เป็นประเด็นที่หลายคนสงสัยและให้ความสนใจ สำหรับข่าวเลิกราระหว่าง เอ พศิน กับภรรยาสาว แตงกวา ที่ประกาศหย่ากันแล้ว ขณะที่มีรูปของเอกับสาวใหม่ออกมา จนคนจับตาว่าเป็นมือที่สามหรือเปล่า ทำให้มีดราม่าตามมาเป็นระยะ
ล่าสุด (21 ตุลาคม 2562) ทางรายการ คุยแซ่บโชว์ ก็ได้พา เอ พศิน กับ แตงกวา มาเผชิญหน้ากันออกสื่อครั้งแรก เพื่อถามไถ่เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเป็นการวิดีโอคอลคุยกับเอ ขณะที่แตงกวามาเป็นแขกรับเชิญในรายการ
- เอ พศิน เผยว่า สาเหตุหลักของการหย่า เป็นเรื่องความสอดคล้องด้านทัศนคติ น้องเขามีความสามารถมากมาย ถ้าเป็นแม่บ้านอย่างเดียวเขาทำไม่ได้ ช่วงแรกก็ให้แม่ยายมาช่วยดู แต่ก็ไม่เท่ากับที่เขาดูแลเอง เพราะเขาเป็นแม่ที่ดี ดูแลลูกได้ดีมาก เวลาเขามีทางเลือกในความก้าวหน้า อาจจะมากกว่าตนด้วยซ้ำ เราก็ตกลงกันว่า เราควรมีอิสระในการเดินทางไปไหน ถ้าติดสถานะความเป็นครอบครัว บางอย่างทำยาก
- ที่ผ่านมามีปรับจูนกันตลอดเวลา ไม่เคยทะเลาะกัน ทุกอย่างมีการพูดคุยตกลงกัน การหย่าเป็นข้อสรุปร่วมกัน
- เรื่องหย่าแก้เคล็ดเป็นความคิดของตนเอง ใจตนอยากจะแข็งแรงเพื่อดูแลทุกคนโดยที่เขาไม่ต้องทำงาน แต่ถ้าตนแกร่งไม่พอ ฐานะมั่นคงไม่พอ ก็ต้องปล่อยให้เขาแสดงความสามารถ เขาอาจทำได้ดีกว่าตนก็ได้ เลยสื่อแบบนั้นออกไป
- เรื่องสาวใหม่ที่โดนมองเป็นมือที่สาม เป็นความเข้าใจผิด หลังจากเราแยกทางกันด้วยดี ต่างคนต่างก็มีอิสระในการคบหา ดูใจกับคนที่เข้ามาในชีวิต ก็มีคุยปรึกษาเรื่องนี้กัน เขาก็เข้ามาตอนที่เราหย่ากันไปนานแล้ว ยืนยันว่าไม่เคยนอกใจภรรยา ตลอดการคบหากันมา 5 ปี
- แตงกวา ยืนยันอีกเสียงว่า ผู้หญิงคนดังกล่าวไม่เกี่ยว ไม่ได้เป็นมือที่สาม เพราะเราเลิกกันแล้ว พี่เอมีสิทธิ์ มันก็เรื่องของเขาแล้ว ก็เคยถามเขาว่ามีคนคุยหรือเปล่า แต่ไม่ได้ถามรายละเอียด
- หลังจากมีรูปหลุด เอกับแตงกวาก็มีคุยกันเรื่องนี้แล้ว ทางเอก็รู้สึกผิดมากที่ทางคนใหม่ถูกโจมตีอย่างหนัก
- พอมีข่าวแตงกวาก็รู้สึกเป็นห่วงพี่เอ แต่เราก็คุยกันตลอด ปรึกษากันว่าเป็นไงบ้าง ก็อยากให้โซเชียลเข้าใจ ยืนยันว่าพี่เอไม่ได้ไปมีใครก่อนที่จะเลิกกัน คือเราเลิกกันก่อนแล้ว นอกเหนือจากนั้นก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่เราก็ยังดูแลในความรู้สึก ในความที่เขาเป็นพ่อของลูก
- การที่เอมีคนใหม่ ไม่ได้คิดว่าเร็วหรือช้าไป อยู่ที่สถานการณ์และจิตใจของแต่ละคน แต่เราเลิกกันด้วยดี มันก็คือโอกาสของเขา ตนยังคงเป็นแม่ แต่ไม่ได้มีหน้าที่เป็นภรรยา
- เรื่องการหย่ากัน เราไม่เคยทะเลาะกัน เราคุยกันดี ๆ เหมือนพี่ชายกับน้องสาวปรึกษากัน
- ตอนนี้คนเลี้ยงลูกคือแตงกวา เพราะรู้ใจและอยู่กับลูกมากกว่า
- เรื่องหย่า มองว่าไม่ต้องบอก เพราะลูกก็ไม่ได้ขาดพ่อขาดแม่ พี่เอก็ยังดูแลเหมือนเดิม เราให้ความรักลูกได้เต็มที่เหมือนเดิม เรื่องค่าเลี้ยงดูลูกก็ช่วย ๆ กัน
- เออยากบอกแตงกวาว่า ก็ยังมีความเป็นห่วงอยู่เสมอ เราเคยเป็นครอบครัว ตอนนี้ก็เป็นพ่อกับแม่ของลูก ความรักมันไม่เคยเปลี่ยน แต่สถานะทางสังคมก็เปลี่ยนไปได้อยู่แล้ว เราเป็นกัลยาณมิตร ยังทำบุญร่วมกัน
- แตงกวาบอกเอว่า ก็ยังรักและเป็นห่วงเหมือนเดิม ป๊าเป็นคนในครอบครัว มีอะไรก็ปรึกษากันได้ตลอด
- สาเหตุที่เลิกกัน แตงกวาบอกว่า เป็นเรื่องของทัศนคติ และอะไรหลาย ๆ อย่าง ไม่ได้ทะเลาะ ด้วยอายุตนยังน้อย การศึกษาดูใจกันน้อยเกินไป พออยู่ด้วยกันก็มีสิ่งที่ไม่ตรงกันบ้าง เช่น เรื่องการมองอนาคตข้างหน้าของครอบครัว อย่างเขามองเรื่องการแสดง ส่วนตนมองไกลไปมากกว่านั้น ตนก็ไปทางธุรกิจมากกว่า แต่หลัก ๆ เพราะเราดูใจกันน้อยไป
- พอตนทำงาน เราก็อยู่กันเหมือนเป็นเพื่อน การทำหน้าที่ภรรยาก็น้อยลง เช่น การดูแลเอาใจใส่สามี หวานกันน้อยลง แทบไม่ได้พูดเรื่องนี้กันเลย แต่รู้ว่าความรักมันจางลง เพราะมีเรื่องให้ต้องคิดมากกว่านั้น มีเรื่องงาน เรื่องเงินด้วย ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องบนเตียง
- ตอนเลิกกันจริง ๆ ความหวานลดน้อยลง แต่เราก็อยู่เป็นเพื่อน เป็นพ่อ-แม่ของลูก ทุกวันนี้เลิกกันก็ยังดูแล เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
- ตอนหย่ากันคือเรื่องงานกับธุรกิจไม่ดี เลยคุยกันว่าไปหย่ากันไหม หลังจากหย่าก็งานเข้ารัว ๆ ชีวิตการงานดีขึ้น ก่อนหย่าเราก็เป็นเพื่อนกันมานานแล้ว ตอนนั้นก็รู้กันทั้งคู่ว่ามันจะต้องเลิก
- ไม่ต้องทำใจ ตนไม่ได้ฝังใจกับอะไรแบบนี้ มันไร้สาระ มองไปที่อนาคตว่าจะทำยังไงให้เรามีเงินมาเลี้ยงลูกเราได้
- ตอนที่บอกว่าหย่าแก้เคล็ด เราก็แยกกันอยู่ แยกห้องกันแล้ว แต่ยังไปมาหาสู่กันเพื่อดูแลลูก
- รู้สึกเฉย ๆ ตอนเห็นภาพเขากับผู้หญิงคนอื่น มองว่าเป็นสิทธิ์ของเขาที่จะเปิด แต่มันพลาดที่เราไม่ได้เคลียร์ชัดเจนในโซเชียล แต่คนรอบข้างรู้อยู่แล้ว