การแข่งขันในรายการ 10 Fight 10 สัปดาห์นี้ (22 กรกฎาคม 2562) ดุเดือดมากทีเดียว สำหรับคู่ที่ 7 การปะทะกันระหว่าง ดิว ภัทรพล Team Black VS แอนด์ดรูว์ กรเศก Team White ต่างฝ่ายแลกหมัดกันแบบไม่มียั้ง กองเชียร์ลุ้นกันอย่างสนุกสนาน กระทั่งยกที่ 3 ดิว เป็นฝ่ายเสียเปรียบเนื่องจากเจอหมัดหนัก ๆ ไปหลายครั้ง ร่างกายก็เริ่มหมดแรงอย่างเห็นได้ชัด จนถูกนับถึง 8 ขณะที่เจ้าตัวหมดแรง กรรมการจึงได้สั่งยุติการแข่งขัน ทำให้แอนด์ดรูว์เป็นฝ่ายชนะน็อกไป หลังจากนั้น ดิว ก็มีอาการวูบและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที
อ่านข่าว : 10 Fight 10 คู่ 7 เดือดจัด !! ดิว ภัทรพล วูบหลังแพ้น็อก ถูกหามส่ง รพ.
ทั้งนี้ มีการคาดเดาว่าสาเหตุน่าจะเป็นเพราะ ดิว หักโหมลดน้ำหนัก 15 กิโลกรัม ใน 3 เดือน เพื่อให้อยู่ในเกณฑ์ของการแข่งขัน จนทำให้ร่างกายรับไม่ไหว กระทั่งล่าสุด (23 กรกฎาคม 2562) ดิว ภัทรพล ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Pattarapol Kantapoj อัปเดตอาการหลังเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล พร้อมขอโทษทุกคนที่ผิดหวังและขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ ระบุว่า กราบขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องผิดหวังนะครับ ตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อาการคือร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่ เลือดเป็นกรดสูง ไตทำงานหนัก
สืบเนื่องจากการลดน้ำหนักจำนวนมาก ในระยะเวลาอันสั้นคือ 42 วัน ลดลงไป 15 กิโลกรัม เพื่อทำน้ำหนักให้ได้ตามพิกัดที่ตกลงกันไว้ 75 กิโลกรัม ก่อนชกตนได้ตัดอาหาร ตัดน้ำ อมแค่น้ำแข็งเพื่อดับความกระหายน้ำ ตื่นเช้าวิ่งรีดเหงื่อให้ออกมากที่สุด เพื่อที่จะให้น้ำหนักลดลงเหลือ 80 กิโลกรัม จะได้โดนตัดคะแนนน้ำหนักเกินแค่ 1 คะแนนพอ ส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำ ขาดเกลือแร่ ทำให้ตนเหนื่อยล้าง่ายกว่าปกติมาก
อีกเรื่องที่อาจไม่มีใครรู้เยอะ คือตนสายตาสั้นราว 400 ต้องใส่คอนแทคเลนส์เกือบตลอดเวลา ในการขึ้นชกได้ปรึกษาโค้ชอองตวนว่าควรใส่หรือถอดดี เนื่องจากทุกครั้งที่ซ้อมเวลาโดนชกจัง ๆ มันมักจะหลุดเสมอและทำให้เสียสมาธิในการชก เพราะมองไม่ชัดเจน สุดท้ายจึงตัดสินใจใส่คอนแทคเลนส์ขึ้นชก เพราะไม่อยากกังวลเรื่องมองเห็นไม่ชัดเจน จนช่วงยกที่ 2 ตนโดนหมัดขวาเข้าที่ตาข้างซ้าย ทำให้คอนแทคเลนส์หลุดออกมา แอนด์ดรูว์เห็น เขามองตามและหยุดเข้าชก ทั้งที่เขาสามารถเข้ามาต่อยซ้ำก็ได้ แต่แอนด์ดรูว์ไม่ทำ และชกประคองกันจนหมดยกที่ 2 ด้วยความเหนื่อยทั้งคู่ แล้วตนก็เข้ามุมไปใส่คอนแทคเลนส์อันใหม่
ยกที่ 3 ตนตั้งใจบุกเต็มที่เพื่อทำคะแนนให้มากที่สุด แต่ด้วยร่างกายเริ่มเหนื่อยล้าจึงขาดสติ ไม่คำนวณแรงตัวเองดี ๆ จึงเดินเข้าใส่แอนด์ดรูว์พยายามชกให้เข้าเป้าให้มากที่สุด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือตนเริ่มรู้สึกหมดแรง หน้ามืด ภาพเริ่มมืดลงเรื่อย ๆ จนกรรมการเห็นอาการไม่ดีต้องเข้ามานับ ตอนนั้นในใจยังไหว อยากชกต่อให้เสร็จ แต่ด้วยอาการที่กรรมการเห็น จึงต้องยุติการชกในที่สุด ตนรู้สึกเสียดายมาก และหลังจากนั้นภาพมืดลงกว่าเดิม มีอาการปวดตามขา ไล่ขึ้นมาจนถึงลำตัว และแขนมาก ๆ มากแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต จนปวดทั้งตัวทรมานจนไม่สามารถยืนต่อไปได้ รู้ตัวอีกทีก็อยู่บนเปลขึ้นรถพยาบาลแล้ว
ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนจะขาดใจตาย ไม่สามารถดมแอมโมเนียหรือออกซิเจนได้เลย ตนดึงมันออกทุกอย่าง ตัวเกร็ง ตะคริวไปทั่ว หายใจถี่ หัวใจเต้นมากกว่า 180-190 ครั้งต่อนาที ซึ่งพร้อมช็อกตลอดเวลา ตอนนั้นตนคิดว่าได้เข้าใกล้ความตายมากที่สุดในชีวิต แต่พอถึงโรงพยาบาลอาการก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ เจาะเลือดไปตรวจ คุณหมอบอกว่าเลือดเป็นกรดสูง ร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่ ไตทำงานหนักเกินไป ต้องแอดมิตเพื่อดูอาการ 1 คืน
นอกจากนี้ ดิว ภัทรพล ยังได้ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงและให้กำลังใจ พร้อมเผยผลการตรวจสรุปว่า ไตวายเฉียบพลัน ร่างกายขาดน้ำมาก ขาดเกลือแร่ จนทำให้เป็นตะคริวตามส่วนต่าง ๆ ตอนนี้คุณหมอให้ยา และน้ำเกลือ อาการดีขึ้นตามลำดับ มีอาการไอ หลอดลมตีบแทรกซ้อนแต่ไม่น่าห่วงอะไรมากนัก อาการตะคริวหายไปแล้ว ความดันยังสูงอยู่ ใจสั่นเล็กน้อยอาจเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่หมอให้มา ตอนนี้อาการก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ น่าจะกลับบ้านได้เร็ว ๆ นี้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Pattarapol Kantapoj
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก Pattarapol Kantapoj