วิธี Move On หลังเจอความรักที่แสนเจ็บปวด บางคนก็ว่าง่าย แต่บางคนก็ว่ายาก ไม่รู้จะ Move On ยังไงดี เหมือนจะก้าวไปไกล แต่สุดท้ายกลับมูฟออนเป็นวงกลม อย่าเพิ่งท้อใจ วันนี้เรารวบรวมวิธี Move On จากความรักครั้งเก่ามาให้แล้ว
ตอนรักกันอะไร ๆ ก็ดี แต่พอโดนบอกเลิกขึ้นมา ความรู้สึกก็เหมือนโลกทั้งใบพังทลายลง ก่อเกิดบาดแผลที่ทำให้เจ็บช้ำอยู่ซ้ำ ๆ ทุกครั้งที่นึกถึง ลองหาวิธี Move On เพราะอยากจะลืมความรักครั้งเก่า แต่ก็ยังก้าวต่อไปไม่ได้ แถมวนมาจุดเดิม ใครที่เคยเป็นแบบนี้คงรู้ดีว่าการมูฟออนเป็นวงกลมไม่ใช่เรื่องสนุกเลย
แต่การ Move On ที่แท้จริง ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป เพราะวันนี้เรามี 10 วิธี Move On จากความรักพัง ๆ มาบอกต่อกันแล้ว ถ้าอยากไปต่อ ต้องทำใจให้สตรอง ! ตามเรามาดูวิธีมูฟออนเด็ด ๆ แล้วเดินหน้าสู่รักครั้งใหม่กันเลย
1. ยอมรับความจริง
ก่อนที่จะก้าวไปสู่วิธีอื่น ๆ เราต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้เสียก่อน ระลึกไว้เสมอว่าเขาไม่ใช่คนรักที่แสนดีของเราแล้ว เพราะการที่เรา Move On ไม่ได้นั้น ส่วนหนึ่งเกิดมาจากความคิดของเราที่ยังมองว่าเขาหรือเธอเป็น “คนที่ใช่” อยู่ แล้วหวังว่าสักวันเขาจะวนกลับมาหาเราใหม่ โน ! อย่าเพ้อและไปยึดติดกับคนคนนั้น ยอมรับความจริงว่าเรากับเขาไปต่อกันไม่ได้แล้ว ถ้าหากเขามีคนใหม่ เราก็สามารถมีคนใหม่ได้เช่นกัน
2. ระบายความรู้สึกกับคนที่เราไว้ใจ
บางคนเชื่อว่าวิธี Move On คือการฝังเรื่องราวเอาไว้และไม่พูดถึงมันอีก แต่ตามหลักจิตวิทยาแล้วกลับตรงกันข้าม ลองระบายความรู้สึกให้คนที่เราไว้ใจฟังดูสิ เพราะการแบ่งปันประสบการณ์และความรู้สึกให้คนอื่นรับรู้ จะช่วยให้เรารู้สึกโดดเดี่ยวน้อยลง และเยียวยาความเจ็บปวดได้ แต่ถ้ารู้สึกว่าไม่มีคนรอบข้างที่จะรับฟังได้ การขอความช่วยเหลือจากนักบำบัดจิตก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีนะ
3. ไม่ย้อนไปดูอะไรเก่า ๆ
เลิกเสียทีกับการย้อนไปดูแชตเก่า ๆ ที่เคยคุย หรือรูปที่เคยถ่ายไว้ด้วยกัน รวมถึงการไปแอบส่องเฟซบุ๊กและไอจีของคนรักเก่า เพราะจะยิ่งทำให้ลืมความเจ็บปวดไม่ได้ ถ้าเลิกส่องไม่ได้หรือใจไม่แข็งพอละก็ อาจจะต้องลบอะไรเก่า ๆ เหล่านี้ทิ้งซะ ถือเป็นการเคลียร์หัวใจไปเลย
4. ไม่ติดต่อกับคนเก่า
“ถึงจะเลิกกันไปแล้ว เราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้นะ” ใครเคยเจอประโยคนี้จากแฟนเก่าบ้าง บอกเลยว่านี่ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้เรา Move On ได้ไม่ถึงไหน เพราะคำว่าเพื่อน มักจะทำให้เรารู้สึกว่าเขายังอยู่ข้างเราเสมอ ทั้งที่จริง ๆ เขาเดินไปไกลมากแล้ว หรือบางทีการที่ยังคุยกันเหมือนเดิม ทั้งที่เลิกกันไปแล้ว ก็ทำให้เราแอบหวังว่าจะกลับมาคบกันอีก ดังนั้นควรตัดใจหักดิบ ลด ละ เลิกติดต่อกับคนรักเก่าไปก่อน เพื่อทำให้เราเดินต่อไปข้างหน้าได้ไวขึ้น
5. หาอะไรใหม่ ๆ ทำ
หลังจากเลิกดูอะไรเก่า ๆ และติดต่อกับคนรักเก่าน้อยลงแล้ว ก็ถึงเวลาหันกลับมาทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการทำในสิ่งที่เราชอบ อย่างการช้อปปิ้งเสื้อผ้าใหม่ เครื่องสำอางใหม่ ดูหนังที่เพิ่งเข้า หรือจะลองหาอะไรใหม่ ๆ ทำ เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองก็ได้ เช่น ถ้าไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ก็ลองหันมาเข้าฟิตเนส วิ่งในสวน หรือฝึกทักษะเพิ่ม อย่างเรียนดำน้ำ วาดรูป เย็บกระเป๋าผ้า นอกจากจะช่วยให้โฟกัสกับสิ่งใหม่ ๆ แล้ว การอัปเกรดสกิลตัวเองยังทำให้เราเป็นคนที่น่าสนใจมากขึ้นอีกด้วยนะ
6. สร้างเป้าหมายให้ตัวเอง
ไม่เพียงแต่ทำอะไรใหม่ ๆ เพื่อตัวเองเท่านั้น แต่อย่าลืมสร้างเป้าหมายใหม่ไปพร้อมกันด้วย เพื่อการ Move On อย่างแท้จริง เช่น อาจจะตั้งเป้าหมายไว้ว่าต้องออกกำลังกายทุกวัน ต้องลดน้ำหนักให้ได้ในจุดที่พอดี ต้องปรับตัวเองให้ดูดีขึ้น เมื่อสร้างเป้าหมายดี ๆ แล้วก็ต้องทำให้ได้ คราวนี้ความรักครั้งใหม่ก็จะกลายเป็นเป้าหมายที่ไม่ไกลเกินเอื้อมเช่นกัน
7. ทำความรู้จักคนใหม่ ๆ
ในเมื่ออะไร ๆ รอบตัวเราเริ่มกลายเป็นสิ่งใหม่แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องแย่ ถ้าเราจะทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ หรือหาคนใหม่คุย แถมยังเป็นวิธี Move On จากรักพัง ๆ ที่เวิร์กมากด้วย เพราะคนใหม่จะช่วยดึงเราออกไปจากการจมอยู่กับบาดแผลเดิม ทำให้เราค่อย ๆ ก้าวออกจากจุดที่เคยเจ็บปวด ถ้าคุยกันแล้วคลิก ทีนี้แหละก็ถือว่า Move On ได้สำเร็จแล้ว
8. รักและเชื่อมั่นในตัวเอง
ถ้าอยากเริ่มต้นรักครั้งใหม่ ก็ต้องรักตัวเองให้มากขึ้นด้วย พร้อมเชื่อมั่นว่าเราดีขึ้นได้ อย่าคิดในแง่ลบว่าเขาทิ้งเราไป เพราะเราแย่ อย่างที่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดค้นพบว่า คนที่เห็นว่าบุคลิกภาพของตัวเองเป็นพิษต่อความรัก ทำให้เกิดการเลิกรา จะมีแนวโน้มสิ้นหวังกับความรักในอนาคต ส่วนคนที่เห็นว่าบุคลิกของตนเปลี่ยนแปลงได้ มองว่าการเลิกรากันเป็นโอกาสที่จะเติบโตและพัฒนาตัวเอง จะมีแนวโน้มสมหวังในความสัมพันธ์ครั้งใหม่ และสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ง่ายขึ้น
9. ให้อภัยคนรักเก่า
หากยังโกรธแค้นและโทษคนรักเก่าที่ทิ้งเราไป ก็เหมือนแบกความรู้สึกแย่ ๆ ติดหลังอยู่ตลอด การเดินหน้าต่อจึงเป็นเรื่องหนักหนา แถมยังกลัวความเจ็บปวด จนไม่กล้าเริ่มต้นใหม่กับใคร ดังนั้นแม้เขาจะทำร้ายความรู้สึกเราแค่ไหน ก็ต้องปล่อยวางและให้อภัยในทุกการกระทำของเขา มองว่าการรักและเลิกเป็นเรื่องธรรมดา พอสลัดความรู้สึกแย่ ๆ เกี่ยวกับตัวเขาได้แล้ว รับรองว่าคุณจะเริ่มต้นใหม่ได้อย่างสบายใจขึ้น
10. มองความรักเป็นสิ่งมีค่า
สุดท้ายแล้ว คุณจะ Move On ต่อไปไม่ได้เลย ถ้าหมดศรัทธากับความรัก ดังนั้น ต้องมองความรักในแง่บวกเข้าไว้ เพราะความรักสวยงามและมีคุณค่าเสมอ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นหรือจบลงไปก็ตาม อย่าเพิ่งสิ้นหวังกับความรักเชียวล่ะ ถ้าคิดแบบนี้แล้ว เชื่อได้เลยว่าจะมีความรักดี ๆ รอคุณอยู่ข้างหน้าแน่นอน
การ Move On ของแต่ละคนอาจใช้เวลามากน้อยต่างกัน รวมถึงอาจจะไม่ต้องใช้ให้ครบทั้ง 10 วิธีที่เราบอกไว้ข้างต้นนี้ก็ได้ แค่อย่าลืมว่ารักที่จบลง ไม่ได้ทำให้ชีวิตของเราจบลงไปด้วย ถ้าใจเราสตรอง ก็พร้อมเริ่มต้นความรักครั้งใหม่ได้เสมอ
แต่การ Move On ที่แท้จริง ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป เพราะวันนี้เรามี 10 วิธี Move On จากความรักพัง ๆ มาบอกต่อกันแล้ว ถ้าอยากไปต่อ ต้องทำใจให้สตรอง ! ตามเรามาดูวิธีมูฟออนเด็ด ๆ แล้วเดินหน้าสู่รักครั้งใหม่กันเลย
1. ยอมรับความจริง
ก่อนที่จะก้าวไปสู่วิธีอื่น ๆ เราต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้เสียก่อน ระลึกไว้เสมอว่าเขาไม่ใช่คนรักที่แสนดีของเราแล้ว เพราะการที่เรา Move On ไม่ได้นั้น ส่วนหนึ่งเกิดมาจากความคิดของเราที่ยังมองว่าเขาหรือเธอเป็น “คนที่ใช่” อยู่ แล้วหวังว่าสักวันเขาจะวนกลับมาหาเราใหม่ โน ! อย่าเพ้อและไปยึดติดกับคนคนนั้น ยอมรับความจริงว่าเรากับเขาไปต่อกันไม่ได้แล้ว ถ้าหากเขามีคนใหม่ เราก็สามารถมีคนใหม่ได้เช่นกัน
บางคนเชื่อว่าวิธี Move On คือการฝังเรื่องราวเอาไว้และไม่พูดถึงมันอีก แต่ตามหลักจิตวิทยาแล้วกลับตรงกันข้าม ลองระบายความรู้สึกให้คนที่เราไว้ใจฟังดูสิ เพราะการแบ่งปันประสบการณ์และความรู้สึกให้คนอื่นรับรู้ จะช่วยให้เรารู้สึกโดดเดี่ยวน้อยลง และเยียวยาความเจ็บปวดได้ แต่ถ้ารู้สึกว่าไม่มีคนรอบข้างที่จะรับฟังได้ การขอความช่วยเหลือจากนักบำบัดจิตก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีนะ
เลิกเสียทีกับการย้อนไปดูแชตเก่า ๆ ที่เคยคุย หรือรูปที่เคยถ่ายไว้ด้วยกัน รวมถึงการไปแอบส่องเฟซบุ๊กและไอจีของคนรักเก่า เพราะจะยิ่งทำให้ลืมความเจ็บปวดไม่ได้ ถ้าเลิกส่องไม่ได้หรือใจไม่แข็งพอละก็ อาจจะต้องลบอะไรเก่า ๆ เหล่านี้ทิ้งซะ ถือเป็นการเคลียร์หัวใจไปเลย
“ถึงจะเลิกกันไปแล้ว เราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้นะ” ใครเคยเจอประโยคนี้จากแฟนเก่าบ้าง บอกเลยว่านี่ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้เรา Move On ได้ไม่ถึงไหน เพราะคำว่าเพื่อน มักจะทำให้เรารู้สึกว่าเขายังอยู่ข้างเราเสมอ ทั้งที่จริง ๆ เขาเดินไปไกลมากแล้ว หรือบางทีการที่ยังคุยกันเหมือนเดิม ทั้งที่เลิกกันไปแล้ว ก็ทำให้เราแอบหวังว่าจะกลับมาคบกันอีก ดังนั้นควรตัดใจหักดิบ ลด ละ เลิกติดต่อกับคนรักเก่าไปก่อน เพื่อทำให้เราเดินต่อไปข้างหน้าได้ไวขึ้น
หลังจากเลิกดูอะไรเก่า ๆ และติดต่อกับคนรักเก่าน้อยลงแล้ว ก็ถึงเวลาหันกลับมาทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการทำในสิ่งที่เราชอบ อย่างการช้อปปิ้งเสื้อผ้าใหม่ เครื่องสำอางใหม่ ดูหนังที่เพิ่งเข้า หรือจะลองหาอะไรใหม่ ๆ ทำ เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองก็ได้ เช่น ถ้าไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ก็ลองหันมาเข้าฟิตเนส วิ่งในสวน หรือฝึกทักษะเพิ่ม อย่างเรียนดำน้ำ วาดรูป เย็บกระเป๋าผ้า นอกจากจะช่วยให้โฟกัสกับสิ่งใหม่ ๆ แล้ว การอัปเกรดสกิลตัวเองยังทำให้เราเป็นคนที่น่าสนใจมากขึ้นอีกด้วยนะ
ไม่เพียงแต่ทำอะไรใหม่ ๆ เพื่อตัวเองเท่านั้น แต่อย่าลืมสร้างเป้าหมายใหม่ไปพร้อมกันด้วย เพื่อการ Move On อย่างแท้จริง เช่น อาจจะตั้งเป้าหมายไว้ว่าต้องออกกำลังกายทุกวัน ต้องลดน้ำหนักให้ได้ในจุดที่พอดี ต้องปรับตัวเองให้ดูดีขึ้น เมื่อสร้างเป้าหมายดี ๆ แล้วก็ต้องทำให้ได้ คราวนี้ความรักครั้งใหม่ก็จะกลายเป็นเป้าหมายที่ไม่ไกลเกินเอื้อมเช่นกัน
ในเมื่ออะไร ๆ รอบตัวเราเริ่มกลายเป็นสิ่งใหม่แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องแย่ ถ้าเราจะทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ หรือหาคนใหม่คุย แถมยังเป็นวิธี Move On จากรักพัง ๆ ที่เวิร์กมากด้วย เพราะคนใหม่จะช่วยดึงเราออกไปจากการจมอยู่กับบาดแผลเดิม ทำให้เราค่อย ๆ ก้าวออกจากจุดที่เคยเจ็บปวด ถ้าคุยกันแล้วคลิก ทีนี้แหละก็ถือว่า Move On ได้สำเร็จแล้ว
ถ้าอยากเริ่มต้นรักครั้งใหม่ ก็ต้องรักตัวเองให้มากขึ้นด้วย พร้อมเชื่อมั่นว่าเราดีขึ้นได้ อย่าคิดในแง่ลบว่าเขาทิ้งเราไป เพราะเราแย่ อย่างที่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดค้นพบว่า คนที่เห็นว่าบุคลิกภาพของตัวเองเป็นพิษต่อความรัก ทำให้เกิดการเลิกรา จะมีแนวโน้มสิ้นหวังกับความรักในอนาคต ส่วนคนที่เห็นว่าบุคลิกของตนเปลี่ยนแปลงได้ มองว่าการเลิกรากันเป็นโอกาสที่จะเติบโตและพัฒนาตัวเอง จะมีแนวโน้มสมหวังในความสัมพันธ์ครั้งใหม่ และสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ง่ายขึ้น
หากยังโกรธแค้นและโทษคนรักเก่าที่ทิ้งเราไป ก็เหมือนแบกความรู้สึกแย่ ๆ ติดหลังอยู่ตลอด การเดินหน้าต่อจึงเป็นเรื่องหนักหนา แถมยังกลัวความเจ็บปวด จนไม่กล้าเริ่มต้นใหม่กับใคร ดังนั้นแม้เขาจะทำร้ายความรู้สึกเราแค่ไหน ก็ต้องปล่อยวางและให้อภัยในทุกการกระทำของเขา มองว่าการรักและเลิกเป็นเรื่องธรรมดา พอสลัดความรู้สึกแย่ ๆ เกี่ยวกับตัวเขาได้แล้ว รับรองว่าคุณจะเริ่มต้นใหม่ได้อย่างสบายใจขึ้น
สุดท้ายแล้ว คุณจะ Move On ต่อไปไม่ได้เลย ถ้าหมดศรัทธากับความรัก ดังนั้น ต้องมองความรักในแง่บวกเข้าไว้ เพราะความรักสวยงามและมีคุณค่าเสมอ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นหรือจบลงไปก็ตาม อย่าเพิ่งสิ้นหวังกับความรักเชียวล่ะ ถ้าคิดแบบนี้แล้ว เชื่อได้เลยว่าจะมีความรักดี ๆ รอคุณอยู่ข้างหน้าแน่นอน