จากนี้จะมองหน้ากันติดไหม พี่ษี พี่ ส. ?
นก : พี่มองติด เพราะพี่ไม่คิดอะไร
บูม : พี่ ส. หนูไม่ขอพูดถึง ตัวหนูเองไม่ได้อะไรกับเขา คนที่ถูกกระทำตรงนั้นคือยาย มันคนละส่วนกัน หนูแค่รู้สึกเสียใจ ประเด็นวันนี้คือความผิดที่หนูยืนเคียงข้างแม่และยาย ซึ่งบุคคลนั้นเป็นภรรยาใหม่ของพ่อ แล้วมันส่งผลกระทบจิตใจของพ่อ ถ้าความผิดนี้เป็นความผิดของหนู หนูก็กราบขอโทษพ่อค่ะ
คนมองว่าบูมก้าวร้าว ?
นก : บูมไม่ใช่คนก้าวร้าว แต่บูมเป็นคนตรงมากกว่า และบุคลิกเขาเป็นคนไม่ค่อยยิ้ม เลยดูแข็ง ๆ
จะระวังเรื่องการโพสต์เฟซบุ๊กมากขึ้นไหม ?
บูม : ปกติหนูก็เป็นคนเล่นโซเชียลทั่วไป ต่อจากนี้จะระวังมากขึ้น ก็ฟังที่พ่อเตือนมา
เรื่องนี้ใครผิด ?
บูม : โทษหนูเลยค่ะ หนูผิดที่หนูรับไม่ได้และแสดงพฤติกรรมไม่พอใจ
อยากบอกอะไรกับพ่อ ?
บูม : จริง ๆ เรื่องในบ้าน เราก็ตั้งใจจะคุยกันในบ้านอยู่แล้ว ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ๆ ก็แล้วแต่ที่ทำให้พ่อคิดว่าหนูผิด หนูไม่ดี หนูเนรคุณ หนูไม่โกรธเพราะเราไม่ได้คุยกัน มันเป็นการอธิบายของหนูที่สื่อผ่านตัวหนังสือ มันไม่สามารถบอกได้ถึงความรู้สึกจริง ๆ หนูก็ขอโทษ ไม่ว่าจะเป็นกาย วาจา ใจ ที่หนูกระทำแล้วพ่อคิดว่าหนูล่วงล้ำพ่อ หนูก็ต้องขอโทษพ่อด้วย ขอโทษจริง ๆ ค่ะ
ภาพจาก ห้องข่าวบันเทิง, เฟซบุ๊ก ชูษี เชิญยิ้ม, เฟซบุ๊ก บูม ชญาภา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ห้องข่าวบันเทิง