เป็นกระแสร้อนระอุ หลังจาก หนิง ปณิตา โพสต์แฉตำรวจ เพราะเชื่อว่ามีพฤติกรรมหวังเรียกรับเงิน แต่คดีพลิก กลายเป็นเจ้าตัวทำผิดเต็ม ๆ ทั้ง ใช้รถหรูสวมทะเบียน - ไม่เสียภาษี - ไม่พกใบขับขี่ แถมชาวเน็ตชี้เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อีก 1 กระทง กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก [อ่านข่าว : หนิง ปณิตา อ่วม ! จ่อโดน 4 ข้อหา หลังโพสต์แฉตำรวจ แต่สุดท้ายกลับเงิบแรง]
ล่าสุด วันที่ 22 ตุลาคม 2562 ผู้สื่อข่าวไนน์เอนเตอร์เทน มีโอกาสเจอสาวหนิง ก็ขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าสุดท้ายแล้ว หนิง ปณิตา จะเคลื่อนไหวยังไงต่อหลังจากนี้
ทั้งนี้ หนิง เผยว่า ปกติตัวเองไม่ได้ขับรถเองมานานแล้วตั้งแต่เกิดเหตุรถคว่ำ แต่วันนั้นต้องเอารถเข้าฉาก ต้องขับเอง โดยมีคนขับรถ ขับรถอีกคันตามมา ช่วงเกิดเหตุ ตนขับรถผิดเลน พอเจอตำรวจ ตำรวจก็ถามว่ามีใบขับขี่ไหม แต่ใบขับขี่อยู่ในรถอีกคัน ตอนนั้นขับรถตัวเปล่า ส่วนคนขับรถที่ขับอีกคัน ติดไฟแดงมาไม่ทัน เลยบอกให้ตำรวจเขียนใบสั่ง ตนยอมรับว่าผิดเต็ม ๆ ไม่แก้ตัว
อย่างไรก็ตาม ตำรวจเดินไปเดินมา ถามนู่นถามนี่ ถามว่าตนเป็นเจ้าของรถหรือเปล่า มีเล่มทะเบียนไหม ก็เจอว่าไม่ได้ต่อภาษี ซึ่งจริง ๆ แล้วมีเอกสารต่อภาษี แต่ป้ายวงกลมหาย เลยไม่ได้ติดป้ายที่ตัวรถ จะให้ตำรวจดู แต่ตำรวจบอกว่า โดนข้อหาไม่ต่อภาษีด้วย ตนทำผิด ตนก็ต้องยอมรับผิด ยิ่งเป็นดาราก็ต้องเคารพกฎของสังคม ตนยืนยันว่าไม่ได้ด่าตำรวจทุกคน เขียนชัดเจนแล้วว่าตำรวจดี ๆ ก็มี
ตอนนั้นตนไม่มีอารมณ์โมโห หรือมีน้ำเสียงไม่ดี ตอนนั้นจะช่วยตำรวจแก้ใบสั่งด้วยซ้ำ เพราะตำรวจใส่ถุงมือ ดูเหมือนแกะไม่ได้ และก็บอกว่าขอโทษที่ทำให้เสียเวลา มีอย่างเดียวที่ตนไม่พอใจคือ ตำรวจเดินวนไปวนมา ไม่ยอมเขียนใบสั่ง ตนรู้ว่าตำรวจมีสิทธิ์เดินสำรวจรถได้ แต่ตนคิดว่า ตำรวจดึงเวลาตรงนั้นนานไป ใช้ชีวิตบนท้องถนนมา 20 ปี ตนเจอประสบการณ์มาเยอะ เหมือนตำรวจดึงเวลาเกินไป ใช้เวลาเกือบ ๆ 10 นาที
อย่างไรก็ตาม ตอนนั้นตนยอมรับผิดทุกอย่าง ไม่มีแก้ตัว แต่ตำรวจถาม จะไปไหน รถของตนไหม ทำไมมาคนเดียว ตอนนั้นตนรีบ ก็แค่เขียนใบสั่งก็จบ
ส่วนเรื่องการเรียกเงินนั้น ตำรวจไม่มีพฤติการณ์เรียกรับเงิน แต่จากประสบการณ์ จากคนอื่นก็อาจจะบอกว่า ช่วยหน่อย แต่ตนไม่ทำ ส่วนเรื่องพบตำรวจ ตนไม่ทราบว่าจะต้องเข้าพบตำรวจหรือเปล่า ถ้าตำรวจอยากให้ไปคุยก็ยินดี แต่อยากถามว่า เรื่องมันขนาดนั้นเลยเหรอ ต้องให้ปากคำอย่างกับไปฆ่าคนตาย แต่ถ้าต้องการ ก็ยินดีให้ความร่วมมือ ตนตั้งใจแล้วว่าจะไปจ่ายค่าปรับ และเอาหลักฐานการต่อทะเบียนไปให้ดู
ส่วนกระแสในอินเทอร์เน็ต ตนไม่รู้เลยว่ามีกระแสอะไร เพราะทำงานหน้ากองถ่ายอย่างเดียว ไม่ได้แต่งตัวสวยไปวัน ๆ
สุดท้าย หนิงบอกว่า ตั้งแต่บวชมา เรื่องความใจร้อนตนเบาลง ยืนยันว่าเรื่องนี้ตนผิด แต่ถ้าไม่ผิดตนจะพูด
ต่อมา รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 ได้โฟนอิน สอบถามสาวหนิงเพิ่มเติม
- สถานการณ์ที่โพสต์ตอนนั้น ตำรวจทำให้ตนคิดเป็นอื่น เพราะยอมรับผิดแล้ว ทำไมเขียนใบสั่งให้ช้าจัง
- ยอมรับ ไม่ได้คิดถึงข้อนี้ว่าบางคนอาจจะไม่รู้จักรถยี่ห้อมาเซราติ
- ยัน ตำรวจไม่ได้เรียกเงิน ตำรวจไม่ได้พูด แต่ ณ สถานการณ์ตรงนั้น ถ้าใครเจอแบบที่ตนเจอก็อาจจะคิดแบบนั้นได้ เป็นความคิดส่วนตัวของตน
- ซื้อมาเซราติ ต่อมาจากคนรู้จัก จริง ๆ เจ้าของเก่าต้องเอาทะเบียนรถคันนี้คืนแล้ว ตอนนี้ขั้นตอนคือรอรับเลขทะเบียนใหม่อยู่ อันนี้เป็นความผิดพลาดที่เอาเลขรถที่ไม่ได้ใช้มาใส่ไปก่อน ตอนนี้ตรวจสอบได้ ไม่ใช่รถผิดกฎหมาย แต่อยู่ในขั้นตอนรอสลับเลข
- ยอมรับ ใจร้อนไปเอง คิดเร็วทำเร็ว เพราะสถานการณ์นั้นทำให้คิดไปแบบนั้น ที่ตำรวจเขียนใบสั่งช้าก็อาจจะเพราะการทำงานที่รอบคอบของเขา
- ไม่ได้โกรธใครเลยที่วิพากษ์วิจารณ์ตน ใครด่า ก็ยินดีรับฟัง ใครด่า ก็คือกระจกสะท้อนให้เราปรับปรุงตัว
- ยันจ่ายค่าปรับแล้ว แต่ตำรวจแถลงข่าวออกมาเหมือนตนยังไม่จ่าย
- ตอนแรกคิดว่าจะลบโพสต์ แต่คนแชร์กันไปเยอะแล้ว ลบไปคนก็จะมาด่าอีก แต่ถ้าอยากให้ลบ ก็ลบได้