ทำเอานักแสดงสาว แก้มบุ๋ม ปรียาดา ถึงกับหัวร้อนสุด ๆ หลังเจอผู้ไม่หวังดีกล่าวหาว่า ร้านคาเฟ่สัตว์ของ สาวแก้มบุ๋ม ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่ดี หลังออกมาโพสต์ภาพว่า คาเฟ่ของดาราปล่อยให้สุนัขกินอุจจาระ จนเจ้าตัวปรี๊ดแตกเพราะไม่เป็นความจริง และถือว่าถูกใส่ร้าย จึงได้ให้ทนายยื่นฟ้องเจ้าของโพสต์รายดังกล่าวไป
ล่าสุด (14 กรกฎาคม 2563) แก้มบุ๋ม ปรียาดา ก็ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ วันบันเทิง ว่า เกิดจากตอนช่วงที่ร้านปิด โควิด 19 แล้วตอนนั้นร้านตัดขนอะไรก็ปิด เด็กที่ร้านก็เลยต้องไถขนสัตว์ในร้านเอง ซึ่งก็ทำให้หมาที่โดนตัดขนเหมือนเป็นหมาที่เป็นแผลที่ผิวหนังเพราะมันแหว่ง ๆ แล้ววันนั้นร้านก็ปิดพอดี แต่เจ้าของโพสต์คนนั้นเขามาถ่ายรูปที่ร้านเราแล้วไปโพสต์ว่า "หมาขอความช่วยเหลือ ร้านคาเฟ่ ปล่อยให้หมากินอุจจาระ" ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นบนพื้นก็ยังมีอาหารเม็ดอยู่เลย แล้วเราก็เปิดแอร์ให้หมา 24 ชั่วโมงด้วยซ้ำ
ตอนเขาโพสต์เขาไม่ถามเราเลย เขาเอาไปโพสต์ในกลุ่มคนรักสัตว์ ทีนี้ก็ทำให้คนเข้าใจเราผิดว่าเป็นคาเฟ่ดาราให้หมากินอุจจาระ เราก็รู้สึกว่าไม่โอเค ตอนนั้นเราก็เลยตัดสินใจปูพื้นกระเบื้องเลยทั้ง ๆ ที่เรากำลังจะย้ายร้าน เพราะเราไม่อยากเสียค่าเช่า ตอนนั้นก็เลยเสียเงินไปเป็นแสน ซึ่งวันรุ่งขึ้นก็มีกรมต่าง ๆ เข้ามาตรวจที่ร้านเลย ซึ่งทางกรมเขาก็บอกว่าร้านโอเคทุกอย่าง ส่วนเรื่องอาหารหมา เราก็ซื้อเยอะมาก ซื้อที 30-40 กระสอบ เพราะไม่ได้ซื้อให้แค่หมาเรา แต่เราซื้อให้คนที่ไม่มีเงินซื้อให้หมาเขาในช่วง โควิด 19 ด้วย
สาวแก้มบุ๋ม ได้เผยต่อว่า เรารู้สึกว่าเสียหายมากจึงตัดสินใจฟ้อง ตอนนี้ก็ดำเนินคดีอยู่ ตอนแรกเราก็คิดว่าช่างมันเถอะ แต่แทนที่เขารู้แล้วว่าเรื่องมันผิดพลาด เขาดันเถียงเรากลับ ไม่ฟังอะไรเลย จนเราให้อภัยไม่ได้ ไม่ขอโทษและไม่ลบโพสต์ด้วย จนมีคนส่งข้อความมาถามเราเยอะมาก แต่เขาจะมาขอโทษในวันที่เราบอกว่าจะฟ้องเขากลับแล้ว ตอนที่เขาคุยกับทนายเรา เขาบอกว่าเขาจะขอโทษ แต่เราก็รู้สึกว่าไม่ทันแล้วไหม คนเรามันมีโอกาสให้แก้ตัวแล้วแต่เขาไม่ทำ ตอนนั้นเขาอ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นร้านของเรา แต่ใต้โพสต์เขากลับโพสต์ภาพของเราไว้ ตอนนี้ก็ขอให้เป็นเรื่องของกฎหมายไปเลย
ทั้งนี้ สาวแก้มบุ๋ม ยังทิ้งท้ายว่า อยากให้เข้าใจเจตนาในการเปิดร้านว่าเราเปิดเพราะเรารักสัตว์ และอยากให้คนที่รักสัตว์ได้เข้ามาเล่นกับสัตว์ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเลี้ยงเองว่ามันเหมาะกับเขาไหม บางวันไม่มีลูกค้าเข้า เราก็ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ไม่เคยขอรับบริจาคเงิน เหลือบางส่วนเราก็ยังแบ่งปันให้
มองว่าการที่เขาโพสต์แบบนี้มันกระทบเราจริง ๆ คนอื่นก็มองเราไม่ดี จะมีอีกกี่คนที่เข้าใจผิดในตัวเรา และอีกกี่คนที่ไม่รู้ในสิ่งที่เราชี้แจงไป เราไม่สามารถให้คนกลุ่มนั้นมาเชื่อในสิ่งที่เราพูดได้ มันเสียหายไปแล้ว จนทำให้ทุกวันนี้เราอยากช่วยสัตว์แต่ก็ไม่กล้าไปออกตัวหรือโพสต์อะไรเลย จะไปเดินในที่ต่าง ๆ ที่มีคนรักสัตว์ก็ไม่กล้าไป เพราะเราก็ไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นจะเข้าใจเราผิดหรือเปล่า มันทำร้ายความรู้สึกของเรา ทำให้เรารู้สึกว่าเรามีปม