ตอนนั้นตอนลงเราคิดยังไงอยู่หรือยังไง ?
เก้า สุภัสสรา : ก็จริง ๆ เรารู้สึกว่ามันเป็นวันพิเศษ แล้วก็เอาจริงๆ คือไม่เคยได้ดอกไม้มานานมาก ๆ แล้วค่ะ เก้ารู้สึกว่ามันเป็นวันดี ๆ ที่เราอยากเก็บเป็นความทรงจำในแบบนี้ เอออยากให้ลงในอินสตาแกรมนี่ 14 กุมภาพันธ์นะ คือเรามีความสุขค่ะ เราก็อยากลง อยากให้คนที่เรารักเห็น คนที่ติดตามเขาเห็นว่าทุกวันนี้เป็นวันดี ๆ ของเราวันนึงนะที่เรามีความสุขประมาณนี้ค่ะ
ทำไมไม่เปิดหน้าไปเลย ?
เก้า สุภัสสรา : เขาอาย พี่เขาอายค่ะ
เขากลัวว่าคนจะจับตาหรือว่ายังไง ?
เก้า สุภัสสรา : เขากลัวไหมเหรอคะ หนูว่าเขาไม่ได้กลัวว่าคนจะจับผิดไหมเพราะว่าเราสองคนก็เปิดเผยค่ะ แบบไปไหนมาไหน กินข้าวไปเดินที่ไหนก็ไม่ปิด แต่ว่าเขาคงไม่อยากให้มันคงดูตลกถ้าเห็นหน้าเขาไปอยู่ในอินสตาแกรมแล้วถือดอกไม้
ซึ่งตอนนี้กลัวว่าความเป็นส่วนตัวจะหายไปเลยยังไม่เปิดตัวชัดเจน ?
เก้า สุภัสสรา : จริง ๆ หนูกังวลเขามากกว่าค่ะ คือเรื่องความรักเรามันนานมากแล้วที่เราไม่ได้ตรงนี้ พอวันหนึ่งมันมี เราก็กังวลคนที่เขาไม่ได้ทำงานตรงนี้ว่าเขาจะเครียดไหมหรือว่าคนจะไปวุ่นวายถามอะไรเขาเยอะไหมเรากังวลเขามากว่าค่ะ
แต่เขาก็เล่นละครไม่ใช่เหรอ ?
เก้า สุภัสสรา : ก็เล่นบ้างค่ะ แต่ว่าอาจจะไม่ยืนอยู่จุด ๆ เราค่ะ
ซึ่งก็คือ เชา ชวลิต ถูกไหม เข้าใจถูกไหม ?
เก้า สุภัสสรา : ค่ะ
คุยกันมานานหรือยัง ?
เก้า สุภัสสรา : ไม่นานเลยค่ะ ไม่ถึงปีค่ะ
เจอกันได้ยังไง ?
เก้า สุภัสสรา : ก็เป็นเพื่อนของเพื่อนประมาณนี้ค่ะ ก็เป็นเหมือนรุ่นพี่ที่รู้จักกันมาตั้งนานแล้ว
จริง ๆ เราถูกใจอะไรเขาตรงไหนถึงยอมเปิดใจอีกครั้ง ?
เก้า สุภัสสรา : เขาเหมือนเป็นพี่คนหนึ่ง ที่เรามีปัญหา แบบเพื่อนของเพื่อนดูเหมือนเวลาไปกินข้าวหรือว่าเจอตามกลุ่มเพื่อนใหญ่ ๆ เขาเป็นคนดูมีทัศนคติที่ดี เราเลยรู้สึกว่าคนนี้ปรึกษาได้ พอเรารู้สึกว่าคนนี้มีความคิดที่แบบเราสามารถปรึกษาได้พอเรามีปัญหาอะไรเข้ามาในชีวิตเหมือนกับคุยกันตรง ๆ เหมือนจังหวะที่ได้คุยกันตามกลุ่มเพื่อนด้วยค่ะ
ไลฟ์สไตล์เราโอเคไหม เรากับเขา ?
เก้า สุภัสสรา : หนูก็ใช้ชีวิตตามปกติ คือเราชอบไปกินข้าวแบบธรรมดาแล้วก็ปกติกันหมดเลยค่ะก็เลยไม่ได้แบบยังไม่เห็นว่ามันมีไลฟ์ไตล์ที่มันต่างกัน ณ ตอนนี้ค่ะ
เปิดแบบนี้แล้วสถานะตอนนี้ขยับมาเป็นแฟนหรือยัง ?
เก้า สุภัสสรา : ยังเลยค่ะ ก็อาจจะมีความรู้สึกดี ๆ นะคะ ให้ดอกไม้อะไรกันมันก็ใช่ แต่ว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่ว่าเราจะใช้คำนั้นมากเท่าไรค่ะเพราะว่าพอมันโตขึ้นมันคิดเยอะมากเลยค่ะพี่ ไหนจะเป็นเรื่องของการใช้ชีวิตครอบครัวหรือสังคมอะไรหลาย ๆ อย่าง เราต้องดูว่าเราไปด้วยกันได้ไหม อย่างนึงที่เราเหมือนกันคือเรามีเป้าหมายในชีวิตเหมือนกัน เราคิดตรงกัน เราชอบที่ชีวิตมันเป็นไปทางนี้ ก็เลยรู้สึกว่าโอเค ลองดูมันไปได้ไหมคะ
ตอนนี้เรียกว่าคนพิเศษไหม ?
เก้า สุภัสสรา : ก็พิเศษนะคะ ก็สนิทกันมากค่ะแล้วก็คุยกันปรึกษากันทุกเรื่องค่ะ
ครั้งหน้าอาจจะไปเจอลงรูปแบบเต็ม ๆ ?
เก้า สุภัสสรา : หนูว่าไปถามพี่เขาดีกว่าว่าเขาอยากให้ลงไหม จริงๆ คือหนูได้หมดอยู่แล้วค่ะ เราก็อย่างที่บอกค่ะว่ารูปวันนั้นจริงๆ เราก็อยากลงคู่กัน แต่ว่าก็ด้วยความที่ว่ากลัวจะทำให้ชีวิตเขาลำบากมากขึ้นหรือเปล่าประมาณนี้ค่ะ
แต่เราก็ถามเขาไหม ?
เก้า สุภัสสรา : ถามค่ะ ถามหลายรอบด้วย รูปนี้สามารถลงได้ไหมเราก็รู้สึกว่ามันเป็นวันดี ๆ ของเราค่ะ