แบงค์ ธิติ เผยสถานะ พิมฐา เป็นแค่เพื่อน ไปกินข้าวกันบ้าง แต่ขอให้เป็นเรื่องอนาคต ตกใจ โพสต์รูปอ้าขาทำคนฮือฮา ยันเช็กแล้วไม่มีอะไรเล็ดลอด รับมีสาวทักหาจะถอดเสื้อให้ดู
ออกมายอมรับว่าโสดได้ไม่นาน สำหรับนักแสดงหนุ่มแบงค์ ธิติ มหาโยธารักษ์ ก็โดนโยงถึงประเด็นมือที่สาม หลายคนก็พุ่งเป้าไปที่สาว พิมฐา ฐานิดา เพื่อนสาวคนสนิทที่ช่วงนี้กำลังมีผลงานร่วมกันอยู่ ซึ่งก็เพิ่งเลิกกับแฟนหนุ่มไปได้ไม่นานเช่นกัน ล่าสุด (21 มกราคม 2563) หนุ่มแบงค์ ก็รีบออกมาเคลียร์ถึงประเด็นดังกล่าว
เปลี่ยนสถานะมาเป็นหนุ่มโสดแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ?
แบงค์ : โสดก็ทำงาน และก็ทำงานครับ ช่วงนี้ค่อนข้างที่จะมีงานเยอะเหมือนกัน เพราะละครเรื่องใหม่ก็เพิ่งจะเปิดกล้องด้วย
รู้สึกโล่งขึ้นไหมหลังจากที่ได้พูดเรื่องสถานะแล้ว ?
แบงค์ : จริง ๆ ก็รู้สึกดี เพราะเขาจะได้รับรู้ในฝั่งของอีกคนหนึ่งด้วย และก็สถานะของเราด้วย
หลังจากที่เราออกมาพูดในวันนั้น เราได้ติดตามฟีดแบ็กบ้างไหม ?
แบงค์ : ก็ดูบ้างครับ คือมันก็จะมีฟีดแบ็กกลับมาให้เห็นอยู่เหมือนกันทางทวิตเตอร์
จากข่าวที่เราออกมาพูดเรื่องเลิกกับแฟน มันเลยทำให้ พิมฐา ถูกมองว่าเป็นมือที่สาม ?
แบงค์ : อ๋อ จริง ๆ ไม่ใช่ครับ แต่ที่มันมีฟีดแบ็กคนี้เกิดขึ้นก็เป็นเพราะเราสองคนได้มีโอกาสไปถ่ายรายการด้วยกัน ชื่อรายการว่า ป๋าซ่าพาซิ่ง ซึ่งเป็นรายการที่เราต้องไปดูแลพ่อ ๆ พาพ่อ ๆ ไปเที่ยวที่ต่างประเทศ มันก็เลยมีคนที่เขารู้จิ้นตามรูปแบบของรายการ
แบงค์ : โสดก็ทำงาน และก็ทำงานครับ ช่วงนี้ค่อนข้างที่จะมีงานเยอะเหมือนกัน เพราะละครเรื่องใหม่ก็เพิ่งจะเปิดกล้องด้วย
รู้สึกโล่งขึ้นไหมหลังจากที่ได้พูดเรื่องสถานะแล้ว ?
แบงค์ : จริง ๆ ก็รู้สึกดี เพราะเขาจะได้รับรู้ในฝั่งของอีกคนหนึ่งด้วย และก็สถานะของเราด้วย
หลังจากที่เราออกมาพูดในวันนั้น เราได้ติดตามฟีดแบ็กบ้างไหม ?
แบงค์ : ก็ดูบ้างครับ คือมันก็จะมีฟีดแบ็กกลับมาให้เห็นอยู่เหมือนกันทางทวิตเตอร์
จากข่าวที่เราออกมาพูดเรื่องเลิกกับแฟน มันเลยทำให้ พิมฐา ถูกมองว่าเป็นมือที่สาม ?
แบงค์ : อ๋อ จริง ๆ ไม่ใช่ครับ แต่ที่มันมีฟีดแบ็กคนี้เกิดขึ้นก็เป็นเพราะเราสองคนได้มีโอกาสไปถ่ายรายการด้วยกัน ชื่อรายการว่า ป๋าซ่าพาซิ่ง ซึ่งเป็นรายการที่เราต้องไปดูแลพ่อ ๆ พาพ่อ ๆ ไปเที่ยวที่ต่างประเทศ มันก็เลยมีคนที่เขารู้จิ้นตามรูปแบบของรายการ
ตัวเราเองกับ พิมฐา สนิทสนมกันมากแค่ไหน ?
แบงค์ : ก็สนิทนะครับ เพราะพอเราได้ไปถ่ายรายการด้วยกัน ได้ใช้ชีวิตอยู่ดูแลพ่อ ๆ ด้วยกัน ก็ถือว่าเขาเป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งครับ
พิมฐาเขาเครียดไหม เรื่องนี้กระทบความสัมพันธ์ของเรากับเขาหรือเปล่า ?
แบงค์ : ก็มีได้คุยกันบ้างครับ คือผมไปบอกเขาว่ามันอาจจะมีอะไรพวกนี้นะ และก็ขอโทษเขาด้วยที่ทำให้เขาซวย (ยิ้ม) ซึ่งเขาก็เข้าใจ ไม่ได้เครียด
เรารับมือกับกระแสข่าวที่ออกมากันยังไง ?
แบงค์ : คือเราจะมีกลุ่มไลน์ที่คุยกันอยู่แล้ว เป็นแก๊งป๋าซ่าพาซิ่ง ซึ่งพอมีข่าวแบบนี้ออกมา พ่อ ๆ ทุกคนก็ช่วยกันบอกว่าไม่เป็นไรนะ อย่างนั้นอย่างนี้ และตัวผมเองก็บอกเขาไปเหมือนกันว่า ถ้าช่วงนี้มันมีข่าวอะไรออกมาก็อยากให้ใช้สติในการอ่านนิดนึง เหมือนเราต้องรู้ตัวเองก่อน เพราะโลกโซเชียลมันเป็นโลกที่ใคร ๆ ก็สามารถแสดงความเห็นได้ ไม่ว่าความเห็นนั้นมันจะแรงขนาดไหนหรือกระทบกับจิตใจเราขนาดไหน เนื่องจากเขาไม่ได้รับรู้หรอกว่าเมื่อเขาคอมเมนต์ไปแล้วเราจะรู้สึกยังไง ดังนั้นเราจึงทำได้แค่รับมา สิ่งไหนที่เราสามารถนำมาปรับปรุงแก้ไขตัวเอง และทำให้ตัวเราดีขึ้นได้เราก็จะรับ รวมถึงนำมาพิจารณาอีกทีหนึ่ง
พอมันมีกระแสแบบนี้ทำให้เราสองคนต้องเว้นระยะห่างกันมากขึ้นไหม ?
แบงค์ : โดยปกติเราก็ไม่ค่อยได้เจอกันอยู่แล้วนะครับ และถ้าหากเราเจอกัน เราก็จะแค่ไปกินข้าวกับแก๊งพ่อ ๆ คือผมรู้สึกว่าเราก็เป็นแค่เพื่อนที่เคยมีโอกาสได้ร่วมงานกันมากกว่า
แบงค์ : ก็สนิทนะครับ เพราะพอเราได้ไปถ่ายรายการด้วยกัน ได้ใช้ชีวิตอยู่ดูแลพ่อ ๆ ด้วยกัน ก็ถือว่าเขาเป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งครับ
พิมฐาเขาเครียดไหม เรื่องนี้กระทบความสัมพันธ์ของเรากับเขาหรือเปล่า ?
แบงค์ : ก็มีได้คุยกันบ้างครับ คือผมไปบอกเขาว่ามันอาจจะมีอะไรพวกนี้นะ และก็ขอโทษเขาด้วยที่ทำให้เขาซวย (ยิ้ม) ซึ่งเขาก็เข้าใจ ไม่ได้เครียด
เรารับมือกับกระแสข่าวที่ออกมากันยังไง ?
แบงค์ : คือเราจะมีกลุ่มไลน์ที่คุยกันอยู่แล้ว เป็นแก๊งป๋าซ่าพาซิ่ง ซึ่งพอมีข่าวแบบนี้ออกมา พ่อ ๆ ทุกคนก็ช่วยกันบอกว่าไม่เป็นไรนะ อย่างนั้นอย่างนี้ และตัวผมเองก็บอกเขาไปเหมือนกันว่า ถ้าช่วงนี้มันมีข่าวอะไรออกมาก็อยากให้ใช้สติในการอ่านนิดนึง เหมือนเราต้องรู้ตัวเองก่อน เพราะโลกโซเชียลมันเป็นโลกที่ใคร ๆ ก็สามารถแสดงความเห็นได้ ไม่ว่าความเห็นนั้นมันจะแรงขนาดไหนหรือกระทบกับจิตใจเราขนาดไหน เนื่องจากเขาไม่ได้รับรู้หรอกว่าเมื่อเขาคอมเมนต์ไปแล้วเราจะรู้สึกยังไง ดังนั้นเราจึงทำได้แค่รับมา สิ่งไหนที่เราสามารถนำมาปรับปรุงแก้ไขตัวเอง และทำให้ตัวเราดีขึ้นได้เราก็จะรับ รวมถึงนำมาพิจารณาอีกทีหนึ่ง
พอมันมีกระแสแบบนี้ทำให้เราสองคนต้องเว้นระยะห่างกันมากขึ้นไหม ?
แบงค์ : โดยปกติเราก็ไม่ค่อยได้เจอกันอยู่แล้วนะครับ และถ้าหากเราเจอกัน เราก็จะแค่ไปกินข้าวกับแก๊งพ่อ ๆ คือผมรู้สึกว่าเราก็เป็นแค่เพื่อนที่เคยมีโอกาสได้ร่วมงานกันมากกว่า
อีกประเด็นคือตอนนี้เราทั้งคู่โสด คนก็เลยยิ่งจับตามองเป็นพิเศษ ?
แบงค์ : ก็อาจจะเป็นเพราะเรื่องนั้นด้วยครับ
ไทม์ไลน์ความโสดของเราทั้งคู่ เราสามารถชี้แจงได้ไหม ?
แบงค์ : จริง ๆ ตัวผมเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องส่วนตัวของเขานะครับ แต่สำหรับเรื่องของผม ก็เหมือนกับที่ผมเคยสัมภาษณ์ไปว่ามันเป็นช่วงก่อนปีใหม่ก่อนวันเกิดผม ซึ่งค่อนข้างที่จะเป็นระยะเวลาที่นานแล้ว ตามเหตุผลที่ให้ไปครับ
เราสนิทกัน แต่ก็ไม่เคยไปแฮงก์ค์เอาต์ด้วยกันหรือไปเที่ยวด้วยกันใช่ไหม ?
แบงค์ : เรามีแต่ไปเที่ยวแบบเป็นกลุ่ม ๆ กับเพื่อนที่เรารู้จักครับ เพราะเพื่อนของเขาก็รู้จักกับผมเหมือนกัน รวมถึงเรายังมีแก๊งป๋าซ่าพาซิ่ง และทีมงานรายการที่เราไปทานข้าวด้วยกันอีก แต่ถ้าไปกันสองคนไม่มีแน่นอนครับ
นอกจากฝั่งที่จับผิดแล้ว มีฝั่งเชียร์ด้วยไหม ?
แบงค์ : ต้องเชียร์ด้วยเหรอครับ (หัวเราะ) ตอนนี้ผมยังไม่รู้อนาคตเหมือนกัน ขอทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อนดีกว่า เพราะแค่นี้ก็หนักสำหรับผมแล้วเหมือนกัน
เรียกว่าตอนนี้เรายังไม่พร้อมดูแลใคร ?
แบงค์ : ใช่ครับ ตอนนี้ขอคุยกับตัวเองก่อนละกัน
แบงค์ : ก็อาจจะเป็นเพราะเรื่องนั้นด้วยครับ
ไทม์ไลน์ความโสดของเราทั้งคู่ เราสามารถชี้แจงได้ไหม ?
แบงค์ : จริง ๆ ตัวผมเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องส่วนตัวของเขานะครับ แต่สำหรับเรื่องของผม ก็เหมือนกับที่ผมเคยสัมภาษณ์ไปว่ามันเป็นช่วงก่อนปีใหม่ก่อนวันเกิดผม ซึ่งค่อนข้างที่จะเป็นระยะเวลาที่นานแล้ว ตามเหตุผลที่ให้ไปครับ
เราสนิทกัน แต่ก็ไม่เคยไปแฮงก์ค์เอาต์ด้วยกันหรือไปเที่ยวด้วยกันใช่ไหม ?
แบงค์ : เรามีแต่ไปเที่ยวแบบเป็นกลุ่ม ๆ กับเพื่อนที่เรารู้จักครับ เพราะเพื่อนของเขาก็รู้จักกับผมเหมือนกัน รวมถึงเรายังมีแก๊งป๋าซ่าพาซิ่ง และทีมงานรายการที่เราไปทานข้าวด้วยกันอีก แต่ถ้าไปกันสองคนไม่มีแน่นอนครับ
นอกจากฝั่งที่จับผิดแล้ว มีฝั่งเชียร์ด้วยไหม ?
แบงค์ : ต้องเชียร์ด้วยเหรอครับ (หัวเราะ) ตอนนี้ผมยังไม่รู้อนาคตเหมือนกัน ขอทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อนดีกว่า เพราะแค่นี้ก็หนักสำหรับผมแล้วเหมือนกัน
เรียกว่าตอนนี้เรายังไม่พร้อมดูแลใคร ?
แบงค์ : ใช่ครับ ตอนนี้ขอคุยกับตัวเองก่อนละกัน
กังวลไหมว่าตอนนี้เราตอบแบบนี้ แต่อนาคตอะไรมันอาจจะเกิดขึ้นได้ ?
แบงค์ : ใช่ครับ เพราะเราไม่สามารถรู้อนาคตได้อยู่แล้วว่าเราจะไปคุยกับใคร หรือเราจะไปมีความสัมพันธ์ที่มันพัฒนาไปอย่างไรในอนาคต ซึ่งเราตอบไม่ได้อยู่แล้ว และอีกอย่างผมเองก็รู้สึกว่าอยากให้มันเป็นเรื่องของอนาคตดีกว่า เหมือนกับที่ผมบอกผมอยากทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อน
ณ ตอนนี้สำหรับ พิมฐา ก็คือเพื่อน ?
แบงค์ : ใช่ครับ ใช่
พอโสดแล้วก็ฮอต รูปอ้าขาของเราคือฮามาก ?
แบงค์ : (หัวเราะ) ผมไม่ได้ตั้งใจ เรื่องอะไรพวกนี้มันอยู่ที่คนจะมองมากกว่า แต่ที่ผมลงผมรู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติและท้องฟ้ามันก็สวยดี จริง ๆ ก่อนที่จะลงผมก็ซูมดูของตัวเองแล้วนะว่ามันมีอะไรเล็ดลอดหรือเปล่า และพอมันไม่ได้มีอะไรเล็ดลอดมันยังอยู่ในกางเกง ผมก็เลยโอเค
เราทราบฟีคแบ็กไหมว่าทำไมคนถึงฮือฮากัน ?
แบงค์ : มันอยู่ที่คนจะมองมากกว่าครับ หรือถ้าคิดไปทางนั้นผมก็ไม่รู้จะห้ามอย่างไร (หัวเราะ)
แบงค์ : ใช่ครับ เพราะเราไม่สามารถรู้อนาคตได้อยู่แล้วว่าเราจะไปคุยกับใคร หรือเราจะไปมีความสัมพันธ์ที่มันพัฒนาไปอย่างไรในอนาคต ซึ่งเราตอบไม่ได้อยู่แล้ว และอีกอย่างผมเองก็รู้สึกว่าอยากให้มันเป็นเรื่องของอนาคตดีกว่า เหมือนกับที่ผมบอกผมอยากทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อน
ณ ตอนนี้สำหรับ พิมฐา ก็คือเพื่อน ?
แบงค์ : ใช่ครับ ใช่
พอโสดแล้วก็ฮอต รูปอ้าขาของเราคือฮามาก ?
แบงค์ : (หัวเราะ) ผมไม่ได้ตั้งใจ เรื่องอะไรพวกนี้มันอยู่ที่คนจะมองมากกว่า แต่ที่ผมลงผมรู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติและท้องฟ้ามันก็สวยดี จริง ๆ ก่อนที่จะลงผมก็ซูมดูของตัวเองแล้วนะว่ามันมีอะไรเล็ดลอดหรือเปล่า และพอมันไม่ได้มีอะไรเล็ดลอดมันยังอยู่ในกางเกง ผมก็เลยโอเค
เราทราบฟีคแบ็กไหมว่าทำไมคนถึงฮือฮากัน ?
แบงค์ : มันอยู่ที่คนจะมองมากกว่าครับ หรือถ้าคิดไปทางนั้นผมก็ไม่รู้จะห้ามอย่างไร (หัวเราะ)
ไม่ได้นอยด์ใช่ไหมถ้าคนจะโฟกัสผิดจุด ?
แบงค์ : เอ่อ…ก็เราไม่ได้ตั้งใจให้มันลงไปในทิศทางนั้น
พอเราโพสต์ภาพแบบนี้ออกไป มีโรคจิตทักเข้ามาหาบ้างหรือเปล่า ?
แบงค์ : มี ๆ ๆ ๆ ผมเคยเข้าไปเช็กใน Direct Instagram ครับ เหมือนเขาบอกประมาณว่า ‘ถ้าหากพี่แบงค์เรียกชื่อเขา เขาจะถอดเสื้อให้ดู’ เหมือนเขาอยากให้เราตอบกลับ แต่ผมไม่ได้ตอบนะ
เจอแค่ทางข้อความใช่ไหม ไม่ได้เจอใครมาเดินตามหรือทำอะไรแปลก ๆ ?
แบงค์ : ไม่มีครับ
บางอย่างที่เราเจอ เรามองว่ามันเป็นการคุกคามไหม ?
แบงค์ : เราคงห้ามความคิดเห็นของคนอื่นไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นผมจึงมองว่าถ้ามันมีฟีดแบ็กแบบนี้มา ผมก็แค่ต้องระวังตัวในการโพสต์รูปมากขึ้น แต่จริง ๆ อย่างที่ผมบอก ผมไม่ได้คิดอะไรยังไงครับ
แบงค์ : เอ่อ…ก็เราไม่ได้ตั้งใจให้มันลงไปในทิศทางนั้น
พอเราโพสต์ภาพแบบนี้ออกไป มีโรคจิตทักเข้ามาหาบ้างหรือเปล่า ?
แบงค์ : มี ๆ ๆ ๆ ผมเคยเข้าไปเช็กใน Direct Instagram ครับ เหมือนเขาบอกประมาณว่า ‘ถ้าหากพี่แบงค์เรียกชื่อเขา เขาจะถอดเสื้อให้ดู’ เหมือนเขาอยากให้เราตอบกลับ แต่ผมไม่ได้ตอบนะ
เจอแค่ทางข้อความใช่ไหม ไม่ได้เจอใครมาเดินตามหรือทำอะไรแปลก ๆ ?
แบงค์ : ไม่มีครับ
บางอย่างที่เราเจอ เรามองว่ามันเป็นการคุกคามไหม ?
แบงค์ : เราคงห้ามความคิดเห็นของคนอื่นไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นผมจึงมองว่าถ้ามันมีฟีดแบ็กแบบนี้มา ผมก็แค่ต้องระวังตัวในการโพสต์รูปมากขึ้น แต่จริง ๆ อย่างที่ผมบอก ผมไม่ได้คิดอะไรยังไงครับ
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN