x close

ยุ้ย ปัทมวรรณ มั่นใจ แม่ทุม ปทุมวดี ยังรับรู้ ไม่ท้อ ไม่คิดยอมแพ้ เพราะแม่ก็ยังสู้

              ยุ้ย ปัทมวรรณ อัปเดตอาการป่วย แม่ทุม ปทุมวดี ถือว่าทรง ๆ มั่นใจคุณแม่ยังรับรู้ เมื่อพาหลานสาว น้องพริมมี่ ไปหา ลั่นคนที่เข้มแข็งสุดคือแม่ แม่ไม่ยอมแพ้เราก็ยอมไม่ได้

              เป็นนักสู้ทั้งคุณแม่และลูกเลยก็ว่าได้ สำหรับ ยุ้ย ปัทมวรรณ และคุณแม่ ทุม ปทุมวดี ซึ่งล่าสุด ยุ้ย ได้มาเปิดใจในรายการคุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี กิ๊ฟ วรรธนะ และ ใบเฟิร์น พัสกร เป็นพิธีกร หลังโพสต์ภาพจับมือคุณแม่ ปทุมวดี พร้อมอัปเดตอาการคุณแม่ หลังนอนป่วยรักษาตัวจากโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงมานานกว่า 7 ปี 

ภาพจาก รายการ คุยแซ่บShow

อาการคุณแม่ตอนนี้เป็นยังไง ?

            ยุ้ย : ก็ถือว่าทรง ๆ ถ้าไม่ได้ติดเชื้ออะไรเพิ่มเติมก็จะยังทรง ๆ อยู่ แต่ถ้าเมื่อไรที่มีติดเชื้อก็จะมีทรุดลงไป แต่ด้วยระยะของโรคที่คุณแม่เป็นมันก็ค่อนข้างนานมากแล้ว ก็อาจจะมีค่อย ๆ อ่อนแรงลงเรื่อย ๆ

แม่ทุมป่วยมานานเท่าไรแล้ว ?

            ยุ้ย : นานมาก เฉพาะตั้งแต่รู้ว่าเป็นโรค ALS ก็ 7 ปีแล้ว ก่อนหน้านั้นที่เรายังไม่ทราบอีก

ล่าสุดเห็นโพสต์รูปที่เป็นการจับมือเป็นมือของแม่ทุม เหตุการณ์นั้นเป็นยังไง ?

            ยุ้ย : คือจริง ๆ ยุ้ยโพสต์รูปจับมือคุณแม่บ่อย แต่ว่าวันนั้นเหมือนเป็นวันที่พาน้องพริมเข้าไป แล้วพริมมี่เขาไม่ค่อยได้เข้าไปหาคุณแม่ เพราะในไอซียูเขาไม่ค่อยให้เด็กเข้าไปเท่าไร พอพริมมี่เข้าไปเหมือนแม่ทำหน้าจะร้องไห้หลายรอบมาก เวลาน้องพริมพูดกับคุณแม่ก็เหมือนคุณแม่รับรู้ จากที่ทุกคนถามว่าคุณแม่ยังรับรู้ไหม เราก็มั่นใจว่าคุณแม่ยังรับรู้ แต่พอวันนั้นเรามั่นใจได้เลยว่าคุณแม่ยังรับรู้อยู่ แล้วก็ให้คุณแม่ดูรูปในโทรศัพท์ตอนที่น้องพริมเล็ก ๆ นั่งตักคุณแม่ คุณแม่เขาเห็นรูปแล้วเขาก็เหมือนมีปฏิกิริยา แล้วน้องพริมก็พูดอีกว่าตอนนี้น้องพริมโตแล้วนะคะ ตอนนี้น้องพริมอยู่นี่นะคะ

ภาพจาก Instagram rong_kao

ภาพจาก Instagram rong_kao

เราเป็นคุณแม่ด้วยแล้วก็เป็นคุณลูกของแม่ทุมด้วย เห็นภาพแล้วรู้สึกยังไง ?

            ยุ้ย : วันนั้นยุ้ยคือกลั้นมาก กลั้นแล้วรู้สึกว่า แม่ หนูอยากคุยกับแม่เยอะมาก คือถ้าแม่อยู่ที่บ้านเหมือนเดิม แข็งแรงเหมือนเดิม ช่วยกันเลี้ยงน้องพริม มันคงสนุกมากกว่านี้ ขนาดน้องพริมไม่ได้เจอคุณยายนานแล้ว น้องพริมก็ยังคิดถึงคุณยายอยู่ ปกติเวลาใครไปหาคุณแม่จะบอกทุกคนว่าอย่านำ เพราะว่าเราเก็บอยู่ข้างในไม่ค่อยอยากร้องไห้ให้แม่เห็น ครั้งนั้นก็คือกลั้นสุด ๆ

วันนั้นคุยอะไรกับคุณยายทุม หนูจำได้ไหม ?

            พริมมี่ : หนูจำได้แค่หนูบอกว่าหนูโตแล้วนะคะ คุณยายกลับมาเร็ว ๆ นะคะ

แล้วหนูเห็นอาการของคุณยายไหม คุณยายเขาเป็นยังไงบ้าง ?

            พริมมี่ : คุณยายยิ้มค่ะ

ดีใจไหมที่เห็นรอยยิ้มของคุณยาย ?

            พริมมี่ : ดีใจมากเลยค่ะ

ภาพจาก รายการ คุยแซ่บShow

ต้องถามย้อนไปว่าคุณแม่ป่วยเป็น ALS กล้ามเนื้ออ่อนแรง อาการของโรคเป็นยังไง ?

            ยุ้ย : จริง ๆ แล้วกล้ามเนื้ออ่อนแรงมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับระบบประสาทที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อ ซึ่งผู้ป่วยแต่ละคนจะมีอาการแสดงออกเริ่มต้นแตกต่างกันไป อาการก็จะค่อย ๆ อ่อนแรงลงไปเรื่อย ๆ คุณหมออธิบายว่าตรงนี้มันเป็นเซลล์ประสาทตัวแม่มันตายแล้ว เซลล์เล็กเซลล์น้อยมันก็ต้องตายตาม เหมือนโรงไฟฟ้าโรงใหญ่ที่ดับ ไฟดวงเล็กดวงน้อยสุดท้ายก็ต้องทยอยดับ

อาการแรกเริ่มของแม่ทุมก่อนไปพบคุณหมอส่งสัญญาณอะไรบ้าง ?

            ยุ้ย : คุณแม่ไม่ค่อยมีแรง คุณแม่จะอ่อนแรงขาแล้วก็จะเรียกคนนวดทั้งวัน ตอนนั้นลูก ๆ ก็ยังไม่เข้าใจว่าแม่ทำไมต้องเรียกเขานวดบ่อยขนาดนี้ คือข้างในแม่เขาคงจะอ่อนแรงมาก แล้วพอหนัก ๆ ก็จะเรื่องของการหายใจ

พอเรารู้ว่าคุณแม่ป่วยคนในบ้านรู้สึกยังไงกันบ้าง ?

            ยุ้ย : คือจริง ๆ ก่อนที่จะรู้ก็ป่วยมาตลอด เราคิดว่ามีแค่ไทรอยด์ เวลาไปรักษาไทรอยด์แล้วเหมือนมันไม่จบ มันมีอะไรอีก จนมาเจอว่าเป็นอันนี้ ได้คุยกับคุณหมอเขาก็อธิบายให้เข้าใจว่าโรคนี้มันเป็นยังไง ระยะเวลาโดยเฉลี่ยแล้ว 3-5 ปี เพราะว่าโรคนี้ไม่มีสาเหตุ ไม่มีทางรักษา วันนั้นเราฟังกับคุณพ่อแล้วรู้สึกว่าคือมันแย่มากในใจเรา แต่เรายังไม่ได้มาคุยเรื่องนี้กันต่อ เราก็ต้องทำให้คุณพ่อมีความสุขด้วย ก็ค่อย ๆ คิดค่อย ๆ หาทางกันต่อไป ยังโชคดีที่เรามีความเข้าใจกับโรคที่คุณแม่เป็นว่ามันจะเป็นแบบนี้นะ แล้วมันจะมีระยะเวลาอยู่เท่านี้ คุณหมอบอกว่าไม่มีการรักษา ต้องประคับประคอง

แม่ทุมเขามีโอกาสรู้ไหมว่าเขาเป็นโรคนี้ มีอาการแบบนี้ ?

            ยุ้ย : รู้ค่ะ เพราะตอนแรก ๆ คุณแม่ยังปกติ ยังคุยได้ แต่ด้วยความค่อย ๆ อ่อนแรงลงไป เริ่มหายใจเองไม่ได้ เริ่มขยับไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ขยับไม่ได้แล้ว ก็ได้แต่มอง ยิ้ม

คุณแม่ป่วยมา 7 ปีแล้ว คนในครอบครัวให้กำลังใจกันยังไง ?

            ยุ้ย : คืออย่างที่บอกว่าเรารู้อยู่แล้วว่าแต่ละคนหนักแค่ไหน ทุกคนก็ไม่อยากจะเอาเรื่องแย่ ๆ ออกมาพูดกัน แต่พยายามสร้างพลังบวกให้แก่กัน เพราะยุ้ยรู้สึกว่าทุกคนขาดพลังบวกมาก ๆ เพราะฉะนั้นอะไรที่สร้างได้ก็สร้าง

ภาพจาก รายการ คุยแซ่บShow

พ่อรองน่าจะเป็นคนที่ใกล้ชิดที่สุด เป็นยังไงบ้าง ?

            ยุ้ย : ตอนแรกคุณพ่อก็เป๋เหมือนกัน คือยังโชคดีที่มีน้องพริม คุณพ่ออยู่บ้านเดียวกับยุ้ย เวลาที่น้องพริมไม่อยู่บ้านคุณพ่อก็มีช่วงเหม่อ แต่พอน้องพริมมาก็ไม่มีเวลาเหม่อ เพราะว่าน้องพริมชอบเล่นกับคุณตามากจนคุณตานอน ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งกำลังใจ สำหรับยุ้ยมันค่อนข้างยากเหมือนกันในการที่จะทำทุกอย่างให้มันสมดุล เรามีเรื่องเครียดแต่เราก็ต้องสร้างความสุข คนนี้ (พริมมี่) เขาควรที่จะได้ความสุข คุณพ่ออีก บางทีมันก็ยากสำหรับเรา ถ้าเป็นเมื่อก่อนเหมือนคุณแม่จะเป็นคนบอกเราได้ทุกเรื่อง เรารู้สึกว่าเราอยากคุยกับแม่มาก

เคยเห็นคุณแม่นั่งเศร้าไหม ?

            พริมมี่ : หนูเคยเห็นคุณแม่นั่งเศร้า แล้วหนูก็ถามคุณแม่ว่าร้องไห้ทำไม แล้วแม่ก็บอกว่าแม่เหนื่อย หนูก็ไปกอดแม่

7 ปีผ่านไป ค่ารักษาน่าจะสูงพอสมควร ?

            ยุ้ย : เราได้ผ่านจุดที่มันหนักหนามากมาแล้ว เพราะก่อนที่จะ 7 ปี คุณแม่ก็ป่วยมาหลายปีเหมือนกัน แล้วอยู่โรงพยาบาลเอกชนค่อนข้างเยอะ ซึ่งมันก็หนักมาก แต่ไม่เคยคิดว่ามันเป็นจำนวนเท่าไหร่ ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาคิด เท่าไหร่ก็คือเท่านั้น จะต้องเสียอะไรยังไงเท่าไหร่ก็สร้างใหม่ แต่โชคดีที่พี่ชายสามารถเบิกได้

อาการแม่เรา 7 ปีแล้ว เคยบ้างไหมที่เรารู้สึกว่าท้อใจหรือยอมปล่อยให้มันเป็นไปตามที่ควรจะเป็น ?

            ยุ้ย : ไม่ค่ะ ไม่เคย เห็นว่าเราเข้มแข็งแค่ไหน คนที่เข้มแข็งสุดคือแม่ แม่ไม่ยอมแพ้ เราก็ยอมไม่ได้ จะยอมแพ้ได้ยังไง ทุกครั้งที่เราไปหาคุณแม่จนถึงวันที่โพสต์รูปคุณแม่ คุณแม่ยังอ้วนท้วน ขาวผ่อง คุณแม่ไม่ได้มีวี่แววจะไม่ไหวแล้ว เราก็เลยรู้สึกว่าคุณแม่ยังสู้ ยังยิ้มขนาดนี้ เราก็สู้ ถึงบอกว่าเวลาไปเยี่ยมพยายามอย่านำ เพราะไม่อยากให้ใครร้องไห้ให้คุณแม่เห็นเลย

7  ปีที่คุณแม่อยู่ในโรงพยาบาล แรก ๆ อาจจะสื่อสารได้บ้าง ตอนนี้ไม่ได้เลย เวลาเรามีความรู้สึกในใจหรือเรื่องอะไรเราบอกคุณแม่ยังไง ?

            ยุ้ย : ไม่บอกค่ะ คือไม่เอาเรื่องไม่สบายใจไปให้คุณแม่เลย ไปถึงก็ยิ้ม กอด หอม มีแต่พลังบวก คือยุ้ยเป็นคนเก็บแล้วอยู่คนเดียว ไม่ได้ร้องไห้บ่อยด้วย แต่บังเอิญวันนั้นรู้สึกว่ามันเหนื่อยมาก แล้วลูกก็เห็น คือจะไม่ค่อยร้องไห้ให้ใครเห็น น้อยมากจริง ๆ

ถ้าหนูโตขึ้นมาจะดูแลแม่ยังไง ?

           พริมมี่ : หนูจะดูแลคุณแม่เหมือนที่แม่ดูแลหนู

วันหนึ่งถ้าคุณแม่หายดีแล้วออกมาดูรายการย้อนหลังอยากจะบอกอะไรแม่ทุม ?

            ยุ้ย : มันยากมากเลย คือมันเยอะมาก อยากให้แม่กลับบ้าน อยากให้แม่คุยกับเราเหมือนเดิม มันไม่มีใครแล้วที่เราพูดอะไรไปแล้วพร้อมจะให้คำปรึกษาได้โดยไม่ต้องมาแคร์ความรู้สึกเรา ให้คำปรึกษาที่มันใช่เลยโดยที่บางคนจะแคร์ความรู้สึกเรา จะไม่พูดตรง ๆ

ภาพจาก รายการ คุยแซ่บShow

ก่อนหน้านี้ยุ้ยค่อนข้างเป็นคนโรแมนติก แต่พอแต่งงานมีลูกแล้วมุมนั้นหายไปเลยเหรอ ?

            ยุ้ย : หายไปเลย หายไปเยอะมาก แทบจะไม่มีเลย แต่จริง ๆ ไม่ได้เป็นเพราะแต่งงานนะ เป็นเพราะโด่ง (หัวเราะ) เขาเป็นคนที่เป็นผู้ชายจริง ๆ เขาไม่โรแมนติกเลยจนเราซึมซับ เราก็เริ่มคุ้นชินกับนิสัยนั้น ทุกวันนี้ก็ไม่ได้ต้องการอะไรแล้ว

พี่โด่งมีหน้าที่เยอะมาก ทั้งดูแลลูก ดูแลแม่ตัวเอง แต่ก็ยังมีเรื่องให้ทะเลาะกันทุกวัน ?

            ยุ้ย : จริง ๆ ไม่ได้ทะเลาะกันเป็นเรื่องเป็นราวหรอก เถียงกันมากกว่า หลัก ๆ เป็นเรื่องลูก บางทีความคิดเห็นเรื่องลูกอาจจะไม่ตรงกัน จริง ๆ ยุ้ยกับโด่งนิสัยต่างกันมากคนละขั้วเลย จูนกันตั้งแต่เริ่มคบกันจนถึงวันนี้จะ 30 ปีแล้ว ก็ยังต้องจูนกันอยู่

เติมความหวานให้กันบ่อยไหมในครอบครัว ?

            ยุ้ย : ถ้าว่างก็ไปเที่ยวทั้งครอบครัว คุณพ่อด้วย

คุณย่า (คุณแม่พี่โด่ง) ก็ป่วยเหมือนกัน ?

            ยุ้ย : เป็นหลายโรค หลัก ๆ ที่ต้องทำเป็นประจำคือฟอกไต ซึ่งเขาก็จะค่อนข้างหนัก ไปส่งลูกที่โรงเรียนแล้วก็ต้องไปรับแม่ไปฟอกไต แล้วก็ไปรับลูกที่โรงเรียน แล้วก็ไปรับคุณแม่จากโรงพยาบาล

อยากให้ให้กำลังใจคนที่เจอปัญหาเหมือนกับเรา ?

            ยุ้ย : อย่างที่บอกมันค่อนข้างยากที่เราจะบาลานซ์ทุกอย่าง ในขณะที่เราต้องสร้างความสุขด้วยแต่เราก็เครียด แต่สิ่งที่จะช่วยเราได้จริง ๆ ก็คือพยายามอยู่ในจุดที่ทำให้เรามีความสุข อะไรก็ตามหรือใครก็ตามที่เราไปอยู่กับเขาหรือไปอยู่ตรงที่นั้นแล้วเรายิ่งทุกข์ ยิ่งลบ พยายามอย่าไปอยู่ตรงนั้น พยายามอยู่กับคนที่ทำให้เรายิ้มได้ บางทีทำให้เราลืมเรื่องทุกข์ ๆ ไปได้ ตอนนี้ยุ้ยโชคดีที่มีน้องพริม

ภาพจาก รายการ คุยแซ่บShow

             ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-15.00 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ยุ้ย ปัทมวรรณ มั่นใจ แม่ทุม ปทุมวดี ยังรับรู้ ไม่ท้อ ไม่คิดยอมแพ้ เพราะแม่ก็ยังสู้ อัปเดตล่าสุด 26 ธันวาคม 2562 เวลา 15:31:17 10,963 อ่าน
TOP