ภาพจาก Instagram jangjit
หลังจากที่ครอบครัวของ แจ๊ส ชวนชื่น ผ่านพ้นเหตุการณ์ที่เป็นเหมือนฝันร้ายไปได้ ก็มีเรื่องราวดี ๆ เกิดขึ้น เมื่อแจ๊สและภรรยาได้เผยภาพบ้านหลังใหม่ที่สร้างขึ้นด้วยเงินจากหยาดเหงื่อแรงกาย ซึ่งกำลังจะเตรียมขนข้าวของย้ายเข้าไปอยู่ในเร็ว ๆ นี้ แต่ก็ถูกคนมองว่าการซื้อบ้านหลังใหม่นี้ดูจะเป็นการฟุ่มเฟือยเกินไปหรือเปล่า เพราะมีราคาสูงถึง 8 หลัก เลยทีเดียว
อ่านข่าว : แจ๊ส ชวนชื่น ทุ่มงบสิบล้าน สร้างบ้านหลังใหม่ อวดโฉมให้เห็นจากหยาดเหงื่อแรงกาย
ภาพจาก Instagram jazzpadung
ล่าสุด (9 สิงหาคม 2562) เดลินิวส์ออนไลน์ เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ แจ๊ส ชวนชื่น เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า บ้านหลังใหม่ มีห้องอัด ห้องดนตรี ที่พักผ่อน และออฟฟิศรวมกันอยู่ในนั้นหมด เป็นโฮมออฟฟิศ ซึ่งเป็นสิ่งสุดท้ายในชีวิตที่ตั้งใจปั่นให้ไวที่สุดด้วยกำลังในตอนนี้ แต่ก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์ว่าฟุ่มเฟือย ซึ่งตนไม่ได้ฟุ่มเฟือย อีกทั้งบ้านหลังนี้ก็เป็นออฟฟิศต่อยอด ไม่ได้เว่อร์วังอะไร
โดย แจ๊ส ชวนชื่น ยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีส่วนทำให้ตนอยากย้ายบ้าน ไม่อยากเห็นคนที่มาฆ่าคนในบ้านตน กลัวจะอดใจไม่ไหวแล้วพูดอะไรออกไป เสียสุขภาพจิต รู้สึกระแวงและรำคาญด้วย ซึ่งบ้านหลังนั้นแม่ของภรรยายังอยู่ และไม่ได้น่ากลัว มีตำรวจตรวจตลอด แต่เป็นเรื่องของสภาพจิตใจต่างหาก จึงอยากเอาลูกมาอยู่ที่บ้านหลังใหม่ ส่วนครอบครัวของผู้เสียชีวิตอยู่ในความดูแลของแม่ภรรยา และทางผู้ก่อเหตุหลังจากเข้ามอบตัว ก็ได้ฝากให้นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ดูแลรูปคดีไป
ภาพจาก Instagram jangjit
สำหรับเรื่องที่ภรรยาโพสต์ว่าโดนหลอกรับงาน เคยเจอแต่เคสที่มีป้ายหลอก แต่ศิลปินตัวจริงไม่ได้ไป ส่วนเคสที่เป็นงานใหญ่และขอสปอนเซอร์แบบนี้ไม่เคยเจอ ซึ่งตนก็งงว่าเขาทำได้อย่างไร ทำกับตนไม่เท่าไร เพราะยังมีงานเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง แต่ทำกับคนอื่นตนรู้สึกสงสาร
ทางภรรยาจึงโพสต์ออกไป คิดว่าอย่างน้อยก็เป็นประโยชน์กับคนอื่น หลายฝ่ายคงดำเนินคดีจับตัวคนทำได้ไม่ยาก ซึ่งหลังจากเกิดเคสนี้ ถ้าจะจ้างงานต้องขอมัดจำเงิน 50 เปอร์เซ็นต์ก่อน เพราะบางทีเจ้าภาพก็บอกรอหมุนเงินค่าบัตรก่อน ยังไม่มีจ่าย
ทั้งนี้ ตนขอแนะนำว่า ถ้ายังไม่พร้อม ไม่ต้องจัดงาน ไม่อย่างนั้นจะเสียหายไปหมด ศิลปินก็เสียโอกาสเพราะต้องยกเลิกงานอื่น ซึ่งแต่ละงานก็เป็นเงินทั้งนั้น
ภาพจาก Instagram jazzpadung
