อรอนงค์ เปิดใจ เล่าเหตุหย่าสามี รับเคยเจอสาวมือที่สาม แต่ไม่ยุ่ง ชี้มันอยู่ที่จิตสำนึก

         อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ เปิดใจ หย่าสามีเพราะมือที่สาม เผยตั้งแต่เป็นแฟนกันมา 26 ปี ไม่เคยทะเลาะกันเลย โทษตัวเองอาจผิดที่บกพร่อง แต่ไม่เคยไปยุ่งกับสาวมือที่สาม ชี้อยู่ที่จิตสำนึก

รายการ คุยแซ่บShow

        เรียกว่าช็อกไปตาม ๆ กัน หลังอดีตนางสาวไทย อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความพร้อมภาพใบหย่าจบชีวิตคู่กว่า 20 ปี โดยเผยปมสาเหตุชัดเจนว่ามาจากมือที่สาม ล่าสุดออกมาเปิดใจในรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ หนิง ปณิตา และ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกร  

สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?

        อร : จริง ๆ พี่อรเป็นคนที่ชัดเจนมากมาตั้งแต่เริ่มต้นที่เราอยู่วงการบันเทิงมาว่าเราคบใคร เริ่มต้นรู้กันหมดว่าเป็นผู้ชายคนเดียวที่เป็นแฟนเรา มีการแต่งงานที่ออกสื่อ ลงหน้าหนึ่งมาทุกฉบับ ในเมื่อเราตัดสินใจแบบนี้มันก็ต้องสร้างความชัดเจนให้กับตัวเราและอดีตสามี คนทุกคนในสังคมที่เห็นเราอยู่เบื้องหน้าว่าเราแยกกันอยู่ หย่ากันแล้ว แต่ก่อนที่จะตัดสินใจมาโพสต์แบบนี้ก็มีการตรึกตรองได้คิดทบทวนมาสักระยะหนึ่งแล้ว พอเริ่มรู้ในปีแรกก็อาจจะมีร้องไห้ มีทำใจพอสมควรในหนึ่งปีแรก เพราะเราไม่คาดคิดว่าจะเกิดอย่างนี้ แต่พอปีที่สอง ปีที่สาม คิดว่าเขาอาจจะปรับจูน เปลี่ยนแปลง แล้วก็อาจจะกลับมาเหมือนเดิม แต่มันไม่มีวี่แววที่จะเป็นแบบนั้นเลย ก็เลยแยกกันอยู่ แต่ก็ยังคุยกันเรื่องลูกตามปกติ พี่อรอยากให้ชัดเจนว่าจะเอายังไง

คือที่มาของการโพสต์ลงอินสตาแกรมใบหย่านั้นเลย ?

        อร : ค่ะ พี่ก็ไม่อยากมาแบบว่าอยู่ด้วยกันไม่ได้ ทัศนคติไม่ตรงกัน ลูกโตป่านนี้แล้วคงไม่ใช่ทัศนคติไม่ตรงกัน มันเป็นเรื่องทำใจพอสมควร ทำใจว่ามันจะเกิดผลกระทบอะไรกันบ้าง

แสดงว่าก่อนออกมาแถลงข่าวพี่อรได้มีการปรึกษากับทางครอบครัวและอดีตสามีแล้ว ? 

        อร : คุยกันแล้วค่ะ ว่าถ้าหากมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นคุณโอเคนะว่าคุณเป็นคนผิด เพราะอะไรที่เราต้องหย่ากัน เขาก็ยอมรับว่าเขาผิด เขาก็บอกว่าน้องอรไม่มีอะไรผิด พี่ขอโทษ

ได้ปรึกษาลูก ๆ ไหม ?

        อร : ก็ได้คุยกับลูก ๆ สาเหตุเพราะอะไร คุณแม่ก็ยังรักลูก คุณพ่อก็ยังรักลูก เพียงแต่เราไม่ได้ทำหน้าที่สามีภรรยากัน แต่ก็ยังทำหน้าที่ของพ่อแม่

ยังเจอกันอยู่บ่อย ๆ ?

        อร : ยังเจอกันอยู่ ก็คุยกันตามปกติ ตั้งแต่เป็นแฟนกันมา 26 ปี ไม่เคยทะเลาะกัน

คนเห็นภาพครอบครัวอบอุ่นและรักกันมาตลอด มันเกิดอะไรขึ้น ?

        อร : อาจจะเป็นเพราะว่าพอเรารู้ข่าวตั้งแต่ตอนช่วงแรก ๆ แล้วเรามีความรู้สึกว่า ในเมื่อเขามีใจให้กับคนอื่น เราก็อาจจะรับตรงนั้นไม่ได้ เราก็เลยให้ไปเคลียร์ตัวเองก่อน มันก็อาจจะห่างกัน แล้วช่วงที่ห่างกันมันก็ทำให้เขาห่างไปด้วย เวลาล่วงเลยมามันเลยจูนหากันไม่ได้ พี่อรเป็นคนที่ยอมรับความคิดว่าในเมื่อเขาคิดว่าเขาเป็นแบบนี้แล้ว เขาไม่สามารถจะจูนหาเราได้ เราก็ให้เกียรติเขา คิดว่าในสิ่งที่เขาเลือกแล้วมีความสุขก็น่าจะเป็นแบบนั้น พี่อรก็เลือกว่าเราเลือกที่จะมีความสุขกับลูก กับงานที่ทำ พูดได้เต็มปากว่าเรามีความสุขกับชีวิตที่ก้าวไปข้างหน้า

ตอนแรกที่รู้ว่าเขามีอีกคนหนึ่งพี่รู้จากอะไร ? 

        อร : คือพี่อรไม่ใช่คบกันมานิดหน่อยแล้วแต่งงาน ระยะเวลามันเป็นเครื่องพิสูจน์อยู่แล้ว พอมันมีความรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนแปลงไป เช่น คุยโทรศัพท์นานขึ้น แยกไปคุยนาน มันมากกว่าคำว่าไปทำงาน พอเขาเริ่มมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปเราก็เริ่มจะจับจุดได้ ความใกล้ชิดแบบสามีภรรยามันจะต้องเป็นอีกแบบคือ คุยกัน กอดกัน หอมกัน หยอกล้อกัน ตรงนั้นมันขาดหายไป เราเลยมานั่งคุยกันว่ามันมีอะไรแปลก ๆ ไปมั้ย เราบอกกันตั้งแต่ตอนคบกันแล้วว่าถ้าคิดจะนอกใจหรือมีใครควรรู้ด้วยปากของคุณเองนะ ไม่ใช่คนอื่นมาบอก

พี่อรถาม แล้วคำตอบที่ได้ ?

        อร : เขาก็ตอบว่าขอโทษ มีจริง กว่าที่พี่จะรู้เขาก็อาจจะแอบคบกันนานแล้ว อันนี้เราก็ไม่รู้ เขาถึงยอมรับว่าเขามีคนใหม่
 
ตอนที่ถามในใจคิดไหมว่าอยากให้ตอบว่าไม่ ? 

        อร : ก็ยังคิดอยู่นะว่าไม่ เหมือนใกล้กัน สนิทกัน แต่พอเขาบอกมาอย่างงี้คืออึ้งและชา เดินหนีเลย

รายการ คุยแซ่บShow

ทำไมถึงโทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง ? 

        อร : คนสองคนที่อยู่กันมาเป็นเวลานานอาจจะมีข้อบกพร่อง ที่บางครั้งเราเองอาจจะมองข้าม เราอาจจะมองผ่านแต่เขาอาจจะไม่มองผ่าน พอมีอะไรเข้ามากระทบเขา เขาอาจจะไขว้เขวได้ง่าย ด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นเล็กน้อย เราเลยคิดว่าทุก ๆ ปัญหาที่เกิดขึ้น มันมีความบกพร่องที่เกิดขึ้นจากตัวเราเองด้วย

เรื่องบนเตียงมีส่วนสำคัญไหม ?

        อร : พี่ก็ไม่รู้ช่วงก่อนหน้านั้นมันจะเป็นยังไง แต่ว่าก็โอเค แต่พอเรามีลูกแล้ว ผู้หญิงทุกคนจะโฟกัสไปที่ลูก การดูแลเอาใจใส่ลูก อาจจะละเลยหรือมองข้ามในจุดนี้ ซึ่งผู้หญิงทุกคนคิดว่าสามีเข้าใจ แต่เราไม่รู้ว่าเขาอาจะมีอะไรกดดันหรือมีสิ่งเร้าข้างนอก ที่เขาอาจจะต้านทานไม่อยู่ก็ได้ ต้องขออนุญาตใช้คำของพี่เปิ้ล นาคร ก็แล้วกัน มันก็คือความเข้มแข็งของใจผู้ชาย ไม่รู้ว่าเขาจะเข้มแข็งได้มากน้อยเท่าไหน แต่ความเข้มแข็งของผู้หญิงก็คือแม่ของลูก ต้องเข้มแข็งให้มากกว่าผู้ชายด้วย เพราะเรายังต้องพาชีวิตของลูกขึ้นไปอีก เราก็คิดว่าเราก็มีส่วนผิดแหละ อาจจะบกพร่องส่วนใดส่วนหนึ่ง

พี่นอนร้องได้ทุกคืนคนเดียว ?

        อร : นอนร้องไห้ทุกคืนคนเดียว จนเริ่มคิดได้ว่าทำไมเราต้องมาทนร้องไห้คนเดียว ด้วยความที่ครอบครัวเราเป็นครอบครัวพุทธศาสนิกชน เราอินกับธรรมะมาก เรารู้ว่าตัวเราเองมีเทวดาคุ้มครอง ถ้าเรามัวแต่ร้องไห้เสียใจ เทวดาที่คอยคุ้มครองเราอยากจะให้ชีวิตเราดีขึ้นเขาอาจจะเสียใจกับเราด้วย อาจจะไม่มีความสุขกับการดูแลชีวิตตัวเองและชีวิตลูกด้วย พอคิดได้แบบนี้ก็รู้ว่าไม่จากเป็นก็จากตาย จากเป็นตอนนี้แล้วจากกันด้วยความเข้าใจกัน เราก็จะยังมีชีวิตที่ดีขึ้น เราไม่ต้องไปทนทุกข์ว่าเขาจะเป็นยังไงบ้าง อดีตสามีเขาจะไปแต่งงานใหม่กับใคร อันนี้คือชีวิตของเขาแล้ว ชีวิตของพี่อรตอนนี้คือลูกและตัวเราเอง

จุดนี้คือพี่ให้อภัย อโหสิกรรมกับอดีตสามีเรียบร้อยแล้ว ?

        อร : ใช่ คนเรามันหมดบุญหมดกรรมด้วยกันแล้วในชาตินี้ ไม่ต้องไปต่อกันอีกในชาติหน้า ก็อยากให้มันจบดี ๆ แบบนี้ดีกว่า แล้วเราก็เป็นพ่อและแม่ที่ดี

อีกฝั่งหนึ่งพี่เคยเจอไหม ? 

        อร : ก็เคยเจอ แต่พี่ไม่ไปยุ่ง ไม่ไปก้าวก่ายเลย พี่ไม่ได้ไปพูดว่าอย่ามายุ่งกับสามีฉันนะ มันอยู่ที่จิตใต้สำนึกของแต่ละคนมากกว่า

พี่มีอะไรที่อยากจะบอกกับผู้หญิงที่เป็นมือที่สามคนนั้นไหม ?

        อร : พี่ว่าฝากถึงคนที่คิดว่าจะเป็นมือที่สามดีกว่า ว่าให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา
 
ลูกได้เห็นข่าวหรือยัง ? 

        อร : ลูกเห็นนะ แล้วลูกก็ถามว่าแม่ร้องไห้เหรอ เราก็บอกว่าร้องไห้เพราะคิดถึงลูก

สุดท้ายแล้วอยากจะบอกอะไรกับอดีตสามี ?

        อร : อยากจะบอกว่าในเมื่อเราเลือกเส้นทางนี้แล้ว ก็อยากให้เขามีความสุขในการเลือกเส้นทางนี้ ขอให้ทำหน้าที่คุณพ่อที่ดีต่อไป ที่ผ่านมาก็ต้องขอบคุณเขาที่ทำให้เรามีลูกที่น่ารัก 2 คน

        ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.35-14.35 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama
 

รายการ คุยแซ่บShow

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อรอนงค์ เปิดใจ เล่าเหตุหย่าสามี รับเคยเจอสาวมือที่สาม แต่ไม่ยุ่ง ชี้มันอยู่ที่จิตสำนึก อัปเดตล่าสุด 24 กรกฎาคม 2562 เวลา 15:03:17 23,272 อ่าน
TOP
x close