ใส่แมสก์แล้วสิวขึ้น ในช่วง COVID-19 (โควิด 19) ระบาด ปัญหาผิวที่หลายคนเจอก็คือ ใส่หน้ากากอนามัยแล้วสิวขึ้น ระคายเคือง เป็นผื่น เป็นเพราะอะไรและควรทำอย่างไรดี เรามีคำตอบมาให้แล้ว
จากการระบาดของ COVID-19 (โควิด 19) หรือ โคโรนาไวรัส ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก ทำให้ชีวิตประจำวันของสาว ๆ ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยกันเกือบตลอดเวลา เพื่อป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อ แต่การสวมหน้ากากอนามัยทุกวันเป็นประจำนี่เอง ใบหน้าของเราจึงต้องสัมผัสกับหน้ากากอยู่บ่อย ๆ ทำให้หลายคนมีปัญหาผิว สิวเยอะขึ้น ระคายเคือง คัน และมีผื่นแดงตามมา ทั้งนี้ เป็นเพราะสาเหตุอะไรและจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร ? กระปุกดอทคอมมีข้อมูลดี ๆ และเทคนิคใส่หน้ากากอย่างไรไม่ให้สิวขึ้น จาก พญ.มานิตา อัตถสุริยานันท์ แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง เจ้าของเพจ Dr. Yui คุยทุกเรื่องผิว มาฝากกันแล้วค่ะ
ใส่แมสก์แล้วสิวขึ้น มีผื่นแดง เพราะอะไรกันนะ ?
สาเหตุของปัญหาใส่แมสก์แล้วสิวขึ้น ขอแยกออกเป็น 2 ประเด็น ได้แก่ อาการสิว กับ อาการคัน เป็นผื่นแดง
1. สิวที่เกิดจากการใส่หน้ากากอนามัย
สาเหตุของการเกิดสิวจากหน้ากากอนามัยนี้ ส่วนใหญ่จะเกิดจากการสะสมของผิวหนังที่ตายแล้ว น้ำมันที่ถูกขับออกมาที่อุดตันผิวหนัง ร่วมกับความชื้น ความร้อน เหงื่อ และละอองน้ำ ในบริเวณที่ผิวถูกหน้ากากครอบอยู่ ทำให้เกิดการหมักหมมของเชื้อโรค แบคทีเรีย และผิวอุดตันได้ง่าย อีกทั้งในขณะที่เราสวมใส่หน้ากากอนามัย จะเกิดการเสียดสีระหว่างหน้ากากกับผิวหน้า ทำให้ผิวระคายเคือง เกิดเป็นสิวอุดตันหรือสิวอักเสบ รวมถึงตุ่มหนองขนาดเล็ก ๆ ขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นอีกต้นเหตุหนึ่งของการเกิดสิว
2. อาการคันและผื่นแดงจากการใส่หน้ากากอนามัย
อาการคัน และเป็นผื่น อาจจะเกิดขึ้นบริเวณขอบหน้ากาก แก้ม ปาก คางและจมูกก็ได้ ส่วนใหญ่เกิดจากการระคายเคือง เช่น การกดทับ การขยับไป-มา มากกว่าเกิดจากการแพ้สัมผัสจากส่วนประกอบของหน้ากากอนามัย
สิวจากหน้ากากอนามัยหรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า “แมสเน่” (Maskne ที่มาจากคำว่า Mask + acne) จัดว่าเป็นปัญหาอันดับหนึ่งของผิวหน้าที่เกิดขึ้นจากการสวมหน้ากากอนามัย จากผลสำรวจของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทั้งนี้ ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบหน้ากากอนามัยที่ทำจากวัสดุต่าง ๆ พบว่า หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ที่ทำจาก PP Melt Blow ล้วน ๆ ก่อให้เกิดปัญหาสิวมากที่สุด ในขณะที่หน้ากากผ้าฝ้ายทำให้เกิดสิวน้อยที่สุด และหน้ากากอนามัยที่สวมครอบทับด้วยผ้าฝ้ายให้ผลกึ่งกลางระหว่างหน้ากากทั้งสอง นอกจากนั้นยังพบว่าการนำหน้ากากอนามัยมาสวมซ้ำก็ทำให้เกิดปัญหาได้มากกว่าเดิมถึง 1.5 เท่า
ดังนั้น หากเกิดอาการสิวเห่อ คัน เป็นผื่น จากการใส่หน้ากากอนามัย อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าแพ้หน้ากากอนามัย แต่อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ข้างต้นที่พบได้บ่อยกว่าค่ะ แล้วเราจะรับมือกับสิวจากหน้ากากอนามัยนี้อย่างไร รีบไปดูวิธีกันเลย
15 เคล็ดลับ ใส่หน้ากากอย่างไรไม่ให้สิวขึ้น
วิธีใส่หน้ากากอนามัยแบบง่าย ๆ ที่จะช่วยลดปัญหาผิว ทั้งสิว ผื่นคัน และอาการแพ้ สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ดังนี้
1. ล้างหน้าให้สะอาด เพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากการเกิดสิว จึงควรล้างหน้าให้สะอาดมากขึ้น ด้วยการเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับผิว หรือใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวออก อย่าลืมรีเช็กการทำความสะอาดขั้นตอนสุดท้ายโดยใช้โทนเนอร์เช็ดที่ผิว จนกว่าจะไม่มีคราบบนสำลี และควรล้างหน้าเมื่อมีเหงื่อออกมาก โดยไม่ต้องขัดหรือสครับผิวหน้า
2. งดแต่งหน้า ถ้าจำเป็นต้องแต่งจริง ๆ ให้เว้นใบหน้าครึ่งล่างไว้ แต่งเฉพาะครึ่งบนได้
3. เลือกใช้สกินแคร์ที่ไม่ทำให้อุดตันหรือเป็นสิว รวมถึงมอยส์เจอไรเซอร์ที่ก่อให้เกิดความอุดตันน้อยที่สุด วิธีง่าย ๆ คือให้สังเกตตรงฉลากจะมีคำว่า Oil-free, Non-comedogenic, Non-acnegenic, Won’t clog pore เป็นต้น
4. หลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพอากาศร้อน ที่มีผู้คนแออัด
5. ถอดหน้ากากอนามัยออกบ้าง เวลาที่อยู่คนเดียว หรืออยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก และผู้คนไม่พลุกพล่าน
6. หาทิชชูสะอาดบาง ๆ คั่น ระหว่างหน้ากากอนามัยกับใบหน้า
7. ทา Petroleum Jelly บาง ๆ บริเวณใบหน้า เพื่อลดปัญหาการเสียดสีของหน้ากากอนามัย
8. เปลี่ยนหน้ากากอนามัยอย่างน้อยวันละครั้ง ไม่ควรใช้ซ้ำ เพราะสิ่งสกปรกจะฝังแน่นอยู่ในเนื้อผ้าและทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว หรือเปลี่ยนมาใช้หน้ากากแบบผ้าที่สามารถซักทำความสะอาดได้
9. กินยาแก้แพ้ แก้คัน ช่วยลดอาการคันได้ ถ้าไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์
10. ถ้าเป็นสิว ทายาแต้มสิวได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ทุกครั้ง
11. ระวังไม่ให้เส้นผมเข้าไปในหน้ากากอนามัย เพราะความมันจากเส้นผมก็เป็นสาเหตุของสิวได้
12. ไม่ควรลองใช้สกินแคร์หรือเครื่องสำอางใหม่ ๆ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะแพ้ของใหม่
13. ทำความสะอาดพัฟหรือแปรงแต่งหน้า สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
14. เปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าปูที่นอน ควรซักและเปลี่ยนปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน เป็นประจำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือถ้าจะให้ดี เปลี่ยนสัปดาห์ละ 2 ครั้งก็ได้
15. ลดสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้เป็นสิว เช่น ไม่จับหน้าบ่อย ๆ ไม่นอนดึก ไม่กินของทอด ของหวาน
รู้แบบนี้แล้ว สาว ๆ ก็ลองนำไปปรับเปลี่ยนวิธีการใส่หน้ากากอนามัยของตัวเองกันดู และอย่าลืมให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดและบำรุงผิวหน้าหลังถอดหน้ากากอนามัยกันด้วยนะคะ คราวนี้การใส่หน้ากากก็จะไม่ใช่ปัญหาที่ทำให้หน้าพังอีกแล้ว ถึงไวรัสจะมา แต่หน้าเราต้องรอด !
ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก Dr. Yui คุยทุกเรื่องผิว, phyathai.com, utswmed.org, journals.sagepub.com
ใส่แมสก์แล้วสิวขึ้น มีผื่นแดง เพราะอะไรกันนะ ?
สาเหตุของปัญหาใส่แมสก์แล้วสิวขึ้น ขอแยกออกเป็น 2 ประเด็น ได้แก่ อาการสิว กับ อาการคัน เป็นผื่นแดง
1. สิวที่เกิดจากการใส่หน้ากากอนามัย
สาเหตุของการเกิดสิวจากหน้ากากอนามัยนี้ ส่วนใหญ่จะเกิดจากการสะสมของผิวหนังที่ตายแล้ว น้ำมันที่ถูกขับออกมาที่อุดตันผิวหนัง ร่วมกับความชื้น ความร้อน เหงื่อ และละอองน้ำ ในบริเวณที่ผิวถูกหน้ากากครอบอยู่ ทำให้เกิดการหมักหมมของเชื้อโรค แบคทีเรีย และผิวอุดตันได้ง่าย อีกทั้งในขณะที่เราสวมใส่หน้ากากอนามัย จะเกิดการเสียดสีระหว่างหน้ากากกับผิวหน้า ทำให้ผิวระคายเคือง เกิดเป็นสิวอุดตันหรือสิวอักเสบ รวมถึงตุ่มหนองขนาดเล็ก ๆ ขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นอีกต้นเหตุหนึ่งของการเกิดสิว
2. อาการคันและผื่นแดงจากการใส่หน้ากากอนามัย
อาการคัน และเป็นผื่น อาจจะเกิดขึ้นบริเวณขอบหน้ากาก แก้ม ปาก คางและจมูกก็ได้ ส่วนใหญ่เกิดจากการระคายเคือง เช่น การกดทับ การขยับไป-มา มากกว่าเกิดจากการแพ้สัมผัสจากส่วนประกอบของหน้ากากอนามัย
ดังนั้น หากเกิดอาการสิวเห่อ คัน เป็นผื่น จากการใส่หน้ากากอนามัย อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าแพ้หน้ากากอนามัย แต่อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ข้างต้นที่พบได้บ่อยกว่าค่ะ แล้วเราจะรับมือกับสิวจากหน้ากากอนามัยนี้อย่างไร รีบไปดูวิธีกันเลย
วิธีใส่หน้ากากอนามัยแบบง่าย ๆ ที่จะช่วยลดปัญหาผิว ทั้งสิว ผื่นคัน และอาการแพ้ สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ดังนี้
1. ล้างหน้าให้สะอาด เพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากการเกิดสิว จึงควรล้างหน้าให้สะอาดมากขึ้น ด้วยการเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับผิว หรือใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวออก อย่าลืมรีเช็กการทำความสะอาดขั้นตอนสุดท้ายโดยใช้โทนเนอร์เช็ดที่ผิว จนกว่าจะไม่มีคราบบนสำลี และควรล้างหน้าเมื่อมีเหงื่อออกมาก โดยไม่ต้องขัดหรือสครับผิวหน้า
3. เลือกใช้สกินแคร์ที่ไม่ทำให้อุดตันหรือเป็นสิว รวมถึงมอยส์เจอไรเซอร์ที่ก่อให้เกิดความอุดตันน้อยที่สุด วิธีง่าย ๆ คือให้สังเกตตรงฉลากจะมีคำว่า Oil-free, Non-comedogenic, Non-acnegenic, Won’t clog pore เป็นต้น
4. หลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพอากาศร้อน ที่มีผู้คนแออัด
5. ถอดหน้ากากอนามัยออกบ้าง เวลาที่อยู่คนเดียว หรืออยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก และผู้คนไม่พลุกพล่าน
6. หาทิชชูสะอาดบาง ๆ คั่น ระหว่างหน้ากากอนามัยกับใบหน้า
7. ทา Petroleum Jelly บาง ๆ บริเวณใบหน้า เพื่อลดปัญหาการเสียดสีของหน้ากากอนามัย
9. กินยาแก้แพ้ แก้คัน ช่วยลดอาการคันได้ ถ้าไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์
10. ถ้าเป็นสิว ทายาแต้มสิวได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ทุกครั้ง
11. ระวังไม่ให้เส้นผมเข้าไปในหน้ากากอนามัย เพราะความมันจากเส้นผมก็เป็นสาเหตุของสิวได้
12. ไม่ควรลองใช้สกินแคร์หรือเครื่องสำอางใหม่ ๆ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะแพ้ของใหม่
13. ทำความสะอาดพัฟหรือแปรงแต่งหน้า สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
14. เปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าปูที่นอน ควรซักและเปลี่ยนปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน เป็นประจำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือถ้าจะให้ดี เปลี่ยนสัปดาห์ละ 2 ครั้งก็ได้
15. ลดสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้เป็นสิว เช่น ไม่จับหน้าบ่อย ๆ ไม่นอนดึก ไม่กินของทอด ของหวาน
รู้แบบนี้แล้ว สาว ๆ ก็ลองนำไปปรับเปลี่ยนวิธีการใส่หน้ากากอนามัยของตัวเองกันดู และอย่าลืมให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดและบำรุงผิวหน้าหลังถอดหน้ากากอนามัยกันด้วยนะคะ คราวนี้การใส่หน้ากากก็จะไม่ใช่ปัญหาที่ทำให้หน้าพังอีกแล้ว ถึงไวรัสจะมา แต่หน้าเราต้องรอด !
ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก Dr. Yui คุยทุกเรื่องผิว, phyathai.com, utswmed.org, journals.sagepub.com