อองตวน ปินโต ลดสัมพันธ์ ชิปปี้ แค่พี่น้อง ไม่ถือสา หลังฝ่ายหญิงโพสต์แรง !

          อองตวน ปินโต รับจบสัมพันธ์คนรักกับ ชิปปี้ ศิรินทร์ ยันไม่มีมือที่สามมาเกี่ยวข้อง มองแคปชั่นฝ่ายหญิงไม่ได้หมายถึงตัวเอง เผยยังคุยกันได้เหมือนเดิม ไม่ปิดโอกาสรีเทิร์น

          ทำเอาหลายคนจับตามองไม่น้อย สำหรับความสัมพันธ์ของคู่รักคู่หวานอย่างนางเอกสาว ชิปปี้ ศิรินทร์ และแฟนหนุ่มนักมวยหล่อหุ่นดี อองตวน ปินโต หลังทั้งคู่อันฟอลโลอินสตาแกรมกันและกัน แถมฝ่ายหญิงยังออกมาโพสต์ข้อความปริศนาเหมือนมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องอีก ซึ่งทางฝ่ายหญิงก็ได้ออกมายอมรับแล้วว่าจบความสัมพันธ์กันจริง

          ล่าสุด (4 มิถุนายน 2562) หนุ่มอองตวน ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ โดยได้เผยถึงเรื่องที่ สาวชิปปี้ โพสต์ข้อความลงอินสตาแกรมว่า "จริง ๆ แล้วตอนที่โพสต์รูป เอาตรง ๆ ผมไม่ได้คิดอะไร เพราะว่าผมไม่ได้รู้สึกว่าแคปชั่นนี้หมายถึงตัวเอง จนกระทั่งมาเห็นข่าว ถึงรู้สึกว่าจะมีคนคิดว่าเป็นเราทำอะไรมาหรือเปล่า"

          อองตวน ปินโต : ไม่มี ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าแบบมันเป็นแค่แคปชั่นครับ เราก็เลยไม่ได้รู้สึกว่ามันเข้าตัวเอง ก็เลยไม่ได้คิดอะไร เหมือนแค่ผ่านไป แค่แบบว่ารูปสวย รู้สึกว่าการลงรูปในไอจีเนี่ย เราก็จะมีการเสิร์ชแคปชั่นตามทวิตเตอร์ หรือกูเกิล โดยที่มันรีเลตได้บ้างไม่ได้บ้าง ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็ทำแบบนี้ ซึ่งผมก็เข้าไปดูแล้วก็รูปสวยดี

          อองตวน ปินโต : ถ้าเหตุการณ์ที่รีเลตกับแคปชั่นนี้ ไม่มีครับ

          อองตวน ปินโต : ตอนนี้เราอาจจะไม่ได้ใช้คำว่าแฟน เราอาจจะเปลี่ยนสถานะคำว่าแฟน เป็นเพื่อน หรือว่าเป็นพี่น้องมากกว่า ผมคิดว่าคำว่าเลิกกันมันไม่ใช่คำที่ถูกครับ คือคำว่าเลิกกันมันอาจจะทำให้นึกถึงคนที่ไม่คุยกัน ตัดกันขาด ซึ่งมันไม่ใช่เรา เราไม่ได้เลิกกัน เราใช้คำว่าเปลี่ยนสถานะดีกว่า จริง ๆ เป็นการคุยระหว่างเราสองคนมาสักพักใหญ่ ๆ คนอาจจะเพิ่งเห็น หรือมีแฟนคลับบางกลุ่มที่สงสัยมาสักพักใหญ่แล้ว แต่ระหว่างเราสองคน เราก็มีการพูดคุยกันมาตลอดว่าเราควรจะไปยังไงต่อ หรือเป็นยังไง เราเข้าใจว่าพอถึงวันนี้คนอาจจะยังงง ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ในวันที่ทุกอย่างมันดี เราเลือกจะเอาแต่สิ่งดี ๆ เป็นบวกมาให้คนดู เราคิดตลอดว่าจะเอาอะไรที่เป็นแง่บวกหรือสร้างรอยยิ้มให้คนดูตลอด แต่ว่าในวันที่มีอะไรที่เป็นผลลบ เราเลือกที่จะไม่พูดกับคนอื่นดีกว่า มันไม่ใช่สิ่งที่เราอยากจะแชร์ออกไป

          อองตวน ปินโต : มันไม่ได้มีเรื่องไหนเรื่องหนึ่งหรือเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นแล้วรู้สึกว่าต้องคุยละ มันไม่ใช่ละ คือเราคุยกันมาตลอด แล้วก็เชื่อว่าทุกคู่เวลาคบกันจะต้องมีการปรับเข้าหากันตลอด ๆ แล้วก็เป็นการตัดสินใจของเราทั้งสอง ว่าเราเปลี่ยนสถานะมาเป็นแบบนี้นะ น่าจะดีกว่า

          อองตวน ปินโต : อย่างที่บอกว่าเราเลือกเอาสิ่งดี ๆ มาแชร์ให้คนดู ในเรื่องที่เป็นแง่ลบ เราคิดว่ามันไม่จำเป็นต้องให้คนรู้ดีกว่า

          อองตวน ปินโต : อย่างที่ผมบอก ผมอ่านแล้วผมไม่ได้รู้สึกว่ามันคือส่วนตัว

          อองตวน ปินโต : อันนี้ผมไม่ทราบครับ เดี๋ยวให้พี่ไปถามเขา แต่ผมเชื่อว่าแคปชั่นในอินสตาแกรมบางครั้งเราอาจจะแค่เขียนไปงั้น หรือว่าอาจจะเป็น ณ โมเมนต์นั้น แต่ว่าจริง ๆ แล้วไม่ได้คิด เชื่อว่าลึก ๆ แล้วไม่ได้มีอะไร

          อองตวน ปินโต : ก็คุยกันปกติ เราก็ยังคงไปไหนมาไหนด้วยกัน ก็ยังคุยกันได้ปกติ เราไม่ได้มีการทะเลาะกัน หรือว่าเราไม่ได้เกลียดกันหรือว่าอะไร ยังปกติ ก็ยังเป็นห่วง ยังรักน้องอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าสถานะแค่เปลี่ยน

          อองตวน ปินโต : อย่างที่ผมบอก ผมเชื่อว่าเหตุการณ์อย่างนี้ ยังไงมันไม่มีใครไม่เสียใจ แต่ว่าเราก็โตแล้วทั้งคู่ในระดับหนึ่ง เราเชื่อว่าเราคุยกันแล้ว ตัดสินใจกันแล้วว่า ณ ตอนนี้เป็นแบบนี้น่าจะดีกว่า

          อองตวน ปินโต : ผมเชื่อว่าการลดสถานะมันมีการทำผิดทั้งสองฝ่าย อาจจะมากน้อยแค่ไหน เรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ มันจะใช้คำว่าไม่ผิดเลยมันเป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่มีใครผิด ก็ยังคงปกติเหมือนเดิม

          อองตวน ปินโต : สักพักใหญ่แล้ว หลายเดือน ผมไม่แน่ใจว่ากี่เดือน

          อองตวน ปินโต : ทราบครับ เราก็คุยกัน เรารู้อยู่แล้วว่าจะมาออกงานวันนี้ ผมเป็นห่วงเขา ก็ฝากพี่ ๆ นักข่าวไปดูแลเขาด้วยครับ

          อองตวน ปินโต : จริง ๆ ก็เป็นคนหวาน เวลาเจอกันก็ยังรู้สึกว่าเขาก็ยังหวาน เราก็ยังปกติ

          อองตวน ปินโต : ก็ไม่แน่ พูดไม่ได้ว่าพรุ่งนี้มันจะเป็นยังไง รู้แต่ว่าที่ผ่านมาเวลาเราคบกัน พยายามทำทุกวันให้ดีที่สุด แล้ววันพรุ่งนี้จะเป็นยังไงค่อยว่ากันอีกที

          อองตวน ปินโต : ตอนนี้คงยังครับ

          อองตวน ปินโต : เจอครับ แล้วก็ได้คุยกัน ไปกินข้าว ไปดูหนังกันบ้างก็มีตามปกติ เราไม่ได้เกลียดกัน ไม่ได้มีเหตุการณ์ที่ทำให้มองหน้ากันไม่ติด ไม่ใช่อย่างนั้น มันเป็นการตกลงกัน


ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN