อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็ว ๆ นี้ สาวต่ายก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า ในความสัมพันธ์ครั้งนี้ ตนเป็นฝ่ายเลือกให้มันจบลงเอง เพราะในมุมมองของตนนั้นคิดว่า เขาอาจจะเห็นว่าตนมีความบกพร่องในการทำหน้าที่ภรรยา ความเป็นแม่ที่อาจจะไม่เป็นไปตามเป้า ส่วนเงินค่าเลี้ยงดู ตนก็ใช้ไปกับเรื่องลูกทั้งหมด (อ่านข่าว : ต่าย ชุติมา ลั่นไม่ได้เอาลูกเพื่อเรียกเงินจาก ทิม พิธา - หวั่นลูกโตเป็นคนสองบุคลิก)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2562 สาวต่ายได้เปิดใจเกี่ยวกับความอัดอั้นตันใจในชีวิตคู่ กับทางรายการ Club Friday ทางช่อง GMM25 โดยเจ้าตัวเผยว่า สามีห้ามไม่ให้กลับบ้านหลัง 18.00 น. หากมีธุระอะไร ก็ให้ไปทำให้เสร็จตั้งแต่ตอนกลางวัน ถ้าเป็นธุระที่ต้องออกไปทำในตอนกลางคืน ก็จะไม่อนุญาตให้ออกไป ส่วนเหตุผลที่ทำแบบนี้ เป็นเพราะสามีบอกว่า ตอนนี้สถานะเป็นภรรยาแล้ว ไม่ได้เป็นแฟน แต่ในมุมมองของตน การเป็นแฟนกันกับสามีภรรยากัน มันไม่ต่าง เพราะเราก็ยังเป็นคนเดิม แต่สำหรับฝั่งโน้นจะมองว่าแตกต่าง เพราะก็ต้องมีการสร้างข้อตกลงอะไรกันด้วย
มันก็เลยรู้สึกเหมือนกับว่า "อ้าว ทำไมตอนเป็นแฟน ไม่เห็นแบบนี้ แต่พอตอนนี้ กลับมีเพิ่มขึ้นมา" อย่างตอนเป็นแฟนกัน ตนกลับบ้าน 22.00 น. บ้าง ก็ไม่ได้ว่าอะไร ตนก็คิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ สามารถทำได้ แต่มาแต่งปุ๊บ กลายเป็นว่าห้ามกลับบ้านหลัง 18.00 น. แต่ตนก็เคารพในกติกาของเขา
หลังจากชีวิตคู่ผ่านไปประมาณ 1 ปี ตนก็ได้จับเข่าคุยกับสามี ตกลงกันใหม่ และขอเวลาออกนอกบ้าน 20.00 น. สัปดาห์ละ 1 วัน ได้ไหม เพราะตนไม่ได้เจอเพื่อน ๆ เลย ซึ่งส่วนใหญ่เพื่อนทำงานออฟฟิศ จะนัดเจอช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ก็ไม่ได้อีก สามีห้ามนัดเจอใคร เพราะเป็นวันของครอบครัว แต่สามีเองก็ไม่ได้เถลไถล เลิกงานแล้วก็กลับบ้านเลยเหมือนกัน
สาวต่าย กล่าวว่า นับเวลา 10 ปี ตั้งแต่คบกันมา จนจบความสัมพันธ์ มันไม่มีการเที่ยว ไม่มีออกไปปาร์ตี้ เวลานัดกินข้าวกับเพื่อน ก็จะพยายามนัดในช่วงเวลาที่ไปได้ ถ้านัดหลังจากนั้น ตนก็ปฏิเสธไม่ไป และเพื่อน ๆ ก็เคยมาเล่าให้ตนฟังว่า เคยรู้ตัวไหมว่าเวลาไปกินข้าว ตนมีท่าทางรีบมาก พอใกล้ 18.00 น. ก็จะต้องรีบขอตัวกลับทันที แต่ ณ ตอนนั้น ตนก็รู้สึกว่าตนเลือกแล้ว คนนี้ต้องสำคัญที่สุด อย่างอื่นก็เป็นเรื่องรอง
สำหรับคำถามที่ว่าอึดอัดไหมที่ต้องมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่เคยทำงานหาเงินด้วยตัวเองมาก่อน ต่าย ชุติมา ยอมรับว่า สามีก็ได้ให้เงินเดือนใช้ และคาดหวังให้ตนเป็นแม่บ้านที่แท้จริง อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน รวมทั้งไปเรียนทำอาหาร ซึ่งตนก็ทำ เพราะก็ชอบด้วยส่วนหนึ่ง ยอมรับว่ากังวลเรื่องนี้เหมือนกัน เพราะแม่ก็ปลูกฝังตนมาโดยตลอดว่าผู้หญิงต้องทำงานด้วย
ตนก็เลยมองหาช่องทางทำงาน ที่สามารถทำได้ที่บ้าน เช่น ลองขายกระเป๋าแบรนด์เนมทางออนไลน์ อะไรที่ไม่ต้องอยู่เฉย ๆ เพราะตนก็อยากตอบแทนบุญคุณคุณพ่อคุณแม่ด้วย ไม่ใช่ว่าลูกสาวแต่งงานออกไปแล้วก็หายไปเลย