นายวรชาติ ธรรมวิจินต์ หรือ พล่ากุ้ง พร้อมทนายเดินทางมายังศาลแขวงพระนครเหนือ อาคารเอ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ เพื่อไต่สวนมูลฟ้อง กรณีที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเพื่อนรุ่นน้อง ในข้อหาฉ้อโกง หลังชักชวนให้ร่วมลงหุ้นส่วนธุรกิจ ผลิตสินค้ากล้วยทอด ชื่อแบรนด์ “Sexy Banana” โดยพล่ากุ้ง ลงเงินร่วมหุ้นไปจำนวน 1,000,000 บาท แต่กลับไม่มีการเอาไปร่วมผลิตสินค้าดังกล่าวเลย
นายวรชาติ หรือ พล่ากุ้ง เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการขึ้นศาลครั้งแรกในชีวิต เพราะโดนฉ้อโกงเงินจำนวน 1 ล้านบาท เมื่อ 2 ปีก่อนจากน้องคนหนึ่ง เอากล้วยทอดยี่ห้อเซ็กซี่บานาน่าไปแข่งในรายการ ที่ตนเป็นกรรมการฝ่ายเอนเตอร์เทนเมนต์ เมื่อลองทาน รู้สึกว่ามันอร่อยมาก และน้องคนนั้นก็ชนะการแข่งขัน หลังจบรายการจึงเข้าไปพูดคุย จนทราบว่าเป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัย ก่อนเริ่มติดต่อทำธุรกิจร่วมกัน
จากนั้นประมาณ 4-5 เดือน จึงตกลงหุ้น ร่างสัญญาลงเงิน สูตรการทำ วางขายที่พารากอน และเดอะมอลล์ ติดอันดับว่าเป็นสินค้าขายดีด้วย จึงร่วมหุ้นลงไปเป็นเงินสดจำนวน 1 ล้านบาท
โดยช่วงแรกนำสินค้าให้เพื่อนในวงการกิน ทุกคนต่างชมว่าอร่อย จึงติดต่อกับนักธุรกิจสหรัฐอเมริกาที่รู้จักกัน และทำร่างสัญญากันว่าจะนำไปขายที่อเมริกา แต่ผ่านไป 4-5 เดือน อีกฝ่ายกลับขาดการติดต่อไปจนนักธุรกิจคนดังกล่าวได้สินค้าจากรายอื่น
นอกจากนี้ยังติดต่อกับนักธุรกิจในประเทศจนได้รับคำแนะนำ แต่ผ่านไป 3-4 เดือน ก็ยังไม่ทำอะไร ซึ่งอีกฝ่ายอ้างว่าช่วงนี้ไม่ค่อยว่าง เพราะต้องทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วย พร้อมกับยืนยันว่าสินค้ายังคงมีขายในห้างและขายดีตามเดิม แต่เมื่อไปตรวจสอบกลับไม่พบสินค้าวางจำหน่ายแล้ว
ทั้งนี้ พล่ากุ้ง กล่าวว่า ในสัญญามีรายละเอียดระบุไว้เรื่องการแบ่งเงินกัน แต่ตลอดสองปีที่ผ่านมา ไม่ได้เงินจากการขายขนมยี่ห้อนี้แม้แต่บาทเดียว กระทั่ง 5 เดือนก่อน ได้ติดต่อเจรจาไกล่เกลี่ย ซึ่งอีกฝ่ายขอโทษ อ้างว่าแบ่งเงินที่ได้จากตนไปทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จนมีปัญหาเงินหาย ซึ่งวันนั้นอีกฝ่ายเจรจาขอจ่ายให้ 500,000 บาท และลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ
หลังจากวันนั้นผ่านมา 5 เดือน ก็ไม่มีการติดต่อสื่อสารใด ๆ จึงตัดสินใจให้ทนายความฟ้องเขาในคดีฉ้อโกง
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าว INN