โยโกะ ทาคาโน่ ควงคุณแม่ เปิดใจมรสุมชีวิต ป่วยเกือบตาย ความทรงจำหาย ทุกวันนี้ยังไม่กลับมาร้อยเปอร์เซ็นต์ อดีตสามีเป็นไบเซ็กชวล คู่ขายืนร้องไห้กลางงานวิวาห์
ภาพจาก รายการ เรื่องลับมาก (no censor)
รายการ "เรื่องลับมาก (no censor)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.55-14.50 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (23 มกราคม 2563) "ดร.เสรี วงษ์มณฑา" เปิดใจสัมภาษณ์ "โยโกะ ทาคาโน่" อดีตเซ็กซี่สตาร์ มาพร้อมคุณแม่ เผยเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา และตอนนี้ที่ความทรงจำฟื้น 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว
ป่วยเป็นอะไร ?
โยโกะ : มีสมองอักเสบ จากภูมิคุ้มกันของเราล้น ทำให้ไปเกาะที่ก้านสมองทำให้อักเสบ มีซีสต์ในต่อมใต้สมอง ตอนนี้ก็มีทุกโรคอยู่ครบ
ชีวิตไม่เหมือนเดิม ?
โยโกะ : หน้ามือเป็นหลังมือ พลิกบทบาท หลายสิ่งที่เคยทำก็ไม่ได้ทำ แต่หลายสิ่งที่ไม่ดีก็ดีขึ้น
ตอนโยโกะเป็นแบบนี้ แม่สังเกตเห็นอะไรในตัวเขาบ้าง ?
แม่ : หลายอย่างค่ะ ลด ละ เลิก
โยโกะ : บุหรี่เมื่อก่อนสูบก็เลิก เหล้าก็ไม่ดื่ม อย่างบุหรี่ก็สัญญากับคุณแม่ก่อนป่วยว่าจะเลิกแล้ว เดี๋ยวก็เลิกเองแหละคุณแม่ ก็เลยได้จังหวะ
รักษาที่โรงพยาบาลหนึ่ง แต่ตอนหลังแม่ย้ายไปอีกโรงพยาบาล สาเหตุเพราะอะไร ?
แม่ : เขาให้ยาเกินขนาดจนไตวายเฉียบพลัน แต่ก็รอดมาได้
ก่อนป่วย ชีวิตเป็นยังไง และสังเกตเห็นอาการตอนไหน ?
โยโกะ : อาการป่วยเหมือนมีมานานแล้ว กล้ามเนื้อเกร็งชักมาตั้งแต่เด็ก ๆ เราก็เข้าใจว่าไฮเปอร์ ซึ่งมันก็ผิด แต่จริง ๆ มันเป็นจากสมองที่เป็นมาตลอด แล้วเหมือนเป็นกล้ามเนื้อปลายประสาทอักเสบ แต่อันนั้นหายไปแล้ว แต่ที่พบ ณ ขณะนี้ จากไขสันหลังการตรวจเลือด คือการมีภูมิคุ้มกันของเราที่มันล้น
พอออกมาเขาเสียความทรงจำ แม่ช่วยยังไง ?
แม่ : ก็พยายามเล่าความในอดีต
โยโกะ : เขาบอกว่าเคยไปที่นี่จำได้ไหม บางอย่างก็จำได้ บางอย่างก็หายไปเลย
เวลาคนความจำเสื่อมจะปวดหัวมาก ?
โยโกะ : ตอนฟื้นความทรงจำ ปวดหัวหนักมาก หนักไม่ได้เล่น ๆ เพราะซีสต์ยังอยู่ในสมอง แล้วมีการอักเสบของสมอง ไม่ต้องแค่นึกค่ะ แค่เรารู้ว่าฝนกำลังจะตก แรงกดอากาศทำให้เราปวดหัวจนน้ำตาไหล บางครั้งก็ง่วงนอน แล้วก็หลับไปเลย หลับกลางอากาศค่ะ
ภาพจาก รายการ เรื่องลับมาก (no censor)
แม่คิดว่าความจำเขาหายไปสักเท่าไร ?
แม่ : ณ ตอนนี้กลับมา 70-80 เปอร์เซ็นต์แล้ว
อีกนานแค่ไหนถึงจะกลับมา ?
โยโกะ : กลับมาก็โอเค ไม่กลับมาก็ช่างมันเถอะค่ะ ช่วยไม่ได้ค่ะ จริง ๆ ก็ดีกว่าอัลไซเมอร์นะ อาจเป็นเพราะเราต้องจำบางอย่าง เราต้องมูฟออน เราถึงต้องทิ้งบางอย่าง คนเราเกิดมาเพื่อพบเจอและลาจาก
ปลงเป็น ?
โยโกะ : ต้องปลงค่ะ ถ้าไปยื้อแล้วไม่กลับมามันทุกข์ ไม่มีประโยชน์
ช่วงหนึ่งจำไม่ได้แม้กระทั่งแม่ ?
โยโกะ : ใช่ค่ะ เราคิดว่าเราจำได้แต่แม่บอกว่าไม่ ฉันทักเธอ เธอจำไม่ได้ เธอไม่รู้เรื่อง
แม่ : ช่วงใหม่ ๆ ค่ะ ก็ถามว่านี่แม่นะ เขาก็ตอบว่าจำไม่ได้ ตาก็จะลอยเคว้งคว้าง ตอนนั้นก็ไม่เป็นไร คนฟื้นใหม่ ๆ ก็เป็นแบบนี้แหละ
นานไหมกว่าจะจำได้ ?
แม่ : ก็หลายวันอยู่ค่ะ
โยโกะ : เอาจริง ๆ เราไม่คิดว่าเราลืมคุณแม่ แต่คุณแม่บอกว่าเราลอยไปลอยมา พูดไม่รู้เรื่อง เราคิดว่าจำคุณแม่ได้ เพียงแต่ตอนฟื้นเราคิดว่าเรายังเด็กอยู่ ยังเป็นเด็กเลย แล้วก็ไหว้ทุกคนที่ผ่านมา ตอนเด็ก ๆ จำได้แม่จะถามว่าสวัสดีหรือยังเจอใคร ก็ด้วยอันนั้น สวัสดีทุกคน (หัวเราะ)
รอดได้ไง ?
โยโกะ : เราไม่รู้ว่าเราไตวาย แต่เรากำลังรักษาตัวและคิดว่าเราคงไม่รอดแล้วใช่ไหม กำลังจะไปแล้วใช่ไหม ไม่ทราบมาก่อนว่าคุณแม่ย้ายโรงพยาบาลมาแล้ว เรากำลังจะหายแล้ว รู้อย่างเดียวว่าเป็นหนักขึ้น กำลังจะไปแล้ว ก็บอกคุณแม่ว่าหนูกำลังจะตายแล้วใช่ไหม แม่บอกไม่ใช่ กำลังจะหาย ไม่ให้ตาย จะตายได้ไง
ภาพจาก รายการ เรื่องลับมาก (no censor)
เคยหนีออกจากโรงพยาบาล ?
แม่ : พยายามจะออกจากห้อง แต่ตัวเขาไม่ทราบ
โยโกะ : เราไม่ทราบเลย จำไม่ได้
แม่ : ไม่เชิงหนี แต่เราขอกลับบ้าน เขาบอกว่าได้ ๆ 9 โมงเช้าจะกลับ โยโกะก็บอกว่าปวดหัว เขาก็บอกว่าให้น้ำเกลือ แต่ไม่ใช่น้ำเกลืออย่างเดียว เป็นยานอนหลับ 3 ทุ่มแล้วยังไม่ตื่น ทำยังไงได้ก็เลยให้ญาติ ๆ 3-4 คนอุ้มขึ้นรถกลับ จ่ายเงินเรียบร้อยแล้วนะคะ จะไม่ยอมให้กลับ
จำได้ไหมเคยเป็นเซ็กซี่สตาร์ ?
โยโกะ : จำได้อยู่ค่ะ มีคนพูดอยู่ จำได้ว่าเป็นนางร้าย (หัวเราะ) ในไอจีพวกซูเปอร์โมเดลเขาจะถ่าย ๆ แล้วแท็กมาให้บ้าง แล้วเขาบอกลองเสิร์ชตัวเองดูสิ บางอันก็จำได้ บางอันก็จำไม่ได้ มันมีแต่รูปออกแนวไม่เซ็กซี่ก็ชุดว่ายน้ำซะส่วนใหญ่ หรือไม่ก็ชุดชั้นใน
แม่รู้สึกยังไงกับภาพลักษณ์ลูกสาว ?
แม่ : ไม่ได้รู้สึกอะไรค่ะ มันก็เป็นงานของเขา ส่วนมากปะป๊าเป็นคนว่า เพราะคนญี่ปุ่น
โยโกะ : เขาไม่ชอบให้ใส่ชุดว่ายน้ำ ทำไมต้องใส่ทุกงาน อะไรแบบนี้
ภาพจาก รายการ เรื่องลับมาก (no censor)
ตอนนี้เป็นหมอดู ?
โยโกะ : เอาจริง ๆ ตอนแรกจำไม่ได้ว่าขนาดไหน ตัวเองเป็นอะไรยังไง แล้วจะไปต่อยังไง เริ่มจากไปดูหมอ ไปดูไพ่ออราเคิล แล้วรู้สึกว่าอาจารย์เขาเปิดมาเป็นหมอดูได้นะ มาเรียนไหม รุ่นแรกเลย แล้วเราก็ไปเรียน เริ่มดีขึ้นนะคะ จากพูดติด ๆ ขัด ๆ 5 นาทีเงียบไป เริ่มโต้ตอบคนได้มากขึ้น เริ่มมีสมาธิดีขึ้น เลยเริ่มรู้สึกว่าเราต้องเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งคุณแม่เคยพาไปหาพระ ท่านดูไว้ว่าตอนอายุ 40 จะมีเหตุบางประการทำให้ต้องเปลี่ยนอาชีพ เปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไงก็ต้องมาเป็นหมอดู ก็ไปเรียนที่สำนักปรัชญาโต๊ะ-อี้ ไปเรียนกับ อ.ภพเชียร เพ็งเพ็ชร์ กับ อ.แหม่ม นาตาชา อาจารย์บอกว่าแปลกดีเนอะ บอกให้มาตั้งแต่ 17 ปีที่แล้ว ทำไมไม่มา เขาดูดวงเอาไว้ว่าให้ตั้งแต่ 17 ปี ยังไงก็ต้องเป็นหมอดู ทำไมไม่มาเรียน ไปเสียเวลาซะ
เรียนนานแค่ไหนถึงประกอบอาชีพได้ ?
โยโกะ : เรียนเร็วกว่าชาวบ้านเยอะค่ะ อย่างไพ่เรียนไม่นาน อาศัยใช้ทุกวันก็ชำนาญ แต่การพูดของโยติดขัดอยู่บ้าง ซึ่งก็มาจากสมอง ลูกค้าบางท่านก็ไม่ได้สนใจคุณจะพูดชัดไม่ชัด เขาสนใจแค่คุณดูแม่นไม่แม่น ก็เริ่มมีลูกค้ามาดูกับเรา พอเริ่มไปเรียนโหราศาสตร์เรียนได้เร็วมาก คนอื่นใช้เวลาเรียนเป็นปี ๆ แต่เรามีโรคสมอง แต่ อ.แหม่ม บอกเลยว่าเรานี่แปลกนะ แสดงว่ายังไงเขาก็เลือกมาแล้ว เป็นดวงของเรา แต่พอเริ่มดูดวงได้ ยอมรับว่าสมาธิดีมาก เพราะคัมภีร์เล่มใหญ่มาก แค่ตั้งลัคนาให้คนต้องใช้สมาธิมากค่ะ ถ้าไม่มีสมาธิหลุดค่ะ ผิดลัคนาก็ต้องมาแก้ มันต้องผิดพลาดให้น้อยที่สุด ทำให้ต้องมีสมาธิ เราก็เริ่มพูดจาได้ดีขึ้น พูดจาต่อเนื่องขึ้น ใช้เวลา 6-7 เดือน แล้วก็ฝึกอยู่ทุกวัน การทำบุญสวดมนต์ก็ต้องไม่ขาด
ทางด้านศาสนาต้องไปด้วยกัน ?
โยโกะ : ต้องไปด้วยกัน บางทีเราจะมีสมาธิได้เราต้องอาศัยความจำ มีความตั้งมั่น ทางสำนักก็บอกเลยว่าสิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่การสวดมนต์หรือทำบุญในวัดอย่างเดียว สิ่งสำคัญคือคนที่ให้ดวงเรามา คือพ่อกับแม่ อันนี้เราจะไม่ขาดเลยในทุก ๆ วัน เราจะเถียงกันบ้าง รู้ว่าผิดก็เริ่มไปกราบเท้าขอโทษ จริง ๆ สำนึกดีมีอยู่แล้วค่ะ โยโตมากับวัด แม่ปลูกฝังมาดีมาก โยทำบุญมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่คนไม่รู้
จำเรื่องความรักได้บ้างไหม ?
โยโกะ : เคยแต่งงาน และต้องรอ 3 ปี ไปหย่า จำได้ว่าน่าจะถูกทำร้ายค่ะ
อยากมีแฟนอีก ไม่อยากไปไหนมาไหนคนเดียว ?
โยโกะ : อยากมีอยู่ค่ะ ยังได้อยู่ไหมคะ จริง ๆ สเปกขอเป็นคนที่ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ช่วยกันทำมาหากิน คือรักเราก็ขอให้รักแม่เราด้วย เพราะตอนนี้โยเหลือท่านอยู่คนเดียว สำคัญที่สุดในชีวิตโยแล้ว ไม่เคยชอบคนหล่อเลยค่ะ ตั้งแต่ไหนแต่ไร เมื่อก่อนสเปกเราชอบคนฉลาดมากกว่า
ภาพจาก รายการ เรื่องลับมาก (no censor)
จำได้ไหมว่าสามีเก่าเราหล่อไหม ?
โยโกะ : ไปเปิดรูปดูแล้วค่ะ ไม่ได้หล่ออะไรมากเลยค่ะ แสดงว่าสเปกยังคงเดิม ๆ ไหมคะ
ตอนนั้นที่แต่งกัน ความขัดแย้งเริ่มต้นจากอะไร จำได้ไหม ?
โยโกะ : รู้สึกว่าขัดแย้งกันตั้งแต่ตอนแต่งค่ะ เหมือนงานจะเริ่มอยู่แล้ว คุณแม่บอกว่าแต่งได้ก็เลิกได้ อะไรสักอย่างนี่แหละค่ะ เหมือนเขาพาใครมาเข้าบ้าน คุณแม่ไม่ปลื้ม
แม่ : เขาเป็นไบค่ะ พาผู้ชายเข้าบ้าน มีเพื่อนเขาบอกนี่แหละค่ะ
ไม่อยากแต่งตั้งแต่ก่อนแต่ง ?
โยโกะ : ไม่หรอกค่ะ เราเฉย ๆ ถ้าจะสร้างครอบครัวมีลูกก็อีกเรื่องหนึ่ง โยถือว่าโยเห็นมาเยอะ รับได้ เป็นความรู้สึกอย่างหนึ่ง แต่ถ้าจะสร้างครอบครัวต้องเคารพซึ่งกันและกัน ขอบเขตต้องมี เขตใครเขตใคร ต้องเคารพในการตัดสินใจและช่วยเหลือกัน ไม่ใช่มาทำร้ายกัน ตรงนี้มากกว่า
เขาพามากินในบ้านบ้างหรือเปล่า ?
โยโกะ : เพื่อน ๆ ว่าอย่างนั้นค่ะ คงมีบ้าง แต่จำไม่ได้ อาจจะเห็นด้วยหรือเปล่า ถึงได้มีเรื่องมีราวกันตั้งแต่ตอนนั้น บ้านก็บ้านเรา
ตอนเขาเอามากินที่บ้าน มีใครรู้ใครเห็นไหม ?
แม่ : ไม่ค่ะ เพราะเราอยู่กันคนละบ้าน แต่วันที่แต่งรู้สึกผู้ชายคู่ของเขาก็ไปยืนร้องไห้อยู่หลังบ้าน (หัวเราะ) แม่ก็ให้โยตัดสินใจเอง
แม่เล่าแล้วปฏิกิริยาโยเป็นยังไง ?
โยโกะ : ไม่เป็นยังไง ก็ลองดูสักตั้ง เพราะงานมันกำลังจะเริ่ม ก็อยู่กันเป็นปี ๆ
อะไรที่ทำให้ตัดสินใจว่าไม่ทนแล้ว ?
โยโกะ : แขนหักอยู่สิงคโปร์ ทำให้โยรับงานไม่ได้ เหมือนโดนชกด้วย มีสัญญาหนังทำให้ผิดสัญญากับเขาไป เราก็เหมือนไม่เอาค่าเลี้ยงดูอะไร ขอให้หย่ากันดี ๆ จ้างทนายให้จัดการที่สิงคโปร์ เพราะเรายื่นไปสถานทูตที่นั่น เขาเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นเหมือนกัน ก็ยื่นสถานทูตที่โน่น ก็หย่าได้ เพราะไม่งั้นเขาก็เสีย เพราะหน้าที่การงานเขาดีมาก
กลัวเจอแบบเดิมไหม ?
โยโกะ : บอกตรง ๆ เก้งกวางไม่กลัวนะคะ โยต้องการเป็นเพื่อนมากกว่า มันไม่ใช่สาว ๆ แล้ว เหมือนเราต้องการมีคู่คิด
เขายอมรับตรง ๆ มาเป็นเก้งกวาง แล้วมาขอเป็นคู่ชีวิต กับเขาไม่บอกว่าแอบไปกิน เลือกแบบไหน ?
โยโกะ : บอก จะรับได้ ถ้าเจอทีหลังจะฟ้องร้องค่ะ คุณมีเจตนารมณ์ไม่ซื่อตั้งแต่แรก คุณไม่ยอมบอก
ภาพจาก รายการ เรื่องลับมาก (no censor)
วัยนี้จะกลับมาถ่ายเซ็กซี่ได้ไหม ?
โยโกะ : ถ้าจ้างก็ถ่ายค่ะ เงินมาก็รับ เวลคัมมากค่ะ ทุกวันนี้เราก็ต้องหาหมออยู่ แต่ถ้าถามว่าเราจะมานั่งทุกข์อยู่กับความเจ็บป่วยมันไม่ใช่ เพราะทุกคนเกิดมามีเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา มันก็เหมือนกับโรคทั่วไปนั่นแแหละ อาจจะมากกว่าคนอื่นเขาหน่อย อาจจะยากกว่าหน่อย แต่ทุกคนมีความเสี่ยงหมด
ตอนนี้แม้ความจำหายไปบ้าง แต่มีความสุข ?
โยโกะ : ต้องมีความสุขค่ะ ทุกข์บ้างเป็นธรรมดา ถ้าจะนั่งทุกข์อย่างเดียวก็ไม่ไหวนะคะ ยิ่งตอกย้ำตัวเองให้เศร้าหมองไปเรื่อย เรื่องสมองมีผลอยู่แล้วเราจะยิ่งไปซ้ำเติมมันเหรอ มันไม่ใช่ ทำอะไรมีความสุขก็ทำไปเถอะ ทำแล้วไม่เบียดเบียนใครก็ทำไปเถอะ ถ้าอยากสวย ยิ่งป่วยยิ่งต้องสวย
แม่พอใจกับ 70 เปอร์เซ็นต์ ?
แม่ : ถ้าเต็มร้อยก็ดี ตอนนี้ก็ดีค่ะ
โยโกะ : อีก 30 แม่ต้องเหนื่อยดูแลค่ะ