เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คลิปรายการตีสิบ
เป็นเวลา 2-3 ปีแล้ว ที่เราไม่ได้หัวเราะไปกับฝีมือการแสดงของ สีหนุ่ม เชิญยิ้ม หรือ บุญธรรม ฮวดกระโทก หลังจากที่เขาล้มป่วยเส้นเลือดใหญ่ในสมองแตก จนเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัว ล่าสุด ทางรายการตีสิบ ได้พาไปอัพเดทอาการของตลกแถวหน้าของประเทศคนนี้ ที่บ้านพักตากอากาศในจังหวัดเชียงราย พร้อม ๆ กับพา เจี๊ยบ เชิญยิ้ม ไปเซอร์ไพรส์คุณพ่อของเขาด้วย
และภาพความประทับใจของ 2 พ่อลูก ก็ทำให้ผู้ชมจำนวนมากต้องหลั่งน้ำตา เมื่อ เจี๊ยบ เชิญยิ้ม ตรงเข้าไปกราบบนตักของ สีหนุ่ม เชิญยิ้ม และผู้เป็นพ่อที่ยังพูดไม่ค่อยถนัดและชัดนัก แต่ก็พยายามเปล่งเสียงทักทายลูกว่า "เจี๊ยบ ลูกพ่อ... พ่อคิดถึงลูก" ความตื้นตัน ความคิดถึงที่ไม่ได้เจอหน้ากันในช่วง 2-3 เดือนมานี้ ทำให้ เจี๊ยบ เชิญยิ้ม น้ำตาเอ่อ เขาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนจะหอมแก้ม และชื่นชมพัฒนาการที่ดีขึ้นของคุณพ่อ
ทั้งนี้ เจี๊ยบ เชิญยิ้ม และคุณแม่ เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในวันที่ สีหนุ่ม เชิญยิ้ม เส้นเลือดใหญ่ในสมองแตก ขณะถ่ายทำละครซิทคอม "บางรักซอย 9" วินาทีนั้น พวกเขามีความหวังริบหรี่เพียง 10% โดยคุณหมอ ระบุว่า ต้องทำการผ่าตัดด่วน และการผ่าตัดครั้งนี้ หากผู้ป่วยรอดชีวิตมาได้ก็จะมีผลลัพธ์ 3 แนวทางคือ หนึ่ง อาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกสักระยะสั้น ๆ สอง อาจจะเป็นเจ้าชายนิทรา และหากโชคดีสุด ๆ ก็อาจจะกลับมาจำได้เหมือนเดิม แต่จะเป็นอัมพฤกษ์ชั่วขณะ
ไม่รู้ว่าเป็นความโชคดี หรืออาจเป็นเพราะบุญเก่าที่ทำมา สีหนุ่ม เชิญยิ้ม สามารถรอดชีวิตมาได้ ชนิดที่หมอยังยกให้เป็นกรณี 1 ในล้าน เพราะนอกจากจะผ่านเส้นแบ่งความตายมาแล้ว ผลการผ่าตัดยังออกมาในแนวทางที่สาม คือ ยังคงจำได้เหมือนเดิม แต่เป็นอัมพฤกษ์ชั่วขณะ ซึ่งนับว่าเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการรักษาแล้ว ทำให้ความหวังที่จะได้คุณพ่อสีหนุ่มคนเดิมกลับมา เริ่มมีหนทางอยู่รำไร
ห้วงเวลาแห่งความเสียใจอันเป็นผลมาจากความเจ็บไข้ของหัวหน้าครอบครัวเกิดขึ้นไม่นานนัก ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นแรงฮึดสู้ และหล่อหลอมพลังใจจากคนทั้งบ้านให้เป็นหนึ่งเดียว สมาชิกทุกคนต่างช่วยกันดูแล สีหนุ่ม เชิญยิ้ม เป็นอย่างดี คอยเอาใจใส่ในทุก ๆ เรื่อง ซึ่งผู้เป็นภรรยา เผยว่า มีการตั้งเวลาในการเปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จรูป และคอยพลิกตัวสามี เพื่อไม่ให้เกิดแผลกดทับ และคอยทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอ จนสภาพกล้ามเนื้อดีขึ้นมากแล้ว
"จริง ๆ แล้วเราทำกายภาพบำบัดช้าไป เพราะตอนแรกที่เขาออกจากโรงพยาบาลมาใหม่ ๆ เราก็กลัวเขาจะเจ็บ อยากให้เขาพักก่อน แต่กลายเป็นว่า กล้ามเนื้อเขาจะฝ่อ เนื้อเริ่มเหลวแล้ว ตอนหลังก็เลยช่วยกันทำกายภาพบำบัด และฝังเข็มอย่างสม่ำเสมอ ยิ่ง 4 เดือนหลังที่มาอยู่ที่เชียงราย เขาดีขึ้นมากเลย" ภรรยา สีหนุ่ม เชิญยิ้ม กล่าว
ด้วยความเป็นคนอารมณ์ดี เคยมีอาชีพขายหัวเราะมาก่อน ในยามเจ็บป่วย สีหนุ่ม เชิญยิ้ม จึงไม่เคยแสดงอาการท้อแท้ออกมาให้เห็นเลยสักครั้ง แม้ว่าเขาจะถูกทดสอบกำลังใจจากภรรยาที่เคยถามเล่น ๆ ว่า หากเดินไม่ได้ขึ้นมาจริง ๆ แล้ว จะฆ่าตัวตายด้วยกันสองคนไหม แต่ สีหนุ่ม เชิญยิ้ม ก็ปฏิเสธเสียงแข็งว่า เขายังไม่อยากตาย... "ไม่เอา พ่อยังไม่อยากตาย พ่อเป็นห่วงลูก"
ขณะที่ เจี๊ยบ เชิญยิ้ม เล่าถึงอาการป่วยของพ่อสีหนุ่มว่า ในช่วงแรก ๆ ที่พ่อป่วย แม้จะยังลืมตาไม่ได้ แต่พ่อก็ยังต้องการจะสื่อสาร เขาจับปากกาเขียนหนังสือบอกลูกชายคนโตคนนี้ว่า "เจี๊ยบ อย่าทิ้งครอบครัวนะลูก" ซึ่งข้อความจากพ่อ ทำให้สังคมได้เห็นว่า เจี๊ยบ เชิญยิ้ม ยังคงทำตามคำขอของพ่ออย่างไม่เคยขาดตกบกพร่อง ชนิดที่พิธีกรอย่าง วิทวัส สุนทรวิเนตร์ ยังเอ่ยปากชื่นชมว่า ผู้ชายคนนี้ คืออภิชาตบุตร เป็นทั้งลูกที่ดี และสามีที่ดีด้วย
เจี๊ยบ เชิญยิ้ม บอกด้วยว่า จากการป่วยของพ่อ ทำให้เขารู้สึกถึงความสำคัญของการกอด เพราะก่อนหน้านี้เขากับพ่อไม่ค่อยได้กอดกัน ตามประสาพ่อกับลูกชายที่มักจะมีอาการเคอะเขิน แต่ทุกวันนี้ เขากอดพ่อบ่อยมาก และรู้สึกว่า การกอดเป็นกำลังใจที่ดีอย่างหนึ่ง และอะไรก็ตามที่เป็นกำลังใจ เป็นความอบอุ่นที่มอบให้แก่กันในครอบครัวตนก็จะทำทุกอย่าง
จะเห็นได้ว่า ความรักที่ส่งผ่านถึงกันภายในครอบครัว เปรียบเหมือนยารักษาอาการป่วยขนานเอก ที่ทำให้ สีหนุ่ม เชิญยิ้ม อาการดีขึ้นตามลำดับ แม้จะยังไม่กลับมาเป็นปกติ แต่เชื่อเหลือเกินว่า อีกไม่นาน เขาจะกลับมาเดินเหินและสร้างเสียงหัวเราะได้อีกครั้ง เพราะขนาดยังไม่หายดีก็ยังปล่อยมุกกลางรายการอยู่หลายครั้ง เรียกเสียงหัวเราะครืนทั้งรายการเลยทีเดียว
เจี๊ยบ : พ่อกับลุง โน้ต เชิญยิ้ม ใครหล่อกว่ากัน
สีหนุ่ม : พ่อหล่อกว่า
เจี๊ยบ : แล้วพ่อกับลุง เป็ด เชิญยิ้ม ใครหล่อกว่ากัน
สีหนุ่ม : พ่อหล่อกว่าเย๊อะ
ตีสิบ ความคืบหน้าอาการ สีหนุ่ม เชิญยิ้ม Part 1/3
ตีสิบ ความคืบหน้าอาการ สีหนุ่ม เชิญยิ้ม Part 2/3
|
ตีสิบ ความคืบหน้าอาการ สีหนุ่ม เชิญยิ้ม Part 3/3