ถือเป็นรุ่นน้องคนสนิทอีกคนของสาว ออฟฟี่ แม็กซิม สำหรับเน็ตไอดอล นารา เครปกะเทย และล่าสุด (3 กรกฎาคม 2562) ได้ออกมาแฉออฟฟี่เช่นกัน ผ่านครอบครัวบันเทิงออนไลน์ ถึงแม้จะรั้งท้ายชาวบ้าน แต่ก็มีทีเด็ด ยอมรับว่าที่ออกมาพูดช้า เพราะก่อนหน้านี้เห็นใจออฟฟี่ รักเหมือนแม่คนหนึ่ง ช่วงที่เริ่มมีข่าวตนยังได้ส่งกำลังใจไปให้ออฟฟี่และบอกว่าตนจะไม่ออกมาไลฟ์แฉอะไรแบบนี้แน่นอน
กระทั่งเพื่อนสนิทในแวดวงเน็ตไอดอลอย่าง ขนเพชร ออกมาไลฟ์แฉ ตนจึงไปเปิดใจพูดคุยกันจนได้รู้ความจริงหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งครั้งหนึ่งตนกับขนเพชรเคยทะเลาะกันแรงมาก ไม่คุยกันเลย ตนจึงถามให้รู้เรื่องว่าสรุปครั้งนั้นที่ทะเลาะกันเรื่องอะไร ขนเพชรบอกว่า ออฟฟี่มาบอกว่านาราไม่ชอบขนเพชร ซึ่งออฟฟี่ก็บอกตนเหมือนกันว่าขนเพชรไม่ชอบตน เพิ่งรู้ว่าเขาปั่นให้เพื่อนแตกแยกกัน
โดยครั้งหนึ่ง ตนเคยไปขอให้เขามาถ่ายทำร้านเครปของตน เขาก็มาวันนั้นตนเต็มที่มาก ร้านเละพังไปหมด ต่อมาออฟฟี่ชวนให้ตนไปถ่ายคลิปที่บ้านของเขา แล้วบอกตนว่า แม่จะเหมาหนูนะ ถ่าย 10 คลิป 30,000 บาท แต่พอถ่ายไปได้ประมาณ 7-8 คลิป ตนเหนื่อยมาก แต่ออฟฟี่คงกลัวตนจะออก เลยโอนเงินมาให้ล่วงหน้า 20-30 คลิป ตนก็เลยทำต่อเพราะรักเขาด้วย
สุดท้ายตนมารู้ว่าออฟฟี่เก็บเจ้าของแบรนด์ 10,000 บาท แต่ให้ตนแค่ 3,000 บาทมาตลอด ความจริงให้สัก 5,000 ก็คงไม่น่าเกลียด เพราะตนต้องออกค่ารถ ค่าแท็กซี่ตนก็ออกเองตลอด อย่างตอนไปถ่ายที่ทะเล แค่ค่ารถตนก็หมดไป 2,000 แล้ว เท่ากับคลิปนั้นตนได้ค่าตัวแค่ 1,000 บาท ทำให้ตนรู้สึกนอยด์มาก อย่างตอนไปถ่ายที่ระนอง ตนออกค่าเครื่องบินไปเอง ไป-กลับ 6,000 บาท
พร้อมฝากข้อความไปถึงออฟฟี่ ระบุว่า "หนูเสียใจจริง ๆ ที่แม่ทำกับหนูอย่างนี้ ทุกอย่างที่ทำให้ ทุกคลิปที่หนูถ่ายทุ่มเทตลอด ค่ารถค่าอะไรก็ออกเองตลอด แม่เคยบอกว่าถ้ามึงใส่ใจกู กูก็จะใส่ใจมึง แต่แม่ไม่เคยใส่ใจหนูเลย และถ้าที่หนูออกมาพูดทำให้แม่ไม่พอใจก็ต้องขอโทษด้วย แต่อยากออกมาพูดความรู้สึกของหนู และไม่อยากให้ไปทำแบบนี้กับใครอีก ไม่ว่าจะเป็นคนระดับไหนก็ตาม"
ส่วนเรื่องตนกับหนูรัตน์ ตนถูกด่าเยอะเหมือนกัน ที่ผ่านมาหนูรัตน์ชอบไลฟ์ขายของ ตนก็ช่วยซื้อตลอด ตนรู้มาว่าหนูรัตน์ชอบไปซื้อของเซเว่นมาขาย ทั้งที่ไม่ได้กำไร ตนก็สงสารช่วยซื้อทุกอย่าง แล้วก็ชอบคอมเมนต์แซวในไลฟ์ จนวันนั้นที่หนูรัตน์ร้องไห้กลางไลฟ์ ตนก็ไปแซวเหมือนทุกครั้งที่ชอบแซวเล่น แต่เขาร้องไห้แล้วบอกว่าไม่ชอบให้ใครมาล้อ และกลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะแฮชแท็ก #savenoorat ตนก็ยอมรับผิดและขอโทษหนูรัตน์ไปแล้ว หลังจากนี้ก็จะไม่แกล้งหรือบูลลี่ใครแล้ว
ครอบครัวบันเทิงออนไลน์