จากกรณี แม่ปุ๊ อรพิน วรธรรม มารดาของ โอ วรุฒ วรธรรม ได้จากไปอย่างสงบแล้ว ซึ่งพบว่าทั้งครอบครัวต้องสูญเสีย 3 ชีวิต ในเวลา 3 ปีติดกัน
อ่านข่าว : เผยครอบครัวโอ วรุฒ เสีย 3 คน ใน 3 ปี - ญาติเผยความเศร้า นาทีก่อนแม่ปุ๊ อรพิน เสียชีวิต
ล่าสุด อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2563 เวลา 08.00 น. ครอบครัววรธรรม ได้ทำการเคลื่อนย้ายร่างของ คุณแม่ปุ๊ อรพิน จากโรงพยาบาลล้านนา จ.เชียงใหม่ มาถึงวัดศรีเอี่ยม เขตบางนา กรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 19.30 น. โดยมี นีโน่ เมทนี พร้อมญาติพี่น้อง อยู่รอรับ ณ ศาลา 5 ของวัด เพื่อเตรียมพิธีรดน้ำศพในวันที่ 7 กรกฎาคม ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป และจะเริ่มสวดอภิธรรมตั้งแต่เวลา 18.00 น. ไปจนถึงวันที่ 10 กรกฎาคม ก่อนที่จะประชุมเพลิงในวันที่ 11 กรกฎาคม 2563 เวลา 16.00 น.
นีโน่ เมทนี ได้ระบุว่า ก่อนที่แม่ปุ๊จะเสียชีวิต ท่านได้มีโอกาสพูดคุยกับตนเรื่องการทำพินัยกรรม เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย โดยได้เตรียมทนายความให้ไปหาที่ จ.เชียงใหม่ แต่ด้วยสถานการณ์ โควิด 19 จึงไม่สามารถเดินทางไปหากันได้
จากนั้นในช่วงก่อนที่แม่ปุ๊จะเสียชีวิต 1 อาทิตย์ ตนได้เดินทางไปหาแม่ปุ๊ที่ จ.เชียงใหม่ พร้อมจัดหานายอำเภอ และปลัดอำเภอ เพื่อให้เป็นคนกลางหรือพยานที่มีน้ำหนักมากพอ เพื่อจัดการเรื่องพินัยกรรมให้ แต่พบว่าแม่ปุ๊ยังสวมเครื่องช่วยหายใจอยู่ จึงไม่สามารถทำได้ แม้ว่าแม่ปุ๊จะสามารถพยักหน้ารับรู้ได้ แต่ไม่ถือว่ามีสติสัมปชัญญะครบถ้วน
จากนั้นดูเหมือนว่าแม่ปุ๊จะอาการดีขึ้น แพทย์สามารถถอดเครื่องช่วยหายใจ สามารถตอบโต้ได้เบา ๆ และไม่ต้องเจาะคอตามแผนการรักษาของแพทย์ในตอนแรก แต่ในเวลาต่อมาชีพจรแม่ปุ๊ก็เริ่มทำงานช้าลง จนกระทั่งเวลา 07.42 น. ท่านก็ได้จากไปอย่างสงบ
นีโน่ เมทนี ระบุอีกว่า แม่ปุ๊ได้ฝากฝังตนเรื่องให้ช่วยดูแลหลาน รวมทั้งจัดสรรบ้านที่ จ.เชียงใหม่ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมอบให้กับ คุณเอ้ก หลานชายหรือลูกชายคนโตของโอ วรุฒ ส่วนเงินสดที่แฟนคลับร่วมทำบุญตั้งแต่โอเสียชีวิตที่ยังเหลืออยู่เกือบ 1 ล้านบาท น่าจะแบ่งให้กับคนใกล้ชิดที่ดูแลแม่ปุ๊มาโดยตลอด ขณะที่ทรัพย์สินส่วนตัวอื่น ๆ ก็จะแบ่งให้แก่ลูกหลานตามความเหมาะสม
ส่วนสาเหตุที่แม่ปุ๊ไว้ใจให้ตนเป็นคนจัดการในเรื่องนี้ น่าจะเป็นเพราะแม้ตนจะไม่ใช่ญาติโดยตรง แต่เป็นคนเดียวที่อยู่เคียงข้างครอบครัวมาตลอด และที่ผ่านมา ตนก็นับถือกันเหมือนพี่เหมือนน้องในสายเลือด และไม่เคยหวังผลประโยชน์ใด ๆ ซึ่งหากหน้าที่ทางพินัยกรรมตรงนี้จบลง ก็ถือว่าเป็นที่สิ้นสุดของการดูแลครอบครัวของเพื่อนรักคนนี้
นีโน่ เผยความรู้สึกเพิ่มเติมทั้งน้ำตาว่า ตนไม่เคยคิดว่าสิ่งที่ทำมาตลอดตั้งแต่โอเสียชีวิตเป็นภาระ แต่คิดว่าเป็นหน้าที่ที่จะต้องทำให้สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ และยังคงรู้สึกว่าเพื่อนรักของตนยังอยู่ข้าง ๆ เสมอ ไม่ว่าจะไปเที่ยวหรือไปไหนก็ตาม เพราะเขายังเป็นห่วงคุณแม่ แต่นับจากนี้ทั้ง 3 ท่านน่าจะหมดห่วง และไปสู่ภพภูมิที่ดี
ขอบคุณข้อมูลจาก อมรินทร์ ทีวี