เรียกได้ว่ามันครบรสจริง ๆ สำหรับรายการ 10 Fight 10 ต่อยจริง เจ็บจริง รายการโทรทัศน์รูปแบบใหม่ในแบบ Sport Entertainment ทางช่องเวิร์คพอยท์ ที่จับเอาซุปตาร์ดารา 10 คู่ 20 คน มายืนซดหมัดกันชนิดใครดีใครอยู่ ซึ่งก็เรียกได้ว่าสร้างความฮือฮาตั้งแต่คู่แรก ยันคู่สุดท้ายจริง ๆ
โดยซีซั่นแรกของ 10 Fight 10 ก็เพิ่งจบไปเมื่อวานนี้ (12 สิงหาคม 2562) ทีมงาน Kapook เลยไม่รอช้า ขออาสารวบรวมที่สุดของ "10 Fight 10" ให้แฟนมวย แฟนกีฬา แฟนดารา ได้มาติดตามกันว่า แต่ละคู่ที่ชกกัน จะมีคู่ไหนที่ครองความเป็นที่สุดได้ตรงใจกับผู้ชมหรือไม่ ว่าแล้วก็ไปติดตามกันได้เลย
“ที่สุดของความประทับใจ" คู่ที่ 1 บีม ศรัณยู VS เป้ อารักษ์
ในศึก 10 Fight 10 มีคู่ชกที่ถือได้ว่าเป็นคู่เพื่อนรัก คู่รุ่นพี่-รุ่นน้อง ที่สนิทกันหลายคู่ แต่ที่ถือได้ว่าเป็นคู่ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมมากที่สุด ไม่มีคู่ไหนเกินการชกกันระหว่าง บีม ศรัณยู กับ เป้ อารักษ์ ไปได้
ในยกแรก เป้ดูเหมือนจะเหนือกว่านิด ๆ ด้วยทรงมวยที่ดูดีกว่า เน้นดักจังหวะ 2 แต่พอมายก 2 บีมเหมือนรู้ตัวว่าเป็นรอง จึงเดินเร็วขึ้น และมีจังหวะหนึ่งต่อยเป้ลงไปให้กรรมการนับ 8 ได้สำเร็จ และพอขึ้นยก 3 ผ่านไปเพียง 14 วินาทีเท่านั้น บีมก็ส่งขวาเน้น ๆ 3 หมัด ส่งเป้ลงไปให้กรรมการนับถึง 10 แพ้น็อกไปอย่างสุดมัน
“การชกจบลงเร็วที่สุด" คู่ที่ 2 ดีเจแมน vs เติ้ล ธนพล
“ตัดสินค้านสายตาที่สุด" คู่ที่ 4 บอย พิษณุ vs ซัน ประชากร
“ที่สุดของการแบกน้ำหนัก" คู่ที่ 5 ฮั่น อิสริยะ vs ชิน ชินวุฒ
"มวย" เป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬา ที่ใช้น้ำหนักตัวเป็นเกณฑ์ในการประกบคู่ชก ดังนั้นถ้าใครขึ้นชกกันด้วยน้ำหนักตัวที่ต่างกันมาก ก็จะส่งผลต่อแรงปะทะ ความใหญ่ และความหนัก ซึ่งใน 10 Fight 10 ก็มีการกำหนดกติกาเรื่องของน้ำหนักไว้ด้วยเช่นเดียวกัน โดยจะมีน้ำหนักกลางที่ตกลงกันของแต่ละคู่ และคู่ฮั่น กับ ชิน ก่อนชกฮั่นชั่งได้ 76.3 กิโลกรัม ขณะที่ชินชั่งได้เพียง 62.4 กิโลกรัม เรียกว่าต้องแบกน้ำหนักถึง 14 กิโลกรัมเลยทีเดียว (คู่นี้ชินเป็นคนขอชกกับฮั่นเอง เพราะทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกัน และชินมั่นใจว่าฮั่นจะตั้งใจชกกับตนอย่างเต็มที่แน่นอน)
ในยกแรก ฮั่นซึ่งใหญ่กว่าอย่างชัดเจน เป็นฝ่ายรุกไล่ ด้วยอาศัยแรงปะทะที่ดีกว่าทำคะแนนนำในยกนี้ แต่พอมายก 2 และ 3 กลับดูเหมือนชินที่ดูจะมีเชิงมวยมากกว่า ใช้จังหวะเต้นฟุตเวิร์กเข้า-ออกอย่างรวดเร็ว และปล่อยหมัดเข้าเป้ามากขึ้น ทำคะแนนตีตื้นจนชนะไปอย่างพลิกความคาดหมาย
“ที่สุดของทรงมวย ชกเนียนตา ดูสนุกที่สุด" คู่ที่ 8 กวินท์.ดี vs ไต้ฝุ่น
ด้วยความที่ทั้งคู่มีพื้นฐานของการเป็นนักกีฬา (แบบที่ใช้ร่างกายในการเล่น ไม่ใช่แข่งรถ หรือแข่งมอเตอร์ไซค์) โดยกวินท์ เป็นนักว่ายน้ำ และไต้ฝุ่น เป็นนักลีลาศ ทำให้ทั้งคู่มีจังหวะการยืนมวย การออกหมัดอยู่ในขั้นที่เรียกได้ว่าชกมวยเป็น เมื่อทั้งคู่มาเจอกัน อายุก็ห่างกันไม่มาก (กวินท์ 26 / ไต้ฝุ่น 28) น้ำหนักใกล้เคียงกัน (กวินท์ 66 / ไต้ฝุ่น 69) จึงถือเป็นมวยที่ประกบมาแล้วถูกคู่ที่สุด และชกกันได้สนุกที่สุดจริง ๆ
โดย 2 ยกแรก ดูเหมือนกวินท์จะได้เปรียบนิด ๆ เมื่อออกหมัดเข้าเป้า จะแจ้งมากกว่า แต่พอมายกที่ 3 ตั้งแต่ต้นยก ไต้ฝุ่นแก้เกมส์มาดีมาก บุกชกเป็นชุด จนสามารถเรียกเลือดกวินท์ได้ ก่อนจะปล่อยหมัดขวาหมัดเด็ดเพียงหมัดเดียว กรรมการยุติการชก ให้ไต้ฝุ่นชนะ TKO ไปอย่างพลิกล็อกเล็ก ๆ และสนุกสุด ๆ นั่นเอง
"ที่สุดของความดราม่า" คู่ที่ 10 เจ้าขุน จักรภัทร vs แบงค์ ธิติ
มี ดราม่า 4 จังหวะ เกิดขึ้นในการชกคู่ที่ 10 รวมถึงหลังการชกคู่นี้ หลังจากที่ แบงค์ ธิติ ส่ง เจ้าขุน จักรภัทร ลงไปให้กรรมการนับ 8 ก่อนในยกที่ 2 เมื่อเจ้าขุนลุกขึ้นมาได้ ทั้งคู่ก็แลกหมัดกันอีกหลายชุด ก่อนที่แบงค์จะเผด็จศึกเจ้าขุนได้อย่างเด็ดขาดในยกเดียวกัน ซึ่งภายหลังจากที่กรรมการยุติการชก ดูเหมือนเจ้าขุนจะไม่พอใจนัก และหันไปที่กองเชียร์สีดำฝั่งตนเอง โชว์สปีดการออกหมัดประมาณว่าตัวเองยังไหวอยู่
ก่อนที่ดราม่าจังหวะแรก เจ้าขุนจะชูนิ้วกลางให้กับกองเชียร์ หลังจากนั้น ดราม่าจังหวะ 2 เกิดขึ้น ในขณะที่กันต์ กันตถาวร (พิธีกร) กำลังถือไมค์พูดอยู่นั้น เหมือนเจ้าขุนจะนึกได้ว่าตนเองยังพูดขอบคุณไม่หมด จึงดึงไมค์ไปจากกันต์ เพื่อพูดขอบคุณต่อ ดราม่าจังหวะ 3 เกิดขึ้นจากพ่อเจ โปรโมเตอร์ ที่ก่อนจบรายการ จะมีการประกาศมอบเข็มขัดที่จัดทำขึ้นพิเศษ มอบให้กับนักชกที่สุดในใจตัวเอง แต่ดูเหมือนจะมีเข็มขัดเหลืออยู่เส้นหนึ่ง จึงได้ประกาศมอบให้กับเจ้าขุนบนเวที และดราม่าจังหวะที่ 4 เกิดขึ้นจากโค้ชทีมแบล็ก อองตวน ปินโต ประกาศท้าชกบนเวทีว่า "ตนไม่ได้ชกมา 3 ปีแล้ว ถ้าใครชกกับตนจะต่อให้ 3 รุม 1 และตนจะชกโดยใช้แขนซ้ายเพียงข้างเดียวเท่านั้น" ซึ่งในระหว่างที่พูด สมจิตร จงจอหอ ที่อยู่บนเวทีด้วย ถึงกับทำหน้าออกอารมณ์หมั่นไส้อย่างเห็นได้ชัด
"ที่สุดของพลังหมัด" ดีเจแมน
"ที่สุดของเบสิกมวย" ชิน ชินวุฒ
"ที่สุดของการลดน้ำหนัก" ดิว ภัทรพล
ในการเตรียมตัวก่อนชก จากน้ำหนักปกติของดิวคือ 96 กิโลกรัม เค้าต้องทำลงมาให้ได้ 75 กิโลกรัม ตามพิกัดที่มีการตกลงไว้ แต่เมื่อถึงวันชกจริง ดิวทำน้ำหนักได้ที่ 81 กิโลกรัม (ให้สัมภาษณ์ว่าลดไป 15 ปอนด์ ภายใน 42 วัน) ขณะที่แอนด์ดรูว์ กรเศก หนัก 71.5 กิโลกรัม
ในเกมการชก ยกแรกยังคู่คี่ ไม่มีใครเหนือกว่าใครชัดเจน แต่พอขึ้นยก 2 แอนด์ดรูว์ออกหมัดเข้าเป้ามากขึ้น และการที่ดิวลดน้ำหนักมาเยอะ เริ่มส่งผลแล้วในปลายยกนี้ เมื่อดิวออกอาการหมดแรงอย่างเห็นได้ชัด และพอขึ้นยก 3 ดิวเร่งเครื่องเป็นการใหญ่ แต่ในเมื่อน็อกไม่ลง เลยช็อตไปดื้อ ๆ และโดนหมัดแอนด์ดรูว์เน้น ๆ อีก 2-3 หมัด กรรมการเลยนับ 8 และตัดสินใจยุติการชกในที่สุด
ที่สุดของยอดมวยซีซั่น 1 ที่แฟนมวยอยากให้มาเจอกันมากที่สุดในซีซั่น 2
บีม ศรัณยู บู๊เดือด ดีเจ แมน : มวยไฟต์เตอร์ทั้งคู่ หนักต่อหนัก น็อกต่อน็อก
- บีม ศรัณยู / อายุ 35 / น้ำหนัก 68.7 / สูง 180 เซนติเมตร
สถิติ ชก 1 ชนะน็อก 1 (ชนะ TKO เป้ อารักษ์ ยกที่ 3 (ยก 2 ได้ก่อน 1 นับด้วย)
- ดีเจแมน / อายุ 36 / น้ำหนัก 64.4 / สูง 175 เซนติเมตร
สถิติ ชก 1 ชนะน็อก 1 (ชนะ TKO เติ้ล ธนพล ยกที่ 2 (ยก 1 ได้ก่อน 1 นับด้วย)
กาย รัชชานนท์ ซัดกับ ไต้ฝุ่น กนกฉัตร : มวยไฟต์เตอร์ที่รูปร่างน่าเกรงขามที่สุด กับ มวยบ็อกเซอร์ ที่มีสเต็ปการชกดีที่สุด
- กาย รัชชานนท์ / อายุ 29 / น้ำหนัก 70.9 / สูง 174 เซนติเมตร
สถิติ ชก 1 ชนะ 1 (ชนะ TKO ไนกี้ นิธิดล ยก 3 กรรมการจับแพ้ พร้อมกับจังหวะที่พี่เลี้ยงโยนผ้ายอมแพ้)
- ไต้ฝุ่น กนกฉัตร / อายุ 28 / น้ำหนัก 69.9 / สูง 180 เซนติเมตร
สถิติ ชก 1 ชนะ 1 (ชนะ TKO กวินท์.ดี ยก 3 ชนิดกวินท์เลือดกบปาก)
ชิน ชินวุฒ ออกอาวุธกับ แบงค์ ธิติ : มวยจังหวะฝีมือที่มีเบสิกแน่นที่สุด กับ มวยฟอร์มสดที่มีวินัยในการซ้อมสูงสุด
- ชิน ชินวุฒ / อายุ 29 / น้ำหนัก 62.4 / สูง 175 เซนติเมตร
สถิติ ชก 1 ชนะ 1 (ชนะคะแนน ฮั่น อิสสริยะ)
- แบงค์ ธิติ / อายุ 22 / น้ำหนัก 65.5 / สูง 175 เซนติเมตร
สถิติ ชก 1 ชนะ 1 (ชนะ TKO เจ้าขุน จักรภัทร)
ใน 3 คู่นี้ เชื่อได้เลยว่าถ้าคู่ไหนได้เจอกันจริงในซีซั่น 2 ทั้งรูปร่าง ฝีมือ ทักษะ น้ำหนัก ส่วนสูง สูสีกันมาก และจะเป็นการประกบคู่ที่แฟนมวยได้ซี้ดซ้าดกันแน่นอน !!!
ทั้งหมดนี้ คือ 10 ที่สุด 10 Fight 10 ที่ทีมงาน Kapook เราวิเคราะห์กันแบบไฟต์ต่อไฟต์ ยกต่อยก หมัดต่อหมัด มาให้แฟนหมัดมวยได้อ่านกัน ซึ่งจากนี้ไป แฟน ๆ สามารถรอติดตามความสนุก ความมันที่จะเกิดขึ้นในซีซั่น 2 กันได้ หลังสงกรานต์ ปี 2020