ต้องบอกว่าเป็นพระเอกละครพื้นบ้านที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี สำหรับ หนึ่ง มาฬิศร์ เชยโสภณ เพราะตอนนั้นละครทำเรตติ้งได้สูงสุดถึง 19 แจ้งเกิดเปรี้ยงจากละครจักร ๆ วงศ์ ๆ แต่เมื่อถึงจุดที่ละครพีคสุดชีวิตกลับดิ่งลง ทั้งเสียคุณพ่อ-คุณแม่ ไม่มีงานจนต้องหันมาพึ่งยาเสพติดจนถูกตำรวจจับ โดยเจ้าตัวออกมาพูดทุกประเด็นในรายการ คุยแซ่บShow ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกร
เรตติ้งละครสูงมาก ?
หนึ่ง : ตอนเข้ามาก็เล่นละครทั่วไป ผ่านไป 3 ปี ก็มาเล่นจักรวงศ์ เล่นเป็นพระเอก เราก็มีฐานคนดูจากละครมาแล้วส่วนหนึ่งด้วย ละครเช้าเป็นละครที่คนดูเยอะมากเป็นปกติอยู่แล้ว ก็เลยกลายเป็นว่าเรื่องที่เรามาเล่นมีฟีดแบ็กที่ดี เรื่องสนุก มันเลยทำให้ช่วงนั้นเรตติ้งขึ้นสูงมาก เรื่องที่เรตติ้งเยอะที่สุดคือดาบเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง
หลังจากได้เรตติ้ง 19 สูงสุด งานเริ่มลดลง ?
หนึ่ง : ตอนนั้นถือว่าพีคมากประมาณ 4-5 ปี ช่วงนั้นถ่ายจักรวงศ์ ละครเย็น ละครหลังข่าวด้วย นั่นคือพีคสุดเลย พอหลังจากนั้นพ่อป่วยเป็นมะเร็ง หมอบอกประมาณ 6 เดือน เราก็ช็อก แต่ก็รักษากันไปตามอาการ ช่วงหนึ่งคุณแม่เครียด ด้วยความที่เป็นเบาหวาน ความดันอยู่แล้ว ก็เส้นเลือดในสมองปริเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งหนึ่ง จากคุณพ่อที่ป่วยอยู่ก็มีแรงลุกขึ้นมาดูแลคุณแม่เฉยเลย อยู่ได้จนเลย 6 เดือน จนคุณแม่เริ่มดีขึ้น ประมาณ 9 เดือน พ่อก็ไป คุณแม่เสียหลังคุณพ่อประมาณ 2 ปี ตอนนั้นคุณแม่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมา 6 เดือนแล้ว วันก่อนที่จะไปคุณแม่มาปลุกผม ปกติก็ไม่เชื่อเรื่องนี้ ก็มาปลุกมาเรียก เราก็แบบปลุกอะไรยังไม่สว่างเลย ลืมตามาก็นึกได้ว่าแม่ไม่อยู่ แม่อยู่โรงพยาบาล แล้วโทรศัพท์ก็ดังให้มาด่วนคุณแม่จะเสียแล้ว
ช่วงเสียพ่อแม่หันไปหายาเสพติด ?
หนึ่ง : มันเป็นความอ่อนแอของเราเอง มันเหมือนเป็นการหนี ตอนพ่อเสียก็มีเงินที่เป็นมรดกตกทอดมาให้ เรามีเงินส่วนตัวด้วย เริ่มทำธุรกิจด้วย ปรากฏว่ามันไม่สำเร็จ สุดท้ายก็หมดเงินไปกับตรงนั้น แต่เราก็คิดว่าไม่เป็นไร เรายังมีงานละคร มันคงเลี้ยงชีพเราต่อไปได้ เราก็มีความคาดหวัง แต่ปรากฏว่าช่วงนั้นมันเป็นช่วงที่เราพีคสุด ๆ ละครแน่นสุด ๆ แล้วก็หายไปเลย ไม่มีเลยยาว ๆ เราก็คิดว่ายังมีเงินเก่า เก็บเอาไปใช้ส่วนหนึ่ง ลงทุนส่วนหนึ่ง สุดท้ายพอมันไม่เวิร์ก เงินก็หายไปเรื่อย ๆ งานก็ไม่มี คิดลบแหละ แต่ก็ยังใช้ชีวิตปกติ เงินก็หายไปเรื่อย ๆ ที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะเราหนีปัญหา พอเราไปปรึกษาใครก็ไม่มีใครเชื่อ แต่พอสุดท้ายแล้วเราก็หนีได้แป๊บเดียว ปัญหามันก็ยังอยู่ที่เดิมวนลูปไปอย่างนั้น
ถูกตำรวจจับ ?
หนึ่ง : ใช่ครับ ถือเป็นเรื่องที่ดีนะ เราไม่รู้ว่าถ้าตำรวจไม่มาจับเรา เราก็เป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน โดนจับไปอยู่ห้องขัง ซึ่งช่วงเวลานี่ทำให้เราคิดเรื่องราวเก่า ๆ กลับเข้ามา อะไรที่แม่คอยสอนเคยพูด พอสติกลับมาปุ๊บทุกอย่างมันกลับมาเร็วมาก เลยทำให้รู้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะสภาพแวดล้อมใด ๆ เลย ตัวเราเองทั้งนั้น พอยอมรับตัวเองได้มันก็จบเลย ไม่อยากฆ่าตัวตาย ไม่โทษใคร หลังจากนั้นมาคือเราเป็นผู้เสพ ก็ถือเป็นผู้ป่วยส่งบำบัด ไปบำบัดที่สาธารณสุขเขต ไปคุยกับเจ้าหน้าที่
เอาสมบัติเก่ามาขายกิน ?
หนึ่ง : มันเป็นเรื่องช่วงโควิด มีเพจธรรมศาสตร์ที่ฝากร้าน มันดูแล้วสนุกดีก็เลยแบบอยากขายมั่ง มีอะไรขายบ้าง เรามีที่ที่เชียงใหม่ จริง ๆ ประกาศขายอยู่แล้ว เราก็เขียนเป็นเรื่องตลกไป ปรากฏว่ามีสื่อดึงเอาไปเล่น มีปัญหาโควิดนี่หว่าเอามรดกมาขายกิน แล้วมันมีรูปที่ตอนนั้นเราอาหารเป็นพิษโทรม ๆ ลงไอจี เขาเอารูปนั้นไปประกอบข่าว เป็นข่าวเดียวกันที่บอกว่าเป็น HIV ก็เอารูปนี้ไปประกอบข่าวเหมือนกัน
หุ่นแซ่บในวัย 50 ?
หนึ่ง : ถ่ายออกมาแล้วมันได้มุมนี้พอดี ถ้าคนติดต่อมาถ่ายแบบคงไม่ครับ
ตอนนี้โสดไหม ?
หนึ่ง : โสดครับ โสดมาเป็นสิบปีแล้ว แม่ดูดวงตั้งแต่เกิดมาแล้วว่าดวงนี้เป็นดวงไม่มีคู่ ตอนบั้นปลายชีวิตบวชตลอดชีวิตแล้วจะดี
คบได้ทุกเพศ ?
หนึ่ง : พี่ปุ๊ อัญชลี บอกว่าวันหนึ่งมันถึงเวลาคงพูดว่าใครก็ได้สำหรับตัวฉัน ถ้าเขานั้นชอบฉันจริงใจ
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.45-14.45 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama