ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ceemeagain
"เพิ่งเคยเจอแอร์ที่เรายกของแล้วขอให้ช่วยกันนิดนึงของหนัก แอร์ไม่ออกแรงยกเลยจ้า ใจดีกับบีซีจุงเลย" ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นข้อความที่ไม่เหมาะสม เพราะแอร์โฮสเตสไม่ได้มีหน้าที่ช่วยยกกระเป๋าให้กับผู้โดยสารอยู่แล้ว โดยหลายคนเข้าไปคอมเมนต์ติงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว จนกระทั่งซีได้ลบโพสต์ไป แล้วออกมาโพสต์เคลียร์ผ่านเพจของตัวเองว่า...
"ขอเคลียร์ดราม่าผ่านเพจนะคะ... เป็นประสบการณ์ ที่ค่อนข้างรู้สึกว่า เงียบคงไม่ได้ช่วยอะไรให้คนเข้าใจจากการตัดสิน และไปดราม่ากระจายในเพจอื่น... ซึ่งซีเข้าใจ การละเลงดราม่าเป็นอย่างดี ซีขอยอมรับความผิดพลาดที่โพสด้วยอารมณ์ไม่ได้กลั่นกรองคำพูดที่ดี ในการโพสต์ทำให้ คนตีความลบ และดราม่าครั้งนี้
แต่ด้วยความเคารพค่ะ ขออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น ต่างมุมมอง....
1. ทราบดีว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีหน้าที่ยกของให้เรา ไม่ได้เคยเรียกร้องให้ช่วย หลายสายการบินที่แอร์ทำให้เราเอง แทบยกมือไหว้กันไม่ทัน เพราะรู้สึกว่าประสบการณ์ของสายการบินเค้าคัดเลือกและเทรนนิ่งทัศนคติคนมา ดีเหลือเกิน ช่วยเหลือจนเรารู้สึกชื่นชมว่าเกินหน้าที่ไปมาก เราประทับใจอยากบินสายนั้น ๆ เสมอ ทุกครั้งที่เดินทาง ไม่เกี่ยวกับคลาสไหน ชนชั้นไหนนั่งได้หมดค่ะ ไม่ใช่นิสัยติดคลาส ไม่มีการเหยียดแน่นอน คลาสพิเศษ แอร์ที่มามักจะช่วยเหลือผู้โดยสารจำนวนไม่มาก จึงมีเวลายื่นมือช่วยเหลือได้ตามน้ำใจที่สมควร
2. ซีไม่ได้ยืนเฉย ๆ แล้วให้เค้ายกค่ะ ซียกสูงขึ้นมาแล้ว เค้าเดินมาเหมือนเรายืนกันทาง เลยพยักหน้ายิ้มแย้มตามปกติ คาดหวังไปว่า เค้าจะ "ช่วยดันขึ้น" นิดหน่อยพอให้เคลียร์ทางได้ไวขึ้น ผลปรากฏว่า เค้าเดินมาแตะกระเป๋าเราเฉย ๆ เราตกใจงง หันมองหน้าว่า คือไม่ช่วยไม่เป็นไร ทำไมมาแตะเหมือนไม่ช่วยแต่โชว์ว่าช่วย อันนี้เรื่องจริงที่เจอ ซึ่งเป็นแอร์ชาวต่างชาติ...อึ้งว่าแบบนี้ คือยังไง ? (และไม่ใช่สายการบินที่เคยใช้บริการเลยมาก่อนด้วยค่ะ)
3. เรากลัวกีดกันทางคน แน่นอนกระเป๋ามีน้ำหนัก และเดินทางคนเดียวประจำไม่ได้จะลำบากใคร เห็นว่าเค้าเดินมาหยุด ไม่ได้รีบก็ยิ้มรับแบบแหะ ๆ ดันนิดนึงก็เข้าแล้ว...ปรากฏเจออาการที่ไม่ได้คาดคิด และย้ำเลยค่ะ ไม่ได้เบ่งว่าจะคลาสไหน และเห็นว่าเค้าว่างกำลังจะเดินผ่าน เราก็พยายามจะรีบแบบพลเมืองดี แค่ช็อกกับการแตะกระเป๋าแบบส่ง ๆ คือไม่ช่วยน่าจะดีกว่าจริง ๆ เราไม่เคยเห็นกิริยาแบบนี้ จากเจ้าหน้าที่สายการบินมาก่อนค่ะ เจอแต่คนทัศนคติดีมาก ๆ ช่วยเหลือสุด ๆ และการเดินทางบ่อยทราบว่า คนยืนเดินบนเครื่องระหว่างทำงานเหนื่อยแค่ไหน
บทสรุปคือ ซีขอกรุณาอย่าตัดสิน หรือรุมประณามจากเหตุการณ์ที่คุณไม่ได้เห็น ซีขอยอมรับความผิดพลาดในการใช้อารมณ์โพสต์ช่วงดึกที่ได้ลบไปอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ตลอดการทำงาน มีแต่เจตนารมณ์ที่ดีต่อสังคมเสมอ
ถ้าผู้อ่านที่แวะเข้ามาได้อ่านสิ่งนี้ ต้องขอโทษที่ทำให้ผิดหวังในการใช้อารมณ์ และคำเขียนที่ไม่ดี เพราะได้รับประสบการณ์ที่ต่างจากไมตรี เจ้าหน้าที่ที่เราเคยเจอมา ด้วยสีหน้าและแววตาเจ้าหน้าที่คนนี้ทำเอาอึ้งเหมือนกัน ดังนั้น กรุณาอย่าต่อยอดสิ่งที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมนี้เลยค่ะ ขอบคุณสำหรับการแชร์กฎการบินมาให้เพิ่มเติม แต่ยืนยันว่าเราไม่มีเจตนาเบียดเบียนเจ้าหน้าที่ ด้วยความคิดและกิริยาแม้แต่น้อยค่ะ"
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ceemeagain
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ceemeagain
ทั้งนี้ หลังจากที่ ซี ฉัตรปวีณ์ ออกมาโพสต์เคลียร์เรื่องดังกล่าว หลายคนกลับมองว่า ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ยิ่งพูดยิ่งแย่ ซ้ำยังมองว่าที่โพสต์ชี้แจง ไม่ตรงกับข้อความที่โพสต์แต่แรก ตกลงเขาเดินมาแตะ หรือขอให้เขาช่วย บ้างก็ว่าเรื่องเหมือนหนังคนละม้วน อ่านแล้วเหมือนแก้ตัวมากกว่า ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองผิดจริง ๆ ความจริงแอร์ไม่จำเป็นต้องไปแตะกระเป๋าด้วยซ้ำ เขาอาจแค่ช่วยประคองให้เฉย ๆ อีกทั้งยังมาโพสต์บอกให้คนอื่นอย่าตัดสินตัวเอง ทั้งที่ตัวเองก็ตัดสินแอร์โฮสเตสคนนั้นไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังมีแฟน ๆ หลายคนที่เข้าใจในสิ่งที่ ซี ฉัตรปวีณ์ ต้องการจะสื่อจากโพสต์ดังกล่าว พร้อมทั้งเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจเธอด้วย






