เอ ศุภชัย เล่าอดีตช้ำรัก คนคุยกันมา 5 ปี นอกใจ เช่าเครื่องบินส่วนตัวไปตาม

           เอ ศุภชัย ย้อนความรักในอดีตสุดช้ำ จับได้คนที่คุยกันมาเกือบ 5 ปี นอกใจ ลงทุนเช่าเครื่องบินส่วนตัวไปตามกลับมา
 

          แม้จะเป็นผู้จัดการดาราคนดัง ใช้ชีวิตหรู อยู่สบาย แต่ใครจะรู้ว่า เอ ศุภชัย นั้น ก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากเกี่ยวกับความรักด้วยเหมือนกัน โดยล่าสุด เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Club Friday Show เทปพิเศษ เปิดใจเกี่ยวกับเรื่องความรักที่ผ่านมาว่า ตัวเองเป็นคนที่ชอบคนที่เขาไม่ชอบเรา ชอบคนที่ได้มายาก ๆ ต้องวิ่งตาม ความรักของตนจึงเป็นความรักที่คลุมเครืออยู่ตลอด เป็นความรักที่มโนว่าเขาต้องรักเรา
 

          ก่อนจะเล่าถึงอดีตรักที่เคยเจ็บปวดว่า ครั้งหนึ่งตัวเองเศร้าและเหงามาก จึงไปไหว้พระที่วัดท่าไม้ แล้วบอกว่า วันนี้เป็นวันสงกรานต์ไม่รู้จะสาดน้ำกับใคร ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยดลบันดาลให้เจอใครก็ได้ หลังจากทำบุญไหว้พระเสร็จ ก็ขับรถมาจอดที่โรงแรมดุสิตธานี ขณะที่กำลังเดินออกไปนอกโรงแรม มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาชน ทำให้ตนหกล้มเหมือนในนิยาย ก่อนเขาจะดึงมือขึ้นแล้วบอกว่า อ้าว พี่เอ ศุภชัย เหรอ ซึ่งตนก็ชวนไปเล่นน้ำ และเขาก็ตอบตกลงไปเล่นด้วย จึงคิดว่ามันต้องเป็นสิ่งที่อธิษฐานกับพระแน่ ๆ
 

           หลังจากนั้นก็คุยกันมาเกือบ 5 ปี ซึ่งต่างคนต่างรู้สึกว่ามันมีความพิเศษขึ้นมานิดหนึ่ง มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน เขาก็ยืมรถไปขับบ้าง แล้วบังเอิญตนไปจอดรถที่สนามบิน ก็เห็นรถเขาจอดอยู่ข้าง ๆ ซึ่งวันนั้นเขาบอกว่า จะไปทำรายงานกับเพื่อน ตนจึงโทร. ไปที่สนามบิน ซึ่งมีเส้นสายอยู่ จึงเช็กได้ว่าเขาบินไปต่างจังหวัดกับคนคนหนึ่ง ตนก็รู้สึกช็อก จึงส่งคนบินไปตามเขาที่เกาะนั้นเลย พร้อมกับเช่าเรือส่วนตัว และเครื่องบินส่วนตัวขึ้นไปรับ เพราะมันดึกแล้ว ตนจับได้ตอนเกือบ 5 ทุ่ม


           แถมยังโทรศัพท์ไปหาหน่วยของตัวเองที่อยู่ฝั่งอ่าวไทย ซึ่งเขาก็กลับมา แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะไปอยู่กับหัวใจ ซึ่งตอนนั้น เอ ศุภชัย ยอมรับว่า มีมุมที่ร้องไห้ โทรศัพท์ไปหาพี่อ้อย พี่ฉอด คลับฟรายเดย์ โดยจะปลอมเสียงว่าเป็นใครสักคน แต่เพื่อนก็บอกว่าปลอมไม่ได้หรอก ใจหนึ่งก็กลัว ใจหนึ่งก็กดไปแล้ว แต่ก็ตัดใจวางสายไปก่อน เดี๋ยวจัดการเอง
 

           ซึ่งตามจริงตนก็แอบสงสัยอยู่หลายอย่างแล้ว เนื่องจากรถของตนคันนี้ที่เขายืม แอบติดเนวิเกเตอร์ไว้โดยที่เขาไม่รู้ ก็เห็นว่าเขาไปอยู่ที่เดิมทุกวันในเวลากลางคืน ยอมรับว่า เหตุการณ์นี้ ตนเสียใจมาก ไม่รู้จะปรึกษาใคร ปิดรถแล้วไปร้องไห้คนเดียว


           ก่อนที่จะไปเคลียร์เรื่องความสัมพันธ์ ตนก็ร้องไห้ โดยตอนแรกตนยอมรับในสภาพความสัมพันธ์แบบ 3 คนได้ แต่ในใจคือรับได้ไม่จริง ๆ จากนั้นตนกลับมาถึงบ้านยังไม่ทันถึง 2 ชั่วโมง เขาไม่โทรศัพท์กลับมาตนก็โกรธ หลังจากเหตุการณ์นี้ ก็ใช้เวลาเกือบเดือนที่น้อง ๆ คนที่รักตน สลับกันมานอนเป็นเพื่อน

           แต่กลางคืนก็ไม่หลับไม่นอน ถึงขั้นไปนุ่งขาวห่มขาว ซึ่งพระท่านให้กินกล้วย และข้าวกับเกลืออย่างเดียว 3 วัน นั่งใต้ต้นไม้อยู่เกือบถึงชายแดนพม่า วิปัสสนาให้มันทุกข์ไปเลย แต่หลังจากนั้นก็คิดได้ว่า ทำไมเราทำดีเราต้องได้ทุกข์ด้วย ก็เลยเริ่มปลง จากเคียดแค้นก็กลายเป็นเบาลง เริ่มไปมีความสุขโดยการอยู่กับเพื่อน ไปท่องเที่ยว เพราะถ้ายิ่งโกรธเขา มันจะยิ่งไม่จบ แต่กว่าจะทำใจให้หายโกรธก็ยากมาก ใช้เวลาทำใจ 2 เดือนเต็ม ๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก Club Friday Show