ผ้าซิ่น แฟชั่นสมัยโบราณกับเอกลักษณ์ความงาม ที่สาวยุคไหนก็ใส่สวย

          ผ้าซิ่น เห็นญาญ่า อุรัสยา ในลุคผ้าซิ่นจากละครกลิ่นกาสะลองแล้ว หลายคนแอบเทใจให้คะแนนเต็มสิบ แฟชั่นผ้าซิ่นดูแล้วก็สวยใช่ไหมล่ะคะ เพราะฉะนั้นวันนี้เรามารู้จักกับผ้าซิ่นให้มากขึ้นกันดีกว่าค่ะ
          แฟชั่นชุดไทย เป็นเทรนด์ที่สาว ๆ ให้ความสนใจกันมากขึ้น โดยเฉพาะจากละครดังที่มีนางเอกสวมชุดไทย ก็จะจุดกระแสให้สาวน้อยสาวใหญ่อยากใส่ชุดไทยกันบ้าง ตั้งแต่แม่การะเกดมาจนถึงแม่หญิงกาสะลองและซ้องปีบ จากละครเรื่องกลิ่นกาสะลอง ที่กำลังออกอากาศทางช่อง 3 ก็แหม.. สาวญาญ่า อุรัสยา ในลุคผ้าซิ่นนั้นสวยจับใจ จนใคร ๆ ก็อยากนุ่งซิ่นตาม
          วันนี้ เราจึงพาคุณมาทำความรู้จักกับ “ผ้าซิ่น” ให้มากขึ้นกันค่ะ ว่าผ้าซิ่นคืออะไร มีแบบไหนบ้าง และในละครกลิ่นกาสะลองนั้นเป็นผ้าซิ่นชนิดไหน เผื่อสาว ๆ จะได้นำเทรนด์กับแฟชั่นผ้าซิ่นกันบ้าง

ภาพจาก : ch3thailand.com

ผ้าซิ่น คืออะไร

          “ซิ่น” คือผ้าที่เย็บเป็นถุงสำหรับผู้หญิงนุ่ง มีลักษณะแตกต่างกันไปตามท้องถิ่น ทั้งขนาด การนุ่ง และลวดลายบนผืนผ้า โดยพบว่ามีการสวมใส่ในประเทศลาวและประเทศไทย โดยเฉพาะทางภาคเหนือและภาคอีสานของไทย

 

          ในสมัยโบราณ การทอผ้าเป็นงานในบ้าน ผู้หญิงจะได้รับการฝึกฝนให้ทอผ้าจนชำนาญ การนุ่งผ้าซิ่นทอเองของผู้หญิงจึงเหมือนเป็นการแสดงฝีมือของตัวเอง ผ้าซิ่นที่ทอได้ประณีตงดงาม มีฝีมือดี จะเป็นที่กล่าวขวัญและชื่นชมอย่างกว้างขวาง และยังเป็นการบ่งบอกฐานะทางสังคม ผ้าซิ่นของสตรีชั้นสูงมักจะทอด้วยวัสดุชั้นดี ลวดลายสลับซับซ้อน ในขณะที่ผ้าซิ่นของสาวชาวบ้านก็จะเป็นผ้าซิ่นธรรมดา ไม่มีลวดลายมากนัก

ภาพจาก : Instagram noproblemfg

          ผ้าซิ่นของไทยมักจะแบ่งได้เป็นสองลักษณะ อย่างแรกคือผ้าซิ่นสำหรับใช้ทั่วไป มักจะไม่มีลวดลาย ทอด้วยผ้าฝ้ายหรือด้ายโรงงาน อีกอย่างหนึ่งคือผ้าซิ่นสำหรับใช้ในโอกาสพิเศษ เช่น งานแต่งงาน งานบุญ งานประเพณี มักจะทอด้วยความประณีตเป็นพิเศษ หรือเป็นผ้าไหม มีการใส่ลวดลาย สีสันงดงาม และใช้เวลาทอนานนับเดือน

ส่วนประกอบของซิ่น

ผ้าซิ่นส่วนมาก มีโครงสร้างคล้ายกัน ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่

          - หัวซิ่น เป็นส่วนบนสุดของซิ่น ไม่นิยมทอลวดลาย บางแห่งใช้ผ้าขาวเย็บเป็นหัวซิ่น และเหน็บพกไว้ ถ้ามองจากภายนอกก็จะไม่เห็นส่วนนี้ค่ะ

          - ตัวซิ่น เป็นส่วนหลักของซิ่น อาจมีการทอลวดลายบ้างเล็กน้อยในลักษณะของลวดลายที่กลมกลืน มักเป็นสีเดียวตลอดทั้งผืน

          - ตีนซิ่น เป็นส่วนปลายสุดของซิ่น ในบางท้องถิ่นนิยมทอลวดลายเป็นพิเศษสำหรับตีนซิ่นโดยเฉพาะ

ผ้าซิ่นแบบต่าง ๆ

          ด้วยวัฒนธรรมการทอผ้าในแต่ละท้องถิ่นที่มีความแตกต่างกัน ผ้าซิ่นที่พบในประเทศไทยจึงมีความหลากหลาย ทั้งลวดลาย วัสดุ เทคนิคการทอ อาทิ ผ้าซิ่นมัดหมี่ ที่ใช้กรรมวิธีย้อมด้ายก่อนการทอ พบมากในภาคอีสาน ผ้าซิ่นลายแตงโม ผ้านุ่งมีลายเฉพาะสตรีไทดำ ผ้าโฮลแสร็ย ผ้าซิ่นมัดหมี่กลุ่มชาติพันธุ์ไทยเชื้อสายเขมรแห่งอีสานใต้ ผ้าซิ่นทิวมุก ผ้าซิ่นทอลายขวางของเจ้านายเมืองอุบลฯ แต่สำหรับในละครเรื่องกลิ่นกาสะลองจะเป็นผ้าซิ่นล้านนาที่นิยมในภาคเหนือของไทย ซึ่งผ้าซิ่นล้านนาแบบเด่น ๆ มีดังต่อไปนี้ค่ะ
- ผ้าซิ่นตีนจก

          “ตีนจก” มีต้นกำเนิดจากชาวไทยวน ชนกลุ่มใหญ่ที่ตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ลักษณะเป็นผ้าทอมือของชาวบ้านที่ทอขึ้นแล้วนำไปต่อเชิงผ้าถุง หรือที่ชาวภาคเหนือเรียกว่า “ซิ่น” ทำให้กลายเป็นผ้าซิ่นตีนจกที่มีเอกลักษณ์สวยงาม โดยคำว่า “ตีน” มาจาก ตีนซิ่น หมายถึง ส่วนปลายของผ้าถุง ส่วนคำว่า “จก” เป็นคำพื้นเมืองภาคเหนือ หมายถึง การล้วง เพราะการทอผ้าชนิดนี้จะต้องใช้ขนเม่นหรือไม้แหลม จกหรือล้วงเส้นด้ายสีต่าง ๆ ขึ้นบนและลงล่าง ให้เป็นลวดลายตามต้องการนั่นเองค่ะ ผ้าซิ่นตีนจกในภาคเหนือของประเทศไทยที่โด่งดังขึ้นชื่อที่สุด ได้แก่ ผ้าซิ่นตีนจกจากอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ และผ้าซิ่นตีนจกจากอำเภอลอง จังหวัดแพร่
 

          ส่วนผ้าซิ่นตีนจก ที่กาสะลองใส่ฟ้อนในวันงานปีใหม่เมือง เป็นผ้าซิ่นตีนจกไหมเงินไหมคำ ลายหงส์ดำ ซึ่งเป็นลวดลายพื้นถิ่นเวียงเชียงใหม่ ทอขึ้นตามต้นแบบผ้าโบราณอายุ 100-150 ปี ด้วยเส้นไหมเนื้อดี ทอจกด้วยเส้นไหมเงินไหมคำ ซึ่งทำยากมาก  นับเป็นงานหัตถศิลป์ที่ต้องใช้ระยะเวลาทอถึง 2-3 เดือนกว่าจะได้ออกมาหนึ่งผืนค่ะ

ภาพจาก : Instagram urassayas

- ผ้าซิ่นลุนตยาต่อตีนจกไหมคำ
          ผ้าซิ่นลุนตยาอะเชะ เป็นผ้าซิ่นจากประเทศพม่า ทอมือด้วยไหม ใช้กระสวยในการทอมากถึง 100 กระสวย มีลักษณะเด่นคือ มักทำเป็นลายเกลียวคลื่น สีสันสดใส เช่น สีชมพู สีเขียว สีฟ้า ซึ่งเจ้าดารารัศมี พระราชชายาในรัชกาลที่ 5 เจ้าหญิงแห่งเมืองเชียงใหม่ ทรงริเริ่มให้นำผ้าลุนตยาอะเชะมาต่อกับตีนจกไหมคำแบบเจ้านายราชวงศ์ทิพยจักรแห่งล้านนา เพื่อใช้สวมใส่ในราชสำนักฝ่ายใน กลายเป็นผ้าผืนงามที่เราเห็นซ้องปีบเลือกใช้แต่งกายในวันงานสำคัญอย่างวันปีใหม่เช่นกันค่ะ

ภาพจาก : ch3thailand.com, เฟซบุ๊ก ผ้าและสิ่งถักทอไท

- ผ้าซิ่นไหมคำ เชียงตุง
           ผ้าซิ่นไหมคำ มีต้นกำเนิดจากกลุ่มไทเขิน ในเมืองเชียงตุง รัฐฉาน ประเทศพม่า ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนางพญาผ้าซิ่น ในอดีตใช้สำหรับเจ้านางในราชสำนักไทเขิน ตัวซิ่นทอด้วยไหม สอดไหมทองคำ ส่วนเชิงประดับลวดลายบัวคว่ำบัวหงาย ด้วยงานปักมือทั้งหมด ต่อเชิงผ้ากำมะหยี่จีน อาจแซมด้วยเลื่อมดูหรูหรา สำหรับผ้าซิ่นไหมคำนี้จะคุ้นตาจากละคร “รอยไหม” กับ “รากนครา” นั่นเองค่ะ

ภาพจาก : ch3thailand.com

- ซิ่นเชียงแสน
          ซิ่นเชียงแสน มีต้นกำเนิดจากชาวไทยวนในเมืองเชียงแสนมาแต่เดิม มีลักษณะเป็นผ้าซิ่นฝ้ายลายขวาง สีพื้นหลักคือสีแดงเข้ม หรือสีคราม ลายขวางเป็นสีดำ คราม หรือขาว ทอด้วยเทคนิคธรรมดา มีการจัดโครงสร้างของลายขวางบนตัวซิ่นเป็นระยะที่แน่นอน และมีการใช้ด้ายควบเส้นสีขาวกับสีคราม ที่เรียกว่าการ “ปั่นไก” ทำให้ลายริ้วมีสีขาวประเป็นจุด ๆ ปัจจุบันเป็นผ้าซิ่นที่ใช้นุ่งในชีวิตประจำวันของชาวน่านค่ะ
- ผ้าซิ่นไทลื้อ

          ผ้าซิ่นไทลื้อ มีแหล่งกำเนิดจากชาวไทลื้อที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา และน่าน ผ้าซิ่นชนิดนี้ทอด้วยเทคนิคเกาะ มีลายประกอบทอด้วยเทคนิคขิด ทอด้วยผ้าฝ้ายเนื้อละเอียด สีที่นิยมคือ สีดำ แดง ขาว  ทอให้เกิดเป็นลายตารางสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ สลับกับลวดลายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนขนาดเล็ก สีสันสดใส เป็นการทอที่ยากลายใหญ่ซับซ้อน ราคาแพง

 

          รู้จักกับผ้าซิ่นแบบต่าง ๆ กันแล้ว โดยเฉพาะผ้าซิ่นล้านนา ผ้าซิ่นภาคเหนือที่ทั้งสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสาว ๆ สามารถเลือกนำมาแมตช์กับเสื้อผ้าฝ้ายแบบกาสะลองหรือเสื้อลูกไม้แบบซ้องปีบก็ได้นะคะ ถ้ายังเลือกไม่ถูก เราไปดูไอเดียจากภาพแฟชั่นผ้าซิ่นของกาสะลองและซ้องปีบกันต่อเลยค่ะ
 

ข้อมูลจาก : museumthailand.com, thaiunique.wordpress.com, เฟซบุ๊ก ผ้าและสิ่งถักทอไท

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ผ้าซิ่น แฟชั่นสมัยโบราณกับเอกลักษณ์ความงาม ที่สาวยุคไหนก็ใส่สวย อัปเดตล่าสุด 27 มิถุนายน 2562 เวลา 17:40:30 87,390 อ่าน
TOP
x close