พี่อ้อยเข้าวงการมาตอนอายุเท่าไร ?
อ้อย : ถ่ายโฆษณาตอนอายุ 6 เดือน แล้วก็มาเล่นหนังของน้าดอกดิน ตอนประมาณ 7-8 ขวบได้
ปัจจุบันพี่อ้อยทำอะไรอยู่บ้าง ?
อ้อย : เป็นผู้จัด เล่นละคร ครูสอนการแสดง ผู้กำกับ
เรียกว่าในครอบครัวเป็นสายการแสดงกันทั้งหมดเลย ?
อ้อย : สายการแสดงแม้กระทั่งเด็กคนงานในบ้าน พี่ก็เอาไปเล่นหนัง เล่นละครด้วยหมด ตั้งแต่สมัยพี่ทำละคร ตอนเล่นสุริโยทัย เด็กตามพี่ไปด้วย ท่านมุ้ยก็เอาเข้าฉากด้วย แม้แต่สุนัขในบ้านก็เอาเข้าฉากด้วย
จุดไหนที่ทำให้เป็นพี่อ้อยแบบทุกวันนี้ ?
อ้อย : ละครเรื่องความรัก เรื่องขังแปด ถ้าเป็นภาพยนตร์ก็สุริโยทัย
เล่นเป็นทอมช่วงหลังแล้ว ?
อ้อย : ช่วงหลัง ๆ แล้ว ส่วนมากของท่านมุ้ยจะรับบทนักฆ่า บทแรง ๆ
พี่มีความห้าวในตัว ลุคนางเอกในสมัยที่พี่อ้อยเล่นเป็นยังไง ?
อ้อย : สมัยที่พี่เป็นนางเอก พี่แต่งงานมีครอบครัว มีสามี เป็นกุลสตรีไทย เป็นผู้หญิงเลย ทาเล็บ พอพี่แต่งงานก็ต้องใช้ชีวิตแบบผู้หญิง
แล้วในใจลึก ๆ เราล่ะ ?
อ้อย : บอกกันตรง ๆ เลย พี่เป็นทอมตั้งแต่เด็ก แต่ด้วยความที่พี่อยากมีครอบครัว อยากมีลูก สามีขอแต่งตอนวัยอลวน คนเข้ามาจีบเยอะ สามีมาขอก็แต่งเลย อายุ 20 ปี
อ้อย : รู้หมด สามีก็รู้
แล้วพี่มีแฟนเป็นผู้หญิงก่อนไหม ?
อ้อย : ก็มีค่ะ
แล้วตอนที่เขาขอแต่งงานเป็นตอนที่เราพักว่างจากแฟนสาว ?
อ้อย : ก็มีอยู่ค่ะ พี่ก็บอกแฟนผู้หญิงพี่ว่าพี่อยากมีครอบครัว อยากแต่งงาน เขาก็บอกโอเค เพราะช่วงชีวิตเรามันต้องมีช่วงที่แต่งงาน อยากใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ
ทำไมจุดนั้นถึงคิดอยากมีลูก ?
อ้อย : เพราะพี่เป็นคนรักเด็กมาก อยากมีลูกมาก สิ่งที่อยากมีมากที่สุดคือลูก ตอนนี้ที่อยากมีมากที่สุดคือหลาน
ขอถามความรู้สึกหน่อย ถ้าคนเป็นทอมคบกับผู้หญิง ไปเลี้ยงลูกบุญธรรมเป็นลูกของเรา แต่พี่อ้อยคิดว่าอยากมีเป็นของตัวเองเลย ?
อ้อย : อยากมีเป็นของตัวเองเลย ซึ่งเราก็ต้องรู้ว่าเราผ่านชีวิตมา อะไรที่เรามีความสุขที่สุด เพราะเราก็ไม่เคยมีสามี เราก็ลองมีสามี มีครอบครัวดูว่าโอเคไหม แต่ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วมันไม่ใช่ ก็ต้องขอไปเป็นตัวของตัวเองดู
พี่ชอบอะไรในตัวเขา เขาหล่อ ?
อ้อย : เขาเป็นคนน่ารัก นิสัยดี
เป็นคนในวงการไหม ?
อ้อย : นอกวงการ
ไปเจอกันได้ยังไง ?
อ้อย : เพื่อนของเพื่อนแนะนำให้รู้จัก มีหลายคนนั่นแหละ แต่เขาขอแต่งก่อน คนไหนขอแต่งก่อนแต่งเลย กลัวไม่ได้แต่ง
แฟนผู้หญิงมางานแต่งไหม ?
อ้อย : มาค่ะ เขาแต่งตัวให้ด้วย
แล้วสามีพี่เขารู้จักกับแฟนพี่ไหม ?
อ้อย : รู้จักค่ะ
รู้สึกอึดอัดไหม กดดันไหม กับความรู้สึกที่จะเปลี่ยนคู่ชีวิตเป็นอีกหนึ่งเพศ ?
อ้อย : พี่ก็ไม่อึดอัดนะ
แสดงว่าต้องมีใจรักเขา ?
อ้อย : ตอนแรกเอาตรง ๆ ก็ชอบธรรมดา ไม่ถึงขั้นรักหรอก แต่อยากมีครอบครัว อยากมีลูกมาก เพราะว่าชีวิตพี่ที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กไม่เคยอยู่กับคุณพ่อ คุณแม่ พ่อแม่ทำพากย์หนัง ถ่ายละครตลอด พี่อยู่บ้านเสรีรัตน์ ครอบครัวนี้เขาอบอุ่นมาก ทุกคนในครอบครัวไม่มีภรรยาน้อย รักเดียวใจเดียว แล้วเวลาอยู่ในครอบครัวมันมีความสุขมาก ซึ่งพี่เห็นภาพแบบนั้นแล้วอยากมีบ้าง
เราอยากมีครอบครัวแต่เราไม่ได้รักเขาหมดใจ ไม่เหมือนคู่รักที่ความรักสุกงอมแล้วเข้าสู่ประตูวิวาห์ มันจะทำให้ความสัมพันธ์เรากับสามีพัฒนาไปในลักษณะไหน ?
อ้อย : จริง ๆ พอแต่งงานแล้ว พี่พลิกตัวเองเลยนะ จากห้าว ๆ พี่เป็นผู้หญิงเลย เป็นกุลสตรีไทยดูแลอย่างดี แต่พี่เป็นคนไม่ดีพอเขาเลยมีผู้หญิงอื่น พอเขามีผู้หญิงอื่นพี่ก็เลยมีความรู้สึกว่าเลิกดีกว่า กลับมาเป็นตัวของตัวเอง
อ้อย : ก็ท้องลูกคนที่สอง เขามีคนอื่นพี่ก็เลิกเลย แต่ยังไม่ถึงขั้นหย่า พอคลอดลูกแล้วถึงขอหย่าเขา
ไม่ให้โอกาสเลยเหรอ ?
อ้อย : ไม่ค่ะ พอแล้ว พี่ก็เป็นกุลสตรีดีที่สุดแล้ว แต่มันไม่ดีพอสำหรับเขา ถ้าพี่เป็นคนดีพอเขาคงไม่ไปมีผู้หญิงคนอื่น
ชีวิตก็ดำเนินมาตามที่พี่ตั้งใจไว้เลย ไม่ว่าจะแต่งงานแล้ว มีลูกแล้ว วันที่พี่ต้องเดินออกจากชีวิตคู่ พี่อ้อยต้องนอนร้องไห้กับความผิดหวังของความอบอุ่นในครอบครัว ?
อ้อย : เอาจริงหรือเอาดราม่า ถ้าเอาจริงคือไม่รู้สึกอะไรเลย
ไม่มีมุมเสียใจในความรักครั้งนี้เหรอ ?
อ้อย : เฉย ๆ
ไม่สงสารลูกเหรอว่าลูกเราจะไม่มีครอบครัว ?
อ้อย : พี่มีความรู้สึกว่าพี่เลี้ยงลูกได้ พี่จะสอนลูกพี่ว่าคนเราถ้าเรารักใครสักคน ถ้าเขามีความสุขยังไงเราต้องให้เขาตรงนั้น แล้วการที่อยู่ด้วยกันแล้วทะเลาะกันต่อหน้าลูก มันทำให้ครอบครัวไม่มีความสุข ถึงเลิกกันแต่เราก็เป็นเพื่อนกัน ไปมาหาสู่กัน
ตอนแรก ๆ ที่ตัดสินใจแยกทางกัน หย่าร้างกัน ช่วงแรกมีการง้อขอคืนดีกันบ้างไหม ?
อ้อย : พี่ขอหย่าเขา เขาไม่หย่า ก็ต้องให้คุณแม่ไป พอเจอแม่ปั๊บ เขาก็ครับ ยอมหย่า
แล้วทำไมแม่ถึงเข้าข้างเรา ?
อ้อย : แม่อ้อยก็เหมือนอ้อย ทำยังไงก็ได้ให้ลูกมีความสุข
ตอนนั้นบอกกับลูก ๆ ไหม ?
อ้อย : ตอนนั้นลูกยังเล็กอยู่ พี่ก็เอาลูกมาเลี้ยง ลูกอยู่กับฝั่งพี่ พอลูกเข้าโรงเรียน คุณย่า แม่ของสามี เขาก็ขอลูกไปเลี้ยง เพราะตอนนั้นพี่ทำงานดีเจเปิดแผ่นอยู่กลางคืน กลางวันทำงาน เขาก็ขอเอาไปเลี้ยง เพราะเราไม่มีเวลา เราก็มองว่าไปอยู่บ้านเขา ก็คงจะอบอุ่นมากกว่า เพราะว่าบ้านเขา โกสิยพงษ์ เป็นบ้านที่อบอุ่นมาก พอลูกไปอยู่ลูกก็มีความสุข เพราะทุกคนดูแลดี พอเสาร์ อาทิตย์ก็มาหาเรา ทุกวันนี้เราก็ยังติดต่อกันอยู่
อ้อย : ที่จำได้ก็ขอหย่าได้ไหม มีแฟนใหม่แล้วก็หย่าดีกว่าไหม อยู่ด้วยกันทำไม ไปอยู่กับคนนั้นดีกว่าไหม ในเมื่อไม่มีความสุขก็แยกย้ายดีกว่า
กลับมาเป็นตัวของตัวเองได้ไม่เท่าไร ฝ่ายสามีเก่าก็มีคนใหม่ พี่ก็เข้าไปรับรู้ ?
อ้อย : ก็เป็นเพื่อนกัน
ไปดูแลเขาด้วย ?
อ้อย : เขาก็มีลูกสองคน ก็เหมือนกันกับลูกเราเหมือนกัน
ภรรยาเขามีมาปรึกษาพี่ไหม ?
อ้อย : ก็มีเหมือนกัน ตอนนี้ก็ยังติดต่อกันถึงทุกวันนี้อยู่ ลูกเขาลูกเราก็ยังจอยกันอยู่ ลูกเขาก็เหมือนลูกเรา ลูกเราก็เหมือนลูกเขา ลูกเราก็เรียกเขาว่าแม่ยุ้ย
ได้ยินมาว่าอดีตสามีพี่เสียชีวิตไปแล้ว ?
อ้อย : เสียตอนพี่ไปอยู่เมืองนอก
พี่ก็ไม่ได้ใช้เวลาในช่วงวินาทีสุดท้ายของชีวิตกับเขา ?
อ้อย : ไม่ค่ะ ช่วงหนึ่งที่พี่อยู่เมืองไทย เขาเลิกกับภรรยาเขา แต่ไม่ใช่พี่ยุ้ยนะ เขาก็มาอยู่บ้านพี่ ลูกมาขอบอกว่า แม่ ให้พ่อมาอยู่ได้ไหม เราก็บอกว่าได้ ก็ให้มาอยู่ห้องลูก
กลับมาอยู่กี่ปี ?
อ้อย : ก็ 2-3 ปี เขามาอยู่กับพี่ ตอนนั้นพี่ก็มีแฟน แต่พี่ไม่ค่อยได้คุยอะไรกับเขาเท่าไรหรอก แฟนพี่ยังบอกเลยว่าพี่ใจร้ายทำไมไม่คุยกับเขา เวลานั่งดื่มก็ชวนเขามาด้วยสิ เพราะเขากลัวพี่ พอพี่เข้าบ้านเขาก็เข้าห้องลูกทันที พอเรียกออกมาดื่มตั้งแต่นั้นก็เฮฮาปาร์ตี้กันไป
ฝากแง่คิดให้บางครอบครัวที่ไม่กล้าคุย ทำยังไงที่เวลาเปิดใจคุยกับลูก ๆ แล้วทำให้เขาไม่ขาดความอบอุ่นแบบบ้านพี่อ้อย ?
อ้อย : มีอะไรคุยกัน เราต้องกล้าเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ ๆ ยอมรับความคิดของลูก ลูกเขาคิดยังไง เราก็ต้องเอามาปรับความคิดเรา บางครั้งเราอาจจะผิด เพราะเด็กสมัยนี้เขาสมัยใหม่ เขาเก่งกว่าเรา เราต้องยอมรับ เอาง่าย ๆ ถ้าเรารักใครเราต้องรู้ว่าคนที่เรารักเขาเป็นยังไง เราต้องพร้อมที่จะแก้ไขให้กับทุกสิ่งทุกอย่าง คนเป็นพ่อแม่ต้องเสียสละ ตอนนี้ไม่มีแฟนก็ลูกด้วยแหละ
อ้อย : ก็ต้องเปิดใจ แม่แก่แล้วก็ต้องมีคนดูแลบ้าง คือเขาไม่ได้หวงแม่หรอก แต่เขาบอกว่ามีแฟนอายุน้อยกว่าเขามันน่าเกลียดไหมแม่
จะครองโสดแบบนี้ไปอีกนานไหม แล้วถ้ามีคนเข้ามายังจำกัดเพศไหม ?
อ้อย : ถ้าสมมุติว่าคุยกันรู้เรื่อง แต่ขอเป็นผู้หญิงดีกว่าไหม
ดูเหมือนชอบคนเด็กกว่า คนที่เข้ามาต้องวุฒิภาวะประมาณไหน ?
อ้อย : เมื่อก่อนก็คิดไว้ว่า 25 แต่พอตอนนี้ 60 กว่าแล้ว ขอสัก 30-40
มีสเปกลึกไปกว่านั้นมีไหม ?
อ้อย : ก็ต้องขาว ๆ ธรรมะธัมโม หน้าตาดี หุ่นดี
ต้องเจ้าระเบียบด้วย เพราะพี่อ้อยบอกว่าติดความเจ้าระเบียบมาจากคุณแม่ (มารศรี อิศรางกูร ณ อยุธยา) ?
อ้อย : คุณแม่เจ้าระเบียบมาก ทำอะไรก็ต้องเก็บเอง บอกว่าไม่ต้องทำ เพราะกลัวล้ม
ทุกวันนี้คุณแม่มารศรี อายุ 98 ปี ยังลุกขึ้นมาเก็บที่นอนเอง ?
อ้อย : ใช่ เก็บที่นอนเองอะไรเองหมด
คุณแม่ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว ?
คุณแม่ : 90 เท่าไหร่ไม่รู้
อ้อย : 98 แล้ว
คุณแม่มารศรีเจ้าระเบียบจริงไหมคะ ?
คุณแม่ : ฉันไม่ใช่เจ้า ฉันเป็นคนธรรมดา
คุณแม่เป็นคนดุไหม ?
คุณแม่ : ไม่ดุ ใจดี
บ้านพี่มีกิจกรรมอะไรทำไมแม่พี่ถึงได้ทำการแสดงแล้วก็เล่นได้อย่างคล่องแคล่วมาก ?
อ้อย : ทุกวันนี้เมื่อไรเขาจะมาจ้างฉันเล่นละครสักที ฉันอยากเล่นละคร แล้วจำบทได้ไหมเนี่ย
คุณแม่ : ฉันน่ะเหรอ สมัยก่อนฉันจำได้ว่าฉันเป็น มารศรี อิศรางกูร นะ
คุณแม่ : ใช่
อ้อย : เวลาถ่ายละครเขาก็ไปด้วย
เห็นว่าแอบนั่งมอเตอร์ไซค์ไปตลาดเอง ?
อ้อย : ตอนอยู่บ้านพี่เต่า เขาก็บอกว่าแม่หาย ๆ สรุปนั่งมอเตอร์ไซค์ไปตลาดเอง ส่วนประสบการณ์ตัวพี่เอง ไปตลาด ล็อกรถเสร็จ แม่อย่าไปไหนนะจ๊ะ อยู่ตรงนี้หนูวิ่งไปเดี๋ยวเดียว ห้ามไปไหนเด็ดขาด พี่ก็วิ่งไปซื้อน้ำมันมะพร้าวเสร็จกลับมาที่รถ คุณมารศรีหาย พี่วิ่งทั่วตลาดเลย ปรากฏว่าเดินไปหน้าห้องน้ำ เขาเดินยิ้มออกมาเดินดูโน่นดูนี่ ไม่ได้สนใจใครเลยว่าฉันจะเป็นลมแค่ไหน
อายุเท่าไหร่ตอนนั้น ?
อ้อย : เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว
คุณแม่อยู่บ้านดื้อไหม ?
อ้อย : ดื้อค่ะ เนื่องด้วยแข็งแรง ไม่ชอบให้ใครอาบน้ำให้ ซึ่งพี่บอกว่าไม่ได้ มีเด็กดูแลเขาสองคนผลัดกัน ถ้าพี่อยู่บ้านจะอาบน้ำให้เขา เขาบอกว่าไม่ชอบให้ใครมาอาบน้ำให้
คุณแม่ : ก็นี่ชอบแก้ผ้าฉันไปอาบน้ำ อาบน้ำทีไรต้องดุทุกที ฉันจะอาบเองก็ตามมาจะอาบให้
เห็นว่าคุณแม่สนิทกับหลาน ลูกชายของพี่อ้อย ?
คุณแม่ : เขามาทีไรก็ซื้อขนมให้ยายบนเตียงแล้วก็มาจูบฉันแล้วก็ไป ชอบหมดแหละที่เป็นขนม
แล้วน้ำตาลในเลือดแม่มีปัญหาไหม ?
อ้อย : ไม่มีเลย เช็กทุกอย่าง ทุกเดือน เพราะคุณแม่เขาติดออกกำลังกาย เขาติดเป็นนิสัยแล้ว บางทีตีสามลุกขึ้นมาออกกำลังกาย
พี่อ้อยคิดว่าความรักเป็นเกราะป้องกันอะไรได้บ้างในชีวิต ?
อ้อย : คนเราถ้ามีความรักไม่ว่าจะครอบครัวหรืออะไรก็ตาม ถ้าเรามีความรักเราจะมีความสุข
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.35-14.35 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama