การทาโลชั่น นอกจากโลชั่นผิวขาว ที่ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม กระจ่างใส ไม่แห้งกร้านแล้ว เชื่อไหมว่ายังเป็นอีกหนึ่งวิธีสร้างเสน่ห์ให้เรากลายเป็นสาวตัวหอม น่าหลงใหล จนใคร ๆ ก็อยากอยู่ใกล้ได้ง่าย ๆ ว่าแต่จะเลือกโลชั่นแบบไหน และทาอย่างไรให้กลิ่นหอมติดทน เราไปหาคำตอบกัน
วิธีสร้างเสน่ห์ของผู้หญิง ไม่ใช่แค่การเติมแต่งความสวยจากภายนอก หรือเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีเท่านั้น แต่กลิ่นกายที่หอมยังช่วยให้ผู้หญิงเรามีความมั่นใจ แถมทำให้กลายเป็นคนที่น่าหลงใหลมากขึ้นอีกด้วย อย่างสาว ๆ บางคน เวลาอยู่ใกล้แล้วจะได้กลิ่นหอมกรุ่น ๆ ชวนให้น่ากอด ขณะที่บางคนแค่เดินผ่านก็ได้กลิ่นหอมแตะจมูก จนต้องเหลียวหลัง แบบนี้ล่ะมั้ง...ที่เขาเรียกว่า "สาวเนื้อหอม"
หากเพื่อน ๆ อยากเป็นสาวตัวหอมมีเสน่ห์บ้าง แต่ไม่ชอบการฉีดน้ำหอม เพราะรู้สึกว่ากลิ่นแรง ราคาสูง หรือใช้แล้วเคยมีอาการแพ้ ระคายเคืองผิว "โลชั่นน้ำหอม" ก็ถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ คือนอกจากให้กลิ่นหอม ๆ แล้ว ยังมีส่วนผสมช่วยบำรุงผิวให้ขาวใส เนียนนุ่ม น่าสัมผัส แถมราคาไม่แพงอีกด้วย
โลชั่นน้ำหอม ไอเทมที่สาวอยากตัวหอม ผิวสวย ต้องมี
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกโลชั่นน้ำหอมยี่ห้อไหน หรือกลิ่นอะไรดี วันนี้เราขอแนะนำให้รู้จักกับ "Malissa Kiss Whitening Perfume Body Lotion" โลชั่นน้ำหอมยอดนิยมที่สาว ๆ ส่วนใหญ่เลือกใช้ กับกลิ่นฮิตติดลมบนอย่าง Crazy In Love บอกเลยว่าเหมาะสำหรับสาวทุกสไตล์ ด้วยคาแรกเตอร์กลิ่นที่หอมสดใส ซ่อนเซ็กซี่ ดูร่าเริง แต่แฝงไปด้วยความเย้ายวน แค่หยิบโลชั่นมาทาก็ทำให้มีเสน่ห์เหลือล้น พร้อมสะกดทุกคนที่อยู่ใกล้ด้วยกลิ่นหอมติดทนตลอดวันแล้วล่ะ
นอกจากเรื่องกลิ่นหอมเย้ายวนใจที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากอยู่ใกล้แล้ว โลชั่นน้ำหอม Malissa Kiss ตัวนี้ยังมีส่วนผสมของวิตามินอี อโลเวร่า สารสกัดจากเมล็ดองุ่น และอาร์บูติน ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวอีกด้วย เนื้อสัมผัสก็บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทำให้ผิวของสาว ๆ เนียนนุ่ม แลดูขาวกระจ่างใสขึ้น เรียกว่าเสน่ห์ครบ จบในหลอดเดียว
ทั้งกลิ่นหอมโดนใจ พร้อมบำรุงผิวให้กระจ่างใสด้วยแบบนี้ โลชั่นน้ำหอม Malissa Kiss กลิ่น Crazy In Love จึงกลายเป็นไอเทมที่ฮอตฮิตสุด ๆ และตอนนี้ทางแบรนด์ก็เอาใจสาว ๆ ด้วยขนาดใหม่ 75 ml. หาซื้อง่ายที่ 7-11 ใกล้บ้าน ไซซ์กำลังดี พกพาสะดวกกว่าเดิม เอาไว้ทาระหว่างวันได้เนียน ๆ ราคาก็น่ารักกรุบกริบ เพียง 99 บาทเท่านั้น
5 เคล็ดลับ วิธีทาโลชั่นน้ำหอมให้กลิ่นติดทนนาน
1. เตรียมผิวให้พร้อมก่อนทาโลชั่น
กลิ่นกายจะหอมนานหรือไม่ ต้องเริ่มจากดูแลความสะอาดและจัดการกลิ่นเหงื่อก่อน ด้วยการอาบน้ำ ใช้สบู่ที่มีกลิ่นหอมสดชื่น พร้อมสครับผิวสัปดาห์ละครั้ง เพื่อขจัดขี้ไคลและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออก เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นตัวขัดขวางการซึมซาบของเนื้อครีมหรือโลชั่น เมื่อขัดออกไปแล้ว ผิวของสาว ๆ ก็จะพร้อมรับการบำรุงอย่างเต็มที่
2. วอร์มโลชั่นก่อนทาทุกครั้ง
จุดนี้หลายคนอาจยังไม่รู้ ว่าการทาโลชั่นที่ถูกต้องควรวอร์มเนื้อโลชั่นให้อุณหภูมิใกล้เคียงกับผิวของเราก่อน โดยวิธีการก็ง่ายมาก เพียงใช้นิ้วมือถูวน ๆ เนื้อครีมสักครู่ แล้วค่อยลูบไล้ลงบนผิว แค่นี้ก็ช่วยให้เนื้อครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวของเราได้ดียิ่งขึ้นแล้ว
3. ทาโลชั่นหลังอาบน้ำใหม่ ๆ
หลังจากอาบน้ำเสร็จ เช็ดตัวให้ผิวหมาด ๆ ช่วงนี้ถือเป็นนาทีทองของการทาครีมบำรุงเลยล่ะ เพราะว่ารูขุมขนกำลังเปิด ทำให้เนื้อโลชั่นสามารถซึมลึกเข้าถึงชั้นผิวได้ดียิ่งขึ้น ส่วนใครที่ผิวค่อนข้างแห้ง อาจใช้ออยล์ทาผิวก่อนลงโลชั่น เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ซึ่งการทาโลชั่นน้ำหอมในขณะที่ผิวกำลังชุ่มชื้น กลิ่นก็จะติดทนมากกว่าการทาตอนผิวแห้ง ๆ ด้วย
4. ทาโลชั่นน้ำหอมให้ถูกจุด
วิธีทาโลชั่นน้ำหอมให้กลิ่นติดทนนานมากยิ่งขึ้น สามารถใช้หลักเดียวกับการฉีดน้ำหอมได้เลย โดยเน้นการทาโลชั่นเฉพาะจุด ตรงบริเวณชีพจรของเรา ได้แก่ หลังหู, ซอกคอ, ข้อพับแขน, ข้อมือด้านใน และข้อพับหลังเข่า เพราะผิวส่วนนั้นเป็นส่วนที่มีความอุ่นที่สุด จึงช่วยให้กลิ่นโลชั่นน้ำหอมติดทนและกระจายกลิ่นได้ดี
5. จับคู่โลชั่นน้ำหอมกับสเปรย์
วันไหนที่ต้องการความหอมเป็นพิเศษ การทาโลชั่นน้ำหอมอย่างเดียวอาจไม่พอ ลองหยิบโลชั่นน้ำหอมกลิ่นโปรดมาใช้ควบคู่กับสเปรย์น้ำหอมกลิ่นเดียวกันดูสิ แค่นำโลชั่นมาทาก่อนที่จะฉีดสเปรย์น้ำหอมเพิ่มลงไป รับรองเลยว่ากลิ่นหอมจะฟุ้งและติดทนไปตลอดวัน จนอาจมีคนทักได้ว่าใช้น้ำหอมอะไร ทำไมหอมจัง...
ได้รู้ทริกการทาโลชั่นน้ำหอมกันไปแล้ว ใครอยากเป็นสาวเจ้าเสน่ห์ที่มีกลิ่นหอมละมุนติดทนทั้งวัน ก็สามารถนำไปลองใช้กันดูได้ และถ้าอยากมีผิวสวยคู่กับผิวหอม ๆ แนะนำให้เลือกใช้โลชั่นน้ำหอมสูตรที่ผสมสารบำรุงผิวด้วย เพราะจะช่วยให้ผิวเนียมนุ่มชุ่มชื้น น่าสัมผัส แถมบางสูตรยังเพิ่มเลเวลความขาวกระจ่างใสได้อีก เรียกว่าเสริมเสน่ห์ตัวหอม ผิวขาวนุ่ม น่าหลงใหล จนใคร ๆ ก็แอบหลงรักได้ไม่ยาก
วิธีสร้างเสน่ห์ของผู้หญิง ไม่ใช่แค่การเติมแต่งความสวยจากภายนอก หรือเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีเท่านั้น แต่กลิ่นกายที่หอมยังช่วยให้ผู้หญิงเรามีความมั่นใจ แถมทำให้กลายเป็นคนที่น่าหลงใหลมากขึ้นอีกด้วย อย่างสาว ๆ บางคน เวลาอยู่ใกล้แล้วจะได้กลิ่นหอมกรุ่น ๆ ชวนให้น่ากอด ขณะที่บางคนแค่เดินผ่านก็ได้กลิ่นหอมแตะจมูก จนต้องเหลียวหลัง แบบนี้ล่ะมั้ง...ที่เขาเรียกว่า "สาวเนื้อหอม"
หากเพื่อน ๆ อยากเป็นสาวตัวหอมมีเสน่ห์บ้าง แต่ไม่ชอบการฉีดน้ำหอม เพราะรู้สึกว่ากลิ่นแรง ราคาสูง หรือใช้แล้วเคยมีอาการแพ้ ระคายเคืองผิว "โลชั่นน้ำหอม" ก็ถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ คือนอกจากให้กลิ่นหอม ๆ แล้ว ยังมีส่วนผสมช่วยบำรุงผิวให้ขาวใส เนียนนุ่ม น่าสัมผัส แถมราคาไม่แพงอีกด้วย
โลชั่นน้ำหอม ไอเทมที่สาวอยากตัวหอม ผิวสวย ต้องมี
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกโลชั่นน้ำหอมยี่ห้อไหน หรือกลิ่นอะไรดี วันนี้เราขอแนะนำให้รู้จักกับ "Malissa Kiss Whitening Perfume Body Lotion" โลชั่นน้ำหอมยอดนิยมที่สาว ๆ ส่วนใหญ่เลือกใช้ กับกลิ่นฮิตติดลมบนอย่าง Crazy In Love บอกเลยว่าเหมาะสำหรับสาวทุกสไตล์ ด้วยคาแรกเตอร์กลิ่นที่หอมสดใส ซ่อนเซ็กซี่ ดูร่าเริง แต่แฝงไปด้วยความเย้ายวน แค่หยิบโลชั่นมาทาก็ทำให้มีเสน่ห์เหลือล้น พร้อมสะกดทุกคนที่อยู่ใกล้ด้วยกลิ่นหอมติดทนตลอดวันแล้วล่ะ
นอกจากเรื่องกลิ่นหอมเย้ายวนใจที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากอยู่ใกล้แล้ว โลชั่นน้ำหอม Malissa Kiss ตัวนี้ยังมีส่วนผสมของวิตามินอี อโลเวร่า สารสกัดจากเมล็ดองุ่น และอาร์บูติน ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวอีกด้วย เนื้อสัมผัสก็บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทำให้ผิวของสาว ๆ เนียนนุ่ม แลดูขาวกระจ่างใสขึ้น เรียกว่าเสน่ห์ครบ จบในหลอดเดียว
ทั้งกลิ่นหอมโดนใจ พร้อมบำรุงผิวให้กระจ่างใสด้วยแบบนี้ โลชั่นน้ำหอม Malissa Kiss กลิ่น Crazy In Love จึงกลายเป็นไอเทมที่ฮอตฮิตสุด ๆ และตอนนี้ทางแบรนด์ก็เอาใจสาว ๆ ด้วยขนาดใหม่ 75 ml. หาซื้อง่ายที่ 7-11 ใกล้บ้าน ไซซ์กำลังดี พกพาสะดวกกว่าเดิม เอาไว้ทาระหว่างวันได้เนียน ๆ ราคาก็น่ารักกรุบกริบ เพียง 99 บาทเท่านั้น
5 เคล็ดลับ วิธีทาโลชั่นน้ำหอมให้กลิ่นติดทนนาน
ถึงจะมีไอเทมดี ๆ อย่างโลชั่นน้ำหอม Malissa Kiss Whitening Perfume Body Lotion มาเป็นตัวช่วยเพิ่มเสน่ห์ชวนหลงใหลแล้ว แต่จะทำอย่างไรล่ะ ให้กลิ่นนั้นหอมติดตัวเราไปได้ทั้งวัน ซึ่งการทาโลชั่นน้ำหอมให้ถูกวิธีก็เป็นเรื่องสำคัญนะ วันนี้เราเลยมีเคล็ดลับวิธีทาโลชั่นให้ตัวหอม ผิวขาวเนียน น่ากอด มาฝาก รับรองว่าใครอยู่ใกล้ก็ต้องหลงใหลไปตาม ๆ กัน
กลิ่นกายจะหอมนานหรือไม่ ต้องเริ่มจากดูแลความสะอาดและจัดการกลิ่นเหงื่อก่อน ด้วยการอาบน้ำ ใช้สบู่ที่มีกลิ่นหอมสดชื่น พร้อมสครับผิวสัปดาห์ละครั้ง เพื่อขจัดขี้ไคลและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออก เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นตัวขัดขวางการซึมซาบของเนื้อครีมหรือโลชั่น เมื่อขัดออกไปแล้ว ผิวของสาว ๆ ก็จะพร้อมรับการบำรุงอย่างเต็มที่
2. วอร์มโลชั่นก่อนทาทุกครั้ง
จุดนี้หลายคนอาจยังไม่รู้ ว่าการทาโลชั่นที่ถูกต้องควรวอร์มเนื้อโลชั่นให้อุณหภูมิใกล้เคียงกับผิวของเราก่อน โดยวิธีการก็ง่ายมาก เพียงใช้นิ้วมือถูวน ๆ เนื้อครีมสักครู่ แล้วค่อยลูบไล้ลงบนผิว แค่นี้ก็ช่วยให้เนื้อครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวของเราได้ดียิ่งขึ้นแล้ว
3. ทาโลชั่นหลังอาบน้ำใหม่ ๆ
หลังจากอาบน้ำเสร็จ เช็ดตัวให้ผิวหมาด ๆ ช่วงนี้ถือเป็นนาทีทองของการทาครีมบำรุงเลยล่ะ เพราะว่ารูขุมขนกำลังเปิด ทำให้เนื้อโลชั่นสามารถซึมลึกเข้าถึงชั้นผิวได้ดียิ่งขึ้น ส่วนใครที่ผิวค่อนข้างแห้ง อาจใช้ออยล์ทาผิวก่อนลงโลชั่น เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ซึ่งการทาโลชั่นน้ำหอมในขณะที่ผิวกำลังชุ่มชื้น กลิ่นก็จะติดทนมากกว่าการทาตอนผิวแห้ง ๆ ด้วย
4. ทาโลชั่นน้ำหอมให้ถูกจุด
วิธีทาโลชั่นน้ำหอมให้กลิ่นติดทนนานมากยิ่งขึ้น สามารถใช้หลักเดียวกับการฉีดน้ำหอมได้เลย โดยเน้นการทาโลชั่นเฉพาะจุด ตรงบริเวณชีพจรของเรา ได้แก่ หลังหู, ซอกคอ, ข้อพับแขน, ข้อมือด้านใน และข้อพับหลังเข่า เพราะผิวส่วนนั้นเป็นส่วนที่มีความอุ่นที่สุด จึงช่วยให้กลิ่นโลชั่นน้ำหอมติดทนและกระจายกลิ่นได้ดี
5. จับคู่โลชั่นน้ำหอมกับสเปรย์
วันไหนที่ต้องการความหอมเป็นพิเศษ การทาโลชั่นน้ำหอมอย่างเดียวอาจไม่พอ ลองหยิบโลชั่นน้ำหอมกลิ่นโปรดมาใช้ควบคู่กับสเปรย์น้ำหอมกลิ่นเดียวกันดูสิ แค่นำโลชั่นมาทาก่อนที่จะฉีดสเปรย์น้ำหอมเพิ่มลงไป รับรองเลยว่ากลิ่นหอมจะฟุ้งและติดทนไปตลอดวัน จนอาจมีคนทักได้ว่าใช้น้ำหอมอะไร ทำไมหอมจัง...
ได้รู้ทริกการทาโลชั่นน้ำหอมกันไปแล้ว ใครอยากเป็นสาวเจ้าเสน่ห์ที่มีกลิ่นหอมละมุนติดทนทั้งวัน ก็สามารถนำไปลองใช้กันดูได้ และถ้าอยากมีผิวสวยคู่กับผิวหอม ๆ แนะนำให้เลือกใช้โลชั่นน้ำหอมสูตรที่ผสมสารบำรุงผิวด้วย เพราะจะช่วยให้ผิวเนียมนุ่มชุ่มชื้น น่าสัมผัส แถมบางสูตรยังเพิ่มเลเวลความขาวกระจ่างใสได้อีก เรียกว่าเสริมเสน่ห์ตัวหอม ผิวขาวนุ่ม น่าหลงใหล จนใคร ๆ ก็แอบหลงรักได้ไม่ยาก