ตัวเต็งมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 เข้าสู่ช่วงบีบหัวใจ กับการลุ้นว่าสาวงามคนไหนจะคว้ามงฟ้าไปได้ จะมีคนที่คุณเชียร์อยู่ไหม ตามมาส่อง 10 ตัวเต็งจากเวที Miss Thailand World 2019 กันเลย
มิสไทยแลนด์เวิลด์ เวทีของสาวงามที่เก่าแก่ที่สุดในไทย มุ่งเฟ้นหาสาวงามผู้เพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตา และปฏิภาณไหวพริบอันดีเยี่ยม เปี่ยมด้วยคุณสมบัติ “งามอย่างมีคุณค่า” เพื่อก้าวสู่การชิงมงกุฎในเวทีระดับโลกอย่างมิสเวิลด์ ซึ่งครั้งนี้จะจัดขึ้น ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
สำหรับเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 ปีนี้มาในคอนเซ็ปต์ The Quest of the Crown ภารกิจพิชิตมงฟ้า โดยมีสาวงามจากทั่วประเทศเดินทางมาสมัครกว่า 80 คน ก่อนที่คณะกรรมการจะคัดเลือกอย่างเข้มข้นจนเหลือเพียง 24 สาวงามเท่านั้น ที่จะผ่านเข้าสู่การประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 รอบตัดสิน ในวันที่ 3 สิงหาคม 2562 ณ พาลาเดียม ฮอลล์ โรงแรม เดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ และในช่วงเวลาโค้งสุดท้ายเช่นนี้ กระปุกดอทคอมจึงขออาสาพาไปส่อง 10 ตัวเต็งมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 กัน ดูสิว่าสาวสวยคนไหนจะมาแรง โปรไฟล์ดี มีแววลุ้นมงบ้าง
1. เนิส ดุสิตา ทิพโกมุท
สาววัย 24 ปีคนนี้เป็นที่จับตามองอย่างมาก ไม่ว่ากองประกวดจะจัดรางวัลพิเศษ Miss Fashionista หรือรางวัลฟาสต์แทร็ก ความสามารถด้านทักษะกีฬา เธอก็ติดโผทั้งสองรางวัล ปัจจุบันเนิสเป็นครูสอนเด็กอนุบาล โรงเรียนอนุบาลดุสิต ซึ่งเป็นธุรกิจของที่บ้าน เรียกว่าตรงคอนเซ็ปต์นางงาม เพราะทั้งสวย เก่ง และรักเด็ก ชูไอเดียด้วยโครงการ “Music Reach Out” ใช้ดนตรีประกอบการศึกษา เพื่อพัฒนาความคิดและแก้ปัญหาทางจิตใจให้กับเด็กที่ถูกทอดทิ้ง นอกจากนี้ยังมีความสามารถรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นร้องเพลง เล่นกีตาร์ ไวโอลิน ขี่ม้า บาสเกตบอล ส่วนเรื่องภาษาก็เริด เพราะจบไฮสคูลมาจากอเมริกา
2. เกรซ ชวัลรัตน์ อังเกอร์
สาวสวยลูกครึ่งไทย-สวิส ที่จบคณะบริหารธุรกิจจาก Berkeley college นิวยอร์ก มีดีกรีเป็นถึงรองอันดับ 2 มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2012 ก่อนจะไปเตรียมความพร้อมที่ต่างประเทศนานถึง 5 ปี และกลับมาแก้มืออีกครั้งในการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 ซึ่งเธอก็ทำได้ไม่เลว เข้าไปถึงรอบ 10 คนสุดท้าย แต่เธอก็ไม่ยอมหมดหวัง มาสู้ต่อบนเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์อีกครั้ง ทำให้ตอนนี้กลายเป็นตัวเต็งที่แฟน ๆ นางงามต่างพากันเชียร์ให้เธอไปถึงฝั่งฝัน
3. เบสท์ วรวรรณ หวัง
ดูนามสกุลแล้วอาจคุ้นหู เพราะเธอคือน้องสาวแท้ ๆ ของเฟิร์ส หวัง Top 5 MUT 2019 ที่ขอส่งไม้ต่อให้น้องสาวมาล่ามงบ้าง แม้นี่จะเป็นการลงสนามประกวดนางงามครั้งแรกของเธอ แต่คุณสมบัติก็ไม่เป็นรองใคร ทั้งใบหน้าสวยเฉี่ยว หุ่นปังไม่แพ้พี่สาว ทักษะการเดินแบบสุดเริด บวกกับกิจกรรมอาสาต่าง ๆ ที่เธอเคยทำอยู่แล้ว ติดเรื่องเดียว คือ ภาษาอังกฤษที่ยังไม่ค่อยเป๊ะ ใครเป็นทีมเบสท์ หวัง ก็ต้องส่งใจเชียร์กันสุดแรงแล้วล่ะ
4. เกรซ นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ
สาวน้อยหน้าสวยที่กำลังศึกษาด้านจิตวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แม้จะลงเวทีประกวดนางงามเป็นครั้งแรก แต่ก็สร้างเสียงฮือฮา เพราะสกิลการตอบคำถามในรอบคัดเลือก 24 คนสุดท้ายนั้นไม่ธรรมดาเลย ด้วยบุคลิกที่ดี ทัศนคติเยี่ยม พูดได้ทั้งภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส ทั้งยังเคยเป็นนักจิตวิทยาการปรึกษา ทำให้เธอถูกยกให้เป็นตัวเต็งได้ไม่ยาก
5. แผ่นฟิล์ม พมลชนก ดิลกรัชตสกุล
สาวงามจากพิษณุโลก จบการศึกษาจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พูดได้ถึง 4 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น และรัสเซีย พ่วงด้วยดีกรีอดีตนางสาวถิ่นไทยงาม 2561 และผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้ายการประกวด Miss Global ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ด้านจิตอาสาก็ทำมาแล้วหลายโครงการ พกความสวยเฟียร์ซและจิตใจงดงามมาขนาดนี้ คงต้องจับตามองเธอให้ดีแล้วล่ะว่าจะคว้ามงไปได้หรือไม่
6. น้ำว้า พรนัชชา อารยะสัจพงษ์
อีกหนึ่งสาวที่ยังไม่เคยประกวดนางงามที่ไหนมาก่อน แต่ขอบอกว่าโปรไฟล์เริดอยู่ สาวหน้าสวยคนนี้กำลังศึกษาที่คณะนิเทศศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดีกรี Nitade Chula Ambassador 2018 พูดได้ 3 ภาษา ได้แก่ ไทย จีน และอังกฤษ เธอใช้เวลาเตรียมตัวถึง 3 ปี และในวันนี้ก็มาพร้อมความเชื่อมั่น และอยากเป็นแรงผลักดันให้เด็กไทยกล้าฝันและกล้าลงมือทำ มาเอาใจช่วยกันดีกว่าว่าสาวงามคนนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน
7. ลูกจันทร์ ศรัจจันทร์ พลอยบุศต์
นักแสดงและพิธีกรรายการบันเทิง ที่เรื่องความสวยนั้นเป๊ะทุกองศา การพูดจาก็ฉะฉาน มีความมั่นใจ เดินแบบดี จึงน่าจะก้าวไปสู่รอบลึก ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา ปัจจุบันเธอกำลังศึกษาคณะบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ทั้งยังเป็นผู้จัดตั้งโครงการ Love From The Moon ซึ่งได้ไปจัดกิจกรรมที่มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม รวมถึงโครงการ Jelder ทำการตลาดออนไลน์ ให้ผู้สูงอายุมีรายได้พิเศษ เรียกได้ว่าสวยเก่งครบเลยทีเดียว
8. พลอย ปรียาดา บัวสมบุญ
สาวสวยหน้าหวานคนนี้เป็นแพทย์ฝึกหัด เพิ่งรับปริญญาจากคณะแพทย์แผนจีนและฝังเข็ม มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ก่อนมาประกวดเพียง 1 วัน เรื่องภาษานั้นหายห่วง นอกจากภาษาไทย อังกฤษ ยังพูดจีนได้คล่องปรื๋อ ทั้งยังเคยลงประกวด Mistine brand ambassador of Shanghai 2562 จนคว้าตำแหน่งขวัญใจประชาชนมาได้ นอกจากนั้นยังมีความสามารถด้านรำไทย ร้องเพลง และเต้น รวมถึงเคยเป็นแพทย์จีนอาสาในชนบทมาแล้วด้วย
9. แพร จุฑามณี พาราสิงห์
สาวมากความสามารถและเป็นนักกิจกรรมตัวยง จบการศึกษาจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อัดแน่นด้วยประสบการณ์การประกวดทั้งติด Top 10 มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2016 และเคยเข้ารอบ 40 คนบนเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 มาแล้ว รวมถึงประกวด Miss motor show 2019 ซึ่งการมาประกวดครั้งนี้เธอบอกว่าไม่ได้หวังจะได้ตำแหน่ง แต่อยากใช้เวทีนี้ก้าวไปสู่การเป็นดารา ซึ่งเป็นสุดยอดความใฝ่ฝันของเธอ
10. ฝุ้น ปาลิน นารดาสิริ
แม้จะเข้ามาประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์แบบฟลุก ๆ เพราะเธอเป็นเด็กฝึกงานในกองประกวด แล้วพี่ ๆ ชักชวนให้ลงสมัคร แต่กลับกลายเป็นตัวเต็งที่น่าสนใจไม่น้อย ด้วยใบหน้าที่สวยหวานน่ารัก หน่วยก้านดี ดูมีคาแรกเตอร์ เมื่ออยู่ต่อหน้ากรรมการก็กล้าแสดงออกและมีความมั่นใจอีกด้วย จะว่าไป เธอก็มีดีกรีอันดับ 1 Yaris the presenter 2014 ดังนั้นเวทีนี้ก็มีแววน่าลุ้นอยู่ ต้องรอดูว่าโชคชะตาจะส่งให้เธอคว้ามงใหญ่ได้หรือไม่