อัปเดตอาการหน่อย เห็นว่าโดนแมลงกัดแล้วเป็นแบคทีเรียกินเนื้อคน เป็นยังไงบ้าง ?
ปาน : ดีขึ้นแล้วค่ะ เหลือรูแค่ไม้จิ้มลูกชิ้น ถามว่าโดนกัดที่ไหน คือมันมี 2 ที่ ที่จะเป็นไปได้ คือ งานวัดที่กาญจนบุรี อีกที่หนึ่งเป็นคลินิกเพื่อน แล้วพอจะจำราง ๆ ได้ว่าตัวเองปัด ๆ อะไรสักอย่าง แล้วก็พอตัดภาพมาอีกทีมันก็คันมาก มันไม่ได้คันเหมือนยุงกัดนะ มันคันแบบบาด ๆ เหมือนโดนหญ้าคาบาด เราก็เกา
ก่อนหน้านี้ก็เป็นข่าวใหญ่ที่ บอย ปกรณ์ - แจ็ค ไรเดอร์ ถูกแมลงกัดที่ญี่ปุ่น มันเป็นประเภทเดียวกันไหม ?
ปาน : เท่าที่ศึกษามีหลายประเภทมาก แต่ของพี่ พอคุณหมอได้ดูวงแผล คุณหมอคาดว่าเป็นกลุ่มพวกแมงมุม
พอพี่ปานโพสต์รูปปุ๊บ คุณบอย ปกรณ์ โทร. มาเลย ?
ปาน : ใช่ มันขู่สารพัด บอกว่าพี่ปาน พี่ต้องไปนะ พี่ดูของผมนะ ผมต้องตัดเนื้อ คว้านเนื้อ ต้องเอาไอนู่นมาแปะ อาการพี่คล้ายผมมาก พี่ต้องไปนะ ไม่งั้นพี่เป็นเหมือนผมแน่นอน เขาก็เป็นห่วง แล้วคุณหมอก็เป็นห่วง เพราะว่าเชื้อพวกนี้มันเข้ากระแสเลือดได้ เพราะมันเป็นเชื้อแบคทีเรีย
พอได้รับการบิวต์จากบอย พี่ปานไปหาหมอเลยไหม ?
ปาน : คือครั้งแรกไปหาก่อน พอเริ่มเกา มันเริ่มจากแค่เป็นตุ่มสิว ก็บีบเล่นใหญ่เลย แต่ทำไมมันเจ็บ เสร็จแล้วก็ไม่ได้สนใจ เดี๋ยวพอรุ่งขึ้นค่อยว่ากัน ก็เกา ๆ พอเช้ามาก็กลายเป็นเหรียญสิบ แล้วมันแข็ง จนพอบ่าย ๆ เป็นไข้ แต่ก็เริ่มใจไม่ดีก็ไปหาหมอ เขาก็บอกว่าติดเชื้อแน่นอน เพราะมันอักเสบมาก อัลตราซาวด์ออกมาข้างใต้มันบวมหมดแล้ว แล้วเป็นเนื้อที่พร้อมจะเป็นหนอง จริง ๆ เขาจะเอาตัวไว้ แต่มันไม่ได้เพราะเรามีงานสำคัญ ขอเวลา 3 วัน เขาก็บอกว่าจะแอนตี้แบคทีเรียให้ก่อน 2 เข็ม แล้วก็ทานยาอย่างเคร่งครัดนะคะ เราก็ทำงาน 3 วัน เสร็จแล้ววันที่ 5 เราก็เห็นมันนิ่ม ๆ ดี มันน่าจะหายแล้วนะ สุดท้ายก็ไปหาคุณหมอตอนเย็น เขาก็บอกว่าหนอง
นี่พวกเรามาถึงจุดที่โดนแมลงกัดแล้วต้องผ่าตัดแล้วเหรอ ?
ปาน : มันอยู่ที่ตัวเราด้วย พี่อยู่ในช่วงภูมิตกพอดี คือไม่ได้แข็งแรงพอ พอเราโดนกัดแล้วเราดันไปเกา แล้วที่เล็บเรานี่แหละมันจะมีแบคทีเรีย เราไม่ได้สะอาดพอ เราเกาอย่างเมามันแล้วผิวก็เลยเปิด พี่แบคทีเรียแกก็ลงไปเที่ยว แล้วพอไปหาหมอเขาก็ให้ทำเรื่องแอดมิต ผ่าเลย ไม่งั้นมันจะลามไปเรื่อย ๆ มันจะกินลึกไปเรื่อย ๆ
ในระหว่างที่ผ่าตัด หมอทำอะไรบ้าง หมอฉีดยาชา ?
ปาน : จริง ๆ ตอนที่เจ็บมาก ๆ คือฉีดยาชา มันจะฉีดเข้าไปในเส้นประสาท สักพักคุณหมอก็กรีดแล้วคว้าน แล้วตอนคว้านมันก็เจ็บมาก คุณหมอก็ฉีดเพิ่มให้อีกเข็ม
เห็นบอกว่าพี่ปานแพ้ผ้าก๊อซปิดแผล ?
ปาน : ใช่ แพ้ผ้าก๊อซทุกชนิด เพราะกาว ไม่ว่ากันน้ำ ไม่กันน้ำ มันทำให้คัน แล้วพอเราแกะออกมาก็กลายเป็นหนังลอกมาอีก ก็เจ็บเพิ่ม
ตอนนี้พี่ปานอยู่วงการมากี่ปีแล้ว ?
ปาน : น่าจะ 20 ปีพอดี ตอน ม.5 เริ่มจากการเป็นคอรัส แล้วร้องไกด์ให้ศิลปิน แล้วก็เพลงละคร จุดที่ทำให้เฮียเห็นตอนนั้นเป็นไกด์ให้โมเม เขาก็เรียกมาดูหน้าดูตากันหน่อย แล้วเฮียก็คิดอยู่ 3 วันว่าทำยังไงให้มันสวย แต่เฮียชอบเสียง
เห็นว่าพี่ปานมีข้อตกลงกับเฮียว่าอยากเป็นนักร้องแบบไม่ออกหน้า ?
ปาน : พี่ไม่ได้พูดกับเฮีย พี่พูดกับโปรดิวเซอร์ ว่าพี่ทำแบบนั้นได้ไหม ทุกคนก็ถามว่ามึงบ้าหรือเปล่า นี่มันยุคไหนแล้ว
เพราะอะไรถึงไม่อยากออกหน้า แค่คิดว่าตัวเองไม่สวยแค่นั้น ?
ปาน : คือพี่ไม่ค่อยอะไรกับงานเบื้องหน้ามาก ชอบอยู่เบื้องหลัง
ไม่เคยอ่านข่าวพี่ปาน เรื่องสถานะหัวใจ เหมือนแค่แวบ ๆ ว่าพี่มีแค่คนเดียว ?
ปาน : ใช่ ก็มีแฟนนะ ไม่ใช่ไม่มี ก็ผ่านเรื่องความรักปกติ
แฟนพี่ผู้หญิง ผู้ชาย ?
ปาน : ผู้ชายสิ เป็นคนนอกวงการ ไม่เคยมีแฟนในวงการ แต่ตอนนี้ไม่มี โสดสนิทเลยค่ะ คือคนบางคนเราเหมาะที่จะเป็นเพื่อนมากกว่า มีผู้ชายหลายคนที่มาพูดกับเราว่าเป็นเพื่อนดีมากเลย แต่เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนน่าคบ แต่ไม่น่าจีบ
หรือว่าในใจลึก ๆ เป็นเหมือนที่พี่ปานร้องเพลง ?
ปาน : ที่เกลียดผู้ชายอะเหรอ ไม่เกลียด ถ้าเกิดเราเกลียดเราจะมีแฟนทำไม
ทำไมช่วงนี้ถึงห่างหายเรื่องความรักไปเลย เข็ดเหรอ ?
ปาน : เปล่า เป็นคนไม่ได้ต่อต้านเรื่องความรัก ใครมีก็รู้สึกว่าดีมาก ๆ ใช้ให้เป็น โดยส่วนตัวไม่ได้ศรัทธาความรักขนาดนั้น
ที่พี่บอกว่าพี่ไม่ศรัทธาเรื่องความรัก จุดไหนที่บอกว่าไม่เชื่อ ?
ปาน : พี่มองว่าความรักมันเป็นอารมณ์ ยิ่งไปปฏิบัติธรรมยิ่งชัดเลย มันเห็น ครูบาอาจารย์ท่านสอนมา มันทำให้เราเห็นชัดมากขึ้นว่ามันเป็นแค่อารมณ์จริง ๆ ครูบาอาจารย์ท่านพูดเสมอว่าความรักมีจริงไหม เราก็เข้าใจว่ามันก็มีจริงสิ มันทำให้มนุษย์นู่น นี่ นั่น ท่านก็บอกว่าใช่ มันมีจริง แต่ว่ามันถาวรจีรังไหมล่ะ มันมีเท่าที่เรามีความพึงพอใจต่อกันเท่านั้นแหละ แต่เมื่อไรที่ความพอใจนั้นมันดับไป มันหมดไป มันเหลืออะไร โอเค มันเหลือความผูกพัน อีกอย่างที่ทำให้คนไปต่อได้มันก็คือความเมตตาต่อกัน
ถ้ามีคนมาจีบตอนนี้โอเคไหม ?
ปาน : พี่ก็คงคุยในลักษณะของเพื่อน ก็เป็นกัลยาณมิตรกัน ถ้าเขาคลิกในทางบุญ ทางกุศล ก็ชวนกันทำบุญไป คือพี่ไม่ได้ปิดกั้นเรื่องความรัก แต่เมื่อคนมันไม่มีก็คือไม่มี พอจิตมันไม่ได้โฟกัส พี่ก็คิดว่าเป็นเรื่องที่มันไกลตัวเราไปเองด้วย
เริ่มเห็นพี่ปานมาในทางธรรมะ ปฏิบัติธรรม ร้องเพลงธรรมะ มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไร ?
ปาน : จริง ๆ แล้วร้องเพลงธรรมะเนี่ย 8-9 ปี ที่ค่อย ๆ สร้างมาเรื่อย ๆ
ทำไมสนใจในทิศทางนี้อย่างชัดเจนมาก ๆ ?
ปาน : เป็นเพราะว่าเราสนใจเรื่องธรรมตั้งแต่เด็ก แต่เราไม่เคยลงลึกไปศึกษาจริง ๆ ว่ามันคืออะไร ก็โอเค ด้วยหน้าที่การงานเราเป็นอย่างนี้ แล้วเราก็จะอยู่กับทางโลกเยอะ แต่พอมีโอกาสได้ไปทำงานทางธรรมบ้าง เราก็สังเกตใจว่ามันก็มีความสุขอีกแบบหนึ่ง แล้วมันก็สงบดี
ช่วงที่ไม่มีงานพี่ปานก็ไปปฏิบัติธรรมที่โคราช ?
ปาน : ใช่ แต่พี่ก็ไม่ได้เรียกตัวเองว่าเป็นนักปฏิบัตินะ เพราะพี่ยังไม่ได้ปฏิบัติธรรมจริงจังว่าการที่เราไปอยู่ที่นั่นเราไปทำไม เขาเรียกว่าไปฝึกดัดแปลงตนก่อน ไปฝึกลด ละ อัตตาตัวเองก่อน ด้วยอารมณ์อะไร ก็คือด้วยการงานที่อยู่ในนั้น ฝึกใช้งานอบรมตัวเอง ทำทุกอย่างที่เขามีให้ทำ ไม่ว่าจะเป็นงานหนัก งานเบา ถางหญ้า ล้างห้องน้ำ ทำทุกอย่างเท่าที่ต้องทำ
บั้นปลายมีแววพี่จะบวชชีไหม ?
ปาน : บวชยังไม่ได้เป็นเรื่องที่คิดว่าจำเป็นต้องบวช เพราะการปฏิบัติแบบนี้ บางครั้งก็คิดว่าการที่ไม่บวชอาจจะสะดวกกว่า
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.30-14.30 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama