ถือเป็นนักร้องคุณภาพที่แฟน ๆ หลายคนคิดถึงผลงาน สำหรับ อ๊อด โอภาส ที่หายหน้าหายตาจากหน้าจอไปพักใหญ่ หลังมีอาการป่วยด้วยโรครุมเร้า ข้อต่ออักเสบมากว่า 10 ปี อีกทั้งยังเกิดอุบัติเหตุซ้ำจนทำให้อาการแย่ลง และเดินติด ๆ ขัด ๆ ซึ่งล่าสุด (14 มกราคม 2562) เจ้าตัวก็ได้มาอัปเดตถึงอาการป่วยในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ตรวมดาวนักร้องรุ่นเก๋าที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ด้วย
โดย อ๊อด เผยว่า มันเป็นโรคข้อต่ออักเสบชนิดหนึ่ง ซึ่งพอเริ่มรักษาไปจนดีขึ้นแล้ว ตนกลับประสบอุบัติเหตุซ้ำ คือจอดรถอยู่ดี ๆ แล้วคนมาชน ซึ่งอุบัติเหตุเกิดขึ้นมานานแล้ว หลังอุบัติเหตุตนก็ขายรถคันนั้นทิ้งเลย ทุกวันนี้ก็เลยต้องหารถใช้แบบที่เราขึ้น-ลงสะดวก แต่ตนก็ไปหาหมอรักษามาหลายปีแล้ว มันก็ดีขึ้น เมื่อก่อนแย่กว่านี้อีก แต่ก็ไม่ได้มีพวกโรคเบาหวาน ความดัน ไม่เป็นโรคอะไรร้ายแรง ตนก็มองว่าโอเค เรื่องการเดินนั้นเดินได้ก็พอแล้ว ถามว่าทุกวันนี้ใช้ชีวิตยากไหม ก็ไม่ยาก ใช้ชีวิตได้ปกติ เพียงแต่มันจะไม่คล่องตัวเท่านั้นเอง แต่ว่าทุกอย่างยังโอเค แข็งแรงดี
ซึ่งอาการข้อต่ออักเสบ ตอนนี้ที่คอมันติดกันแล้ว แล้วก็ที่สะโพก เรื่องอุบัติเหตุ มันไปกระตุ้นโรคให้แรงขึ้น จริง ๆ โรคข้อกระดูกตนเป็นอยู่แล้ว แต่พอมีอุบัติเหตุก็เหมือนไปย้ำให้มันเป็นแรงขึ้น แต่ตนก็สู้ ๆ อยู่แล้ว การไม่เป็นโรคเป็นลาภอันประเสริฐถูกแล้ว แต่เมื่อเราเป็นแล้วเราก็ต้องเรียนรู้อยู่กับมัน และคุณหมอก็บอกอยู่แล้วว่ามันไม่มีทางหายขาด แต่จะเป็น ๆ หาย ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับพิการ ไม่ถึงกับชีวิต ก็เรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน ก็ต้องหาหมอตลอด แล้วยาแพงมาก ใช้ค่ารักษาเรื่องยาปีหนึ่งหลายล้านบาท
ส่วนตอนนี้ถามว่าต้องดูแลสุขภาพอะไรเป็นพิเศษไหม คือไม่ต้องทำอะไรมาก ออกกำลังบ้าง ทำกายภาพบำบัด เรื่องอาหารกินอะไรก็กินได้ แต่ต้องนอนให้พอเท่านั้นเอง ออกกำลังกายได้ปกติ ตนก็ยังแข็งแรง เพราะเล่นกีฬามาตลอดตั้งแต่เป็นวัยรุ่นแล้ว ก็เลยเป็นผลให้ตอนที่ไม่สบายหรืออายุเยอะขึ้น ก็ยังแข็งแรงอยู่ได้ ตอนนี้ทำกายภาพอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง หาหมอก็เดือนละครั้ง จริง ๆ ป่วยมาหลายปีแล้ว แต่ตนไม่ค่อยได้ออกสื่อก็เลยไม่ค่อยเห็นกัน แต่ก็หลายปีแล้ว
เรื่องอาการมันก็แค่เดินติด ๆ เหมือนหุ่นยนต์ แต่ตนแข็งแรงดีปกติ สุขภาพร่างกายโอเค ไม่มีความดัน เบาหวาน มะเร็งอะไรไม่มี เสียงก็เหมือนเดิม เพียงแต่ว่ายาที่ฉีดบางทีมันทำให้ง่วง ก็มีทั้งยาฉีด ยากินเยอะ เป็นกำมือเลย กินแล้วอิ่มแทนข้าวเลย แต่ก็ต้องติดตามตรงเวลา เช็กผลเลือดว่าร่างกายเราสู้ไหวไหม ถ้าเราสู้ยาไม่ไหวก็ต้องเบา ตอนนี้ลดยาฉีดลง เพราะว่ามันแพงมากจริง ๆ
ถามว่าต้องรับงานหนักขึ้นกว่าเดิม เพราะเรื่องค่าใช้จ่ายไหม ก็ไม่หรอก คือเราทำเท่าที่เราทำไหว อย่างยาที่ใช้ก็เป็นยาชีวภาพที่สกัดจากสมองหนู ต้องแช่ตู้เย็น เวลาฉีดก็ฉีดเข้าที่พุง ที่แขน ต้องย้ายที่ไปเรื่อย ก็ฉีดเอง คือมันมีแบบที่ให้หมอฉีดกับแบบที่ฉีดเอง ที่ฉีดเองก็คือเราไม่สะดวกไปหาหมอถ้าต้องไปงาน ยาฉีดสมัยนี้ไม่ทันได้กลัว จิ้มเข้าไปปุ๊บมันเด้งเข้าเลย เรื่องการพักผ่อนทำยังไงก็ได้ให้นอนให้พอ แล้วก็ห้ามเครียดเด็ดขาด ถ้าเครียดเมื่อไรอาการจะหนักขึ้น ตอนนี้ก็ดีนะ มันก็เดี๋ยวดี เดี๋ยวไม่ดีอยู่อย่างนี้ มันจะไม่หายขาด 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เราใช้ชีวิตได้
ส่วนเรื่องคอนเสิร์ตนั้นถามว่ามีผลกระทบไหม คือเราซ้อมได้ปกติ อัดเสียงอยู่ งานตนเต็มเลย รถก็ขับได้ แต่รถตนจะแปลกกว่ารถคนอื่นนิดหนึ่ง ต้องเปลี่ยนมาใช้รถที่ขึ้น-ลงสะดวก ก็เป็นรถที่ตนขับเอง ตนก็จะติดกล้องเยอะหน่อย เรียกว่าเปิดไฟเลี้ยวซ้าย-ขวา กล้องติดหมด เดินหน้าถอยหลังก็มีกล้อง มีรอบเลย คือมันเป็นเรื่องความปลอดภัยจริง ๆ ไม่ต้องเป็นโรคแบบตนก็ติดแบบนี้ได้ เขาเรียกกล้อง 360 องศา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อ๊อด โอภาส ทศพร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก one31