วิธีดูแลผิวแพ้ง่าย เป็นสิว สำหรับสาวคนไหนที่ต้องเผชิญกับปัญหาผิวบอบบาง แพ้ง่าย มาดูสาเหตุที่แท้จริง พร้อมเคล็ดลับการดูแลผิวแพ้ง่ายกัน
ผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin) คือภาวะที่ผิวมีความไวต่อปัจจัยกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด สารกันแดด เนื้อผ้าที่สวมใส่บางชนิด น้ำ หรือแม้กระทั่งสภาพอากาศที่แห้งและเย็น
คราวนี้จะฟื้นฟูให้ผิวบอบบาง แพ้ง่าย กลับมาแข็งแรงขึ้นได้อย่างไร เรามาทำความเข้าใจถึงอาการ สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง ตลอดจนวิธีดูแลผิวแพ้ง่าย เป็นสิว กันเลย
โดยปกติแล้วผิวแพ้ง่ายมักจะแสดงตัวออกมาอย่างชัดเจน เราจึงสามารถสังเกตได้ง่ายตามอาการที่เกิดขึ้นต่อไปนี้
- ผิวขึ้นผื่น คัน เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้บ่อย เมื่อผิวปราศจากเกราะป้องกันที่แข็งแรงมากพอ จึงก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย
- ผิวแดงเมื่อสัมผัสสิ่งกระตุ้น ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด ฝุ่น ลม หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ก็สามารถก่อให้เกิดอาการผิวหน้าแพ้ง่ายได้ และมักจะมีตุ่มเล้ก ๆ ขึ้นที่บริเวณแก้ม จมูก และคาง
- ผิวไหม้และแสบ เมื่อผิวมีลักษณะที่บอบบางกว่าปกติจะส่งผลให้ผิวไวต่อสารเคมีและเกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย ในบางรายจะมีอาการผิวพุพองและรู้สึกแสบมากกว่าอาการอื่น ๆ ทั่วไป
- ผิวลอกเป็นขุย อันเนื่องมาจากผิวแห้งกร้านและขาดความชุ่มชื้น หรือเกิดขึ้นในผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทสารเร่งผลัดเซลล์ผิวเป็นระยะเวลานาน ๆ
ทั้งนี้ ผิวแพ้ง่ายสามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกาย ตั้งแต่ผิวหน้า ริมฝีปาก ผิวกาย และหนังศีรษะ หรือในช่วงที่ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงมากๆ เช่น ขณะตั้งครรภ์ หรือเมื่ออายุมากขึ้น
สาเหตุและปัจจัยกระตุ้นให้ผิวแพ้ง่าย
1. ปัจจัยภายใน
ผิวหนังชั้นบนของเรามีกลไกปกป้องผิวตามธรรมชาติ รวมถึงช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น แต่ถ้ากระบวนการทำงานของเอนไซม์ผิดปกติจะทำให้เกราะป้องกันผิวไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ผิวหนังจึงบอบบาง อ่อนแอ สูญเสียน้ำและเปิดโอกาสให้ปัจจัยภายนอกเข้ามาทำร้ายผิวได้
นอกจากนั้น อายุและกรรมพันธุ์ก็มีส่วน เช่น ผิวของเด็กจะบอบบางและไวต่อสารเคมีมากกว่า ขณะที่ผิวที่มีอายุมากขึ้น โครงสร้างผิวจะอ่อนแอลง ทำให้ผิวบอบบางและเกิดปัญหาผิวแพ้ง่ายได้
2. ปัจจัยภายนอก
- สภาพอากาศ อากาศร้อน อากาศเย็น การอาบน้ำร้อน และสภาพอากาศที่แห้ง ล้วนเป็นตัวกระตุ้นให้ให้เกิดภาวะผิวแห้งหรือผิวขาดน้ำ ผิวอาจจะแตก ผื่นเกิดการเห่อรุนแรงขึ้นได้ และที่สำคัญคืออาจจะทำให้ผิวแพ้ง่ายได้
- การรักษาบางประเภท เช่น เรดิโอเธราปี และ ยาปฏิชีวนะ อาจทำให้ผิวมีความเซนซิทิฟและทำลายแบคทีเรียที่สำคัญออกมากเกินไป
- สิ่งแวดล้อม มลภาวะเป็นพิษต่าง ๆ และสิ่งสกปรกทั้งหลาย ก็ส่งผลกระทบต่อผิวของเราได้
- การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่เหมาะสม อาจมีส่วนผสมของสารที่ทำให้ผิวแห้งตึงจนเกินไป ซึ่งเสี่ยงต่ออาการระคายเคืองและสามารถต่อยอดเป็นอาการแพ้ที่รุนแรงขึ้นได้
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด และความวิตกกังวล ทำให้ผิวอ่อนแอลงได้เช่นกัน
1. ปัจจัยภายใน
ผิวหนังชั้นบนของเรามีกลไกปกป้องผิวตามธรรมชาติ รวมถึงช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น แต่ถ้ากระบวนการทำงานของเอนไซม์ผิดปกติจะทำให้เกราะป้องกันผิวไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ผิวหนังจึงบอบบาง อ่อนแอ สูญเสียน้ำและเปิดโอกาสให้ปัจจัยภายนอกเข้ามาทำร้ายผิวได้
นอกจากนั้น อายุและกรรมพันธุ์ก็มีส่วน เช่น ผิวของเด็กจะบอบบางและไวต่อสารเคมีมากกว่า ขณะที่ผิวที่มีอายุมากขึ้น โครงสร้างผิวจะอ่อนแอลง ทำให้ผิวบอบบางและเกิดปัญหาผิวแพ้ง่ายได้
2. ปัจจัยภายนอก
- สภาพอากาศ อากาศร้อน อากาศเย็น การอาบน้ำร้อน และสภาพอากาศที่แห้ง ล้วนเป็นตัวกระตุ้นให้ให้เกิดภาวะผิวแห้งหรือผิวขาดน้ำ ผิวอาจจะแตก ผื่นเกิดการเห่อรุนแรงขึ้นได้ และที่สำคัญคืออาจจะทำให้ผิวแพ้ง่ายได้
- การรักษาบางประเภท เช่น เรดิโอเธราปี และ ยาปฏิชีวนะ อาจทำให้ผิวมีความเซนซิทิฟและทำลายแบคทีเรียที่สำคัญออกมากเกินไป
- สิ่งแวดล้อม มลภาวะเป็นพิษต่าง ๆ และสิ่งสกปรกทั้งหลาย ก็ส่งผลกระทบต่อผิวของเราได้
- การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่เหมาะสม อาจมีส่วนผสมของสารที่ทำให้ผิวแห้งตึงจนเกินไป ซึ่งเสี่ยงต่ออาการระคายเคืองและสามารถต่อยอดเป็นอาการแพ้ที่รุนแรงขึ้นได้
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด และความวิตกกังวล ทำให้ผิวอ่อนแอลงได้เช่นกัน
รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้ผิวแพ้ง่ายกันไปแล้ว สำหรับปัจจัยภายในนั้นอาจเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ แต่สาว ๆ สามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยภายนอกต่าง ๆ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการได้ เรามีวิธีง่าย ๆ มาฝาก
1. รักษาความสะอาดอยู่เสมอ
ไม่ว่าจะเป็นความสะอาดของผิวที่ต้องทำเช็ดล้างเครื่องสำอางและสิ่งตกค้างให้หมดในทุก ๆ วัน รวมถึงความสะอาดของเครื่องใช้ส่วนตัว เช่น ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดตัว หรือแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือ เพราะสิ่งเหล่านี้มีโอกาสสัมผัสกับผิวหน้าของเรา ถ้าสกปรกก็อาจทำให้เกิดผื่นคันหรือสิวได้ทั้งนั้น
2. ล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ
ไม่ควรใช้น้ำร้อน เพราะจะทำให้ความมันสมดุลของผิวถูกชะล้างออกมากเกินไป และไม่ควรล้างหน้าบ่อย ๆ แบ่งเป็น 2 ครั้งต่อวัน เช้า-เย็นก็เพียงพอแล้ว
3. หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเช็ดหน้าแรง ๆ
หลังล้างหน้าทุกครั้งควรเช็ดและซับหน้าอย่างเบามือ และห้ามไปแคะ แกะ บีบ เกา เพราะจะเป็นการกระตุ้นผิวหนังให้ระคายเคืองได้
สาวผิวแพ้ง่ายควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า และครีมบำรุงผิวที่ได้รับการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังแล้วว่าอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม สารแต่งสีและกลิ่น สารกันเสีย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการระคายเคือง
5. ป้องกันความแห้งของผิว
แนะนำให้ใช้ครีมหรือโลชั่นบำรุงผิวที่มีความอ่อนโยนกับผิวแพ้ง่าย หรือในกรณีที่ผิวมีความแห้งมาก อาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเป็นน้ำมันเคลือบผิว โดยใช้หลังการอาบน้ำและซับผิวแล้ว ภายในระยะเวลา 3-5 นาที เพื่อให้เกิดการปกคลุมผิวในช่วงที่ผิวยังชุ่มชื้นอยู่
6. หยุดรบกวนผิวหน้า
ไม่ว่าจะเป็นการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีเม็ดสครับ ขัดผิว ลอกผิว พอกผิว กรอผิว รวมถึงการทำเลเซอร์ผิวหน้า เนื่องจากจะกระตุ้นให้ผิวหน้าแพ้ง่ายมีอาการระคายเคืองมากขึ้น
ในช่วงที่เป็นสิวหรือมีอาการแพ้ระคายเคือง คุณสาว ๆ ควรงดแต่งหน้าสักพัก เพื่อให้ผิวหน้าได้พักและเร่งการฟื้นฟูได้ดียิ่งขึ้น
8. อย่าลืมทาครีมกันแดด
รังสียูวีสามารถกระตุ้นให้ผิวอักเสบได้ง่ายยิ่งขึ้น แถมยังเป็นสาเหตุหนึ่งของสิวผดด้วย ดังนั้นจึงต้องทาครีมกันแดดเสมอ แต่ว่าต้องเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายด้วยนะ
9. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เสริมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซี หากลดแป้งได้ก็จะช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้น รวมถึงควรพักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้สดชื่นแจ่มใส ไม่เครียด
ขอบคุณข้อมูลจาก : pharmacy.mahidol.ac.th, healthtodaythailand.in.th