เมือกหอยทาก เคล็ดลับความสวยจากธรรมชาติที่ช่วยสยบปัญหาผิวได้ทุกสรรพสิ่ง ยิ่งเป็นเมือกหอยทากของไทยด้วยแล้ว พูดเลยว่ามีดีไม่แพ้หอยทากสายพันธุ์อื่นแน่นอน
ช่วงหลายปีมานี้ จะเห็นได้ว่าคนหันมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเพื่อบำรุงผิวกันมากขึ้น และ “เมือกหอยทาก” ก็ถือเป็นสารสกัดจากธรรมชาติอันดับต้น ๆ ที่นิยมนำมาบำรุงความงามจนแพร่หลายไปทั่วโลก แต่ยังมีหลายคนสงสัย ว่าทำไมต้องใช้เมือกหอยทากมาฟื้นฟูผิวพรรณ แล้วเมือกใส ๆ จากหอยทากคืออะไร รวมถึงสารสำคัญอย่าง อัลแลนโทอิน (Allantoin) ที่มีอยู่ในเมือกหอยนั้นสำคัญอย่างไร วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปไขคำตอบแบบเจาะลึกกัน

เมือกหอยทาก ประโยชน์อันน่าอัศจรรย์
สำหรับใครที่สงสัยว่า หอยทากผลิตเมือกใส ๆ ไว้ทำอะไร ปกติแล้วหอยทากตัวเล็ก ๆ จะมีเปลือกแข็งบนหลังไว้ป้องกันภัย แต่ร่างภายใต้เปลือกนั้นกลับนุ่มนิ่มเสียจนบอบบาง เมื่อต้องคลานไปตามพื้นดินก็อาจเกิดแผลบอบช้ำง่าย ดังนั้นหอยทากจึงผลิตเมือกใส ๆ ขึ้นมา เวลาเคลื่อนตัวจะได้ลื่นไหลคล้ายกับมีพรมแดงปูทางให้เดินนั่นเอง ที่สำคัญถ้าเปลือกอันแข็งแรงของมันเกิดแตกเสียหาย หอยทากก็จะใช้เมือกส่วนแมนเทิล (Mantle) ซึ่งอยู่ถัดจากฝากระดองมาซ่อมแซมเปลือกให้กลับมาปกติดังเดิม นับว่านี่คือความมหัศจรรย์ของกลไกธรรมชาติอย่างแท้จริง เหตุนี้เองนักวิจัยจึงเล็งเห็นประโยชน์ข้อนั้น แล้วคิดว่าถ้าเอาเมือกหอยมาใช้บนผิวคนเราบ้างคงได้ผลลัพธ์ที่ดีไม่ต่างกัน

อัลแลนโทอิน สารบำรุงสำคัญที่อยู่ในเมือกหอยทาก

ประสิทธิภาพของหอยทากสายพันธุ์ไทย
บนโลกใบนี้มีหอยทากอยู่หลายสายพันธุ์ แต่หอยทากที่ชึ้นชื่อว่าให้เมือกซึ่งมีสารบำรุงผิวประสิทธิภาพสูงก็คือหอยทากสายพันธุ์ไทยนี่เอง เนื่องจากการอาศัยในเขตร้อนชื้นแบบนี้ เหล่าหอยทากจะต้องเผชิญกับเชื้อโรค เชื้อราหลากชนิด พวกมันจึงผลิตเมือกหอยเพื่อปกป้องและบำรุงผิวพรรณได้มากกว่าเขตอื่นของโลก และจากงานวิจัยของสยามสเนล ที่ทำการศึกษามาอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปี พบว่าเมือกหอยทากสายพันธุ์ไทยมีสารบำรุงมากกว่าเมือกอื่นถึง 30 เท่า ทำให้ฆ่าเชื้อที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกับยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ทำให้เกิดฝ้าได้ 30-40 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
เมือกโมเลกุลเล็กจากส่วน แมนเทิล
นอกจากสารบำรุงเข้มข้นแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีกอย่างคือ โมเลกุลและการซึมซาบของเมือกเมื่อทาลงผิว โดยเมือกส่วนแมนเทิลถัดจากฝากระดอง ถือว่าเป็นเมือกส่วนที่ดีที่สุด เพราะอุดมไปด้วยสารบำรุงอย่างเข้มข้น มีโมเลกุลขนาดเล็กซึมซาบเข้าผิวได้รวดเร็ว แต่ถ้าเป็นเมือกจากส่วนเท้า มีเพียงแค่ความหล่อลื่น โมเลกุลก็ใหญ่เกินกว่าจะซึมซาบลงผิว ทำให้เกิดสิวอุดตันได้ง่ายมาก หากเอามาใช้แบบหวังผลให้ผิวพรรณสวยขึ้นก็ควรเลือกใช้เมือกส่วนแมนเทิลจะดีกว่า
ผิวสวยสยบทุกสรรพสิ่งด้วย SNAIL8

จากประสิทธิภาพของเมือกหอยทากสายพันธุ์ไทยนี้เอง จึงมีการต่อยอดจนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว SNAIL8 ทั้งเซรั่มลดริ้วรอย SNAIL8 AGE DEFENSE Advanced Serum, ครีมบำรุงผิวกลางวัน SNAIL8 AGE DEFENSE Skin Repair Daily Cream และครีมบำรุงผิวกลางคืน SNAIL8 AGE DEFENSE Ultimate Night Repair Cream คุณค่าแท้เมือกหอยทากที่คัดเฉพาะเมือกแมนเทิล เมื่อใช้แล้ว ผิวหน้าก็จะเต่งตึง เรียบเนียน ยืดหยุ่นและชุ่มชื้นมากขึ้น ฝ้า กระ จุดด่างดำที่เคยมีก็จางลง เพราะอุดมไปด้วยสารสกัดอัลแลนโทอิน ไฮยาลูโรนิก ไกลโคลิก เปปไทด์ และโปรตีน มีโมเลกุลขนาดเล็ก ซึมซาบง่าย ช่วยคืนความอ่อนวัยให้ผิวด้วย 8 คุณประโยชน์ ทั้งลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย, ฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรง, เผยผิวกระจ่างใส, ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น, เพิ่มความยืดหยุ่น, กระชับรูขุมขน, ต่อต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันการเกิดสิว ลดสิวอักเสบ เรียกได้ว่าผิวสวยเพอร์เฟกต์สมกับคอนเซ็ปต์ #ผิวสวยสยบทุกสรรพสิ่ง กันไปเลย

หากใครสนใจ อยากลองใช้ SNAIL8 ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากเมือกหอยทากสายพันธุ์ไทยที่คัดเฉพาะเมือกส่วนแมนเทิลดูบ้าง สามารถหาซื้อได้แล้วที่ Watsons, Shopee หรือที่เว็บไซต์ http://bit.ly/2RQ1o96 เท่านี้ผิวสวยใสอ่อนเยาว์ก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้วค่ะ #Snail8 #TheEssenceOfBeauty #ผิวสวยสยบทุกสรรพสิ่ง
ช่วงหลายปีมานี้ จะเห็นได้ว่าคนหันมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเพื่อบำรุงผิวกันมากขึ้น และ “เมือกหอยทาก” ก็ถือเป็นสารสกัดจากธรรมชาติอันดับต้น ๆ ที่นิยมนำมาบำรุงความงามจนแพร่หลายไปทั่วโลก แต่ยังมีหลายคนสงสัย ว่าทำไมต้องใช้เมือกหอยทากมาฟื้นฟูผิวพรรณ แล้วเมือกใส ๆ จากหอยทากคืออะไร รวมถึงสารสำคัญอย่าง อัลแลนโทอิน (Allantoin) ที่มีอยู่ในเมือกหอยนั้นสำคัญอย่างไร วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปไขคำตอบแบบเจาะลึกกัน

สำหรับใครที่สงสัยว่า หอยทากผลิตเมือกใส ๆ ไว้ทำอะไร ปกติแล้วหอยทากตัวเล็ก ๆ จะมีเปลือกแข็งบนหลังไว้ป้องกันภัย แต่ร่างภายใต้เปลือกนั้นกลับนุ่มนิ่มเสียจนบอบบาง เมื่อต้องคลานไปตามพื้นดินก็อาจเกิดแผลบอบช้ำง่าย ดังนั้นหอยทากจึงผลิตเมือกใส ๆ ขึ้นมา เวลาเคลื่อนตัวจะได้ลื่นไหลคล้ายกับมีพรมแดงปูทางให้เดินนั่นเอง ที่สำคัญถ้าเปลือกอันแข็งแรงของมันเกิดแตกเสียหาย หอยทากก็จะใช้เมือกส่วนแมนเทิล (Mantle) ซึ่งอยู่ถัดจากฝากระดองมาซ่อมแซมเปลือกให้กลับมาปกติดังเดิม นับว่านี่คือความมหัศจรรย์ของกลไกธรรมชาติอย่างแท้จริง เหตุนี้เองนักวิจัยจึงเล็งเห็นประโยชน์ข้อนั้น แล้วคิดว่าถ้าเอาเมือกหอยมาใช้บนผิวคนเราบ้างคงได้ผลลัพธ์ที่ดีไม่ต่างกัน

เมือกหอยทากมีสารบำรุงอยู่หลายชนิดที่สำคัญกับการฟื้นฟูผิวพรรณ โดยเฉพาะสารสกัดสำคัญอย่าง อัลแลนโทอิน ที่ช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ต่อต้านอาการผิวแพ้ง่ายและช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้แข็งแรง ซึ่งสารนี้มักพบในพืชพรรณหลายชนิด เช่น ดอกคาโมไมล์, ต้นอ่อนข้าวสาลี รวมไปถึงต้นคอมเฟรย์ (Comfrey) นอกจากนี้ก็ยังพบในเมือกหอยทากได้เช่นกัน และด้วยคุณสมบัติดี ๆ นี้เมื่อนำมาผสมลงครีมหรือเซรั่มเพื่อความงาม ก็จะช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวเสื่อมสภาพและเร่งการผลิตเซลล์ผิวใหม่ ริ้วรอยดูจางลง ต้านการอักเสบและลดการระคายเคืองได้ดี ผิวหน้าเลยดูอ่อนเยาว์ลงอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้เมือกหอยทากยังประกอบไปด้วย กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic acid) ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้มากกว่าปกติ ผิวจึงดูเต่งตึง เรียบเนียน รูขุมขนกระชับขึ้น รวมไปถึง กรดไกลโคลิก (Glycolic acid) ก็ขึ้นชื่อเรื่องการรักษาสิวกับจุดด่างดำให้จางหาย ยังไม่พอ โปรตีน (Protein) กับ เปปไทด์ (Peptides) ที่อยู่ในเมือกหอยทากยังช่วยลดการติดเชื้อจากเชื้อรา พร้อมทั้งเติมเต็มร่องลึกให้ตื้นขึ้น เรียกได้ว่าถ้าอยากบำรุงผิวให้สวยครบก็จบที่เมือกหอยทากเท่านั้นพอ

บนโลกใบนี้มีหอยทากอยู่หลายสายพันธุ์ แต่หอยทากที่ชึ้นชื่อว่าให้เมือกซึ่งมีสารบำรุงผิวประสิทธิภาพสูงก็คือหอยทากสายพันธุ์ไทยนี่เอง เนื่องจากการอาศัยในเขตร้อนชื้นแบบนี้ เหล่าหอยทากจะต้องเผชิญกับเชื้อโรค เชื้อราหลากชนิด พวกมันจึงผลิตเมือกหอยเพื่อปกป้องและบำรุงผิวพรรณได้มากกว่าเขตอื่นของโลก และจากงานวิจัยของสยามสเนล ที่ทำการศึกษามาอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปี พบว่าเมือกหอยทากสายพันธุ์ไทยมีสารบำรุงมากกว่าเมือกอื่นถึง 30 เท่า ทำให้ฆ่าเชื้อที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกับยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ทำให้เกิดฝ้าได้ 30-40 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
เมือกโมเลกุลเล็กจากส่วน แมนเทิล
นอกจากสารบำรุงเข้มข้นแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีกอย่างคือ โมเลกุลและการซึมซาบของเมือกเมื่อทาลงผิว โดยเมือกส่วนแมนเทิลถัดจากฝากระดอง ถือว่าเป็นเมือกส่วนที่ดีที่สุด เพราะอุดมไปด้วยสารบำรุงอย่างเข้มข้น มีโมเลกุลขนาดเล็กซึมซาบเข้าผิวได้รวดเร็ว แต่ถ้าเป็นเมือกจากส่วนเท้า มีเพียงแค่ความหล่อลื่น โมเลกุลก็ใหญ่เกินกว่าจะซึมซาบลงผิว ทำให้เกิดสิวอุดตันได้ง่ายมาก หากเอามาใช้แบบหวังผลให้ผิวพรรณสวยขึ้นก็ควรเลือกใช้เมือกส่วนแมนเทิลจะดีกว่า
ผิวสวยสยบทุกสรรพสิ่งด้วย SNAIL8








