วิธีดูแลผิวหน้า ให้สวยใส สุขภาพดี อมชมพูแบบมีเลือดฝาด ทำอย่างไร สำหรับสาว ๆ คนไหนที่มีปัญหาสิว ผิวหน้าไม่เรียบเนียน หมองคล้ำ เรามีเคล็ดลับดูแลผิวหน้าที่ถูกต้องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาฝาก งานนี้ใครอยากมีผิวหน้าเนียนใสแบบไร้ที่ติไม่ควรพลาด
เชื่อได้เลยว่าสาว ๆ ร้อยทั้งร้อยอยากมีผิวสวย หน้าเนียนใส สุขภาพดี เพราะนอกจากจะทำให้เราดูดีขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองด้วย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้หญิงถึงได้ขะมักเขม้นในการค้นคว้าหาวิธีดูแลผิวหน้าให้สวยใสอยู่ตลอดเวลา โดยปัจจัยที่ทำให้หน้าไม่เรียบเนียน และหมองคล้ำ เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การรับประทานอาหาร มลภาวะทางอากาศ แสงแดด สิ่งแวดล้อมภายนอก ความเครียด และที่สำคัญคือการดูแลผิวหน้าแบบผิดวิธี ซึ่งนำไปสู่ปัญหาผิวมากมายไม่รู้จบ
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ไม่มั่นใจว่าทุกวันนี้เราดูแลผิวหน้าถูกวิธีหรือไม่ ? วันนี้กระปุกดอทคอมได้นำความรู้เกี่ยวกับวิธีดูแลผิวหน้าที่ถูกต้องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาฝาก ถ้าใครอยากหน้าสวยใสแบบมีสุขภาพดี บอกเลยว่าห้ามพลาดเชียวนะ
1. เลือกใช้คลีนเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง
สาว ๆ หลายคนอาจจะคิดว่าเราสามารถใช้คลีนเซอร์แบบไหนก็ได้ บอกเลยว่าเป็นความคิดที่ผิด เพราะถึงแม้คลีนเซอร์จะเป็นแค่ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาด แต่ก็มีผลกับผิวหน้าของเราโดยตรง ดังนั้น ควรเลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพผิว เช่น สาวผิวแห้งควรเลือกคลีนเซอร์สูตรน้ำนม ที่อ่อนโยน และไม่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ส่วนใครที่มีปัญหารอยสิว ฝ้า กระ และจุดด่างดำต่าง ๆ แนะนำให้ใช้คลีนซิ่งที่มีส่วนผสมของกรดอัลฟาไฮดรอกซี หรือที่เรียกว่าเอเอชเอ (AHAs) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น พร้อมลดเลือนรอยดำรอยแดงต่าง ๆ ให้ดูจางลง
2. เช็ดเมคอัพรอบดวงตาอย่างเบามือ
ผิวรอบดวงตาเป็นส่วนที่บอบบางกว่าผิวบริเวณอื่น ๆ เพราะฉะนั้น เราจึงต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเวลาที่สาว ๆ เช็ดคราบเมคอัพบริเวณรอบดวงตา แนะนำให้ใช้อายเมคอัพรีมูฟเวอร์สูตรอ่อนโยนหยดลงบนสำลี จากนั้นแปะทิ้งไว้บนเปลือกตาสักพัก แล้วเช็ดออกเบา ๆ ส่วนอายไลเนอร์ และมาสคาร่าที่เช็ดออกไม่หมด ให้นำอายเมคอัพรีมูฟเวอร์หยดลงบนคอตตอนบัดแล้วค่อย ๆ เช็ดออกอีกครั้ง วิธีนี้จะช่วยกำจัดคราบเมคอัพบริเวณรอบดวงตาได้อย่างสะอาดหมดจด และไม่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรจากการเช็ดเครื่องสำอางที่แรงจนเกินไป
3. ใช้ผ้าขนหนูซับหน้าเบา ๆ หลังล้างหน้า
การใช้ผ้าขนหนูถูหรือเช็ดหน้าแรง ๆ นอกจากจะทำให้ผิวหน้าระคายเคืองจนเกิดปัญหาสิวต่าง ๆ ตามมาแล้ว ยังเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรด้วย วิธีเช็ดหน้าที่ถูกต้องก็คือ ใช้ผ้าขนหนูซับน้ำบนผิวหน้าออกอย่างเบามือเท่านั้นก็พอแล้ว
4. ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าเยอะจนเกินไป
หลายคนเข้าใจผิดว่าการทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าเยอะ ๆ ยิ่งทำให้ผิวสวยเป๊ะ แต่ความจริงแล้วนอกจากจะเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุแล้ว การประโคมทั้งครีม เซรั่ม และอีกมากมายลงบนผิวหน้ายังทำให้เกิดปัญหาสิวอุดตันตามมาด้วย ดังนั้น ควรใช้แต่พอดี และเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวเราที่สุดจะดีกว่า
5. หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้าตัวเองบ่อย ๆ
การใช้มือสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ ไม่เพียงแต่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวเท่านั้น ยังอาจทำให้สาว ๆ เจ็บป่วยโดยไม่รู้ตัว เพราะในแต่ละวันมือของเราสัมผัสกับสิ่งสกปรกมากมาย ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ควรใช้มือสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนนำมาสัมผัสใบหน้า
6. อย่าละเลยผิวบริเวณลำคอ
สาว ๆ หลายคนห่วงดูแลผิวหน้าจนละเลยผิวบริเวณลำคอ ซึ่งอาจทำให้ผิวบริเวณลำคอหมองคล้ำ และเหี่ยวย่นอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น ถ้าใครไม่อยากหน้าลอย อย่าลืมทาครีมบำรุงที่บริเวณลำคอกันด้วยนะคะ จะได้สวยแบบครบสูตร
7. ชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอก
สำหรับใครที่มีผิวแห้งกร้าน แค่บำรุงผิวหน้าด้วยมอยส์เจอไรเซอร์อย่างเดียวคงยังไม่พอ ต้องเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวจากภายในสู่ภายนอกด้วยการดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ผิวของสาว ๆ นุ่มชุ่มชื้นเท่านั้น ยังช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายด้วย
8. สครับผิวหน้าสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
ผิวหน้าที่ไม่ได้รับการผลัดเซลล์ผิวนาน ๆ จะเกิดการอุดตันของสิ่งสกปรกทำให้มีปัญหาสิว และริ้วรอยตามมา ทางออกที่ดีที่สุดคือ การสครับผิวหน้าสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อขจัดเซลล์ผิวเก่า และสิ่งสกปรกที่อยู่บนผิวหน้าให้หลุดออก ทำให้เซลล์ผิวใหม่ที่ขึ้นมาแทนที่ มีความขาวกระจ่างใส และพร้อมรับการบำรุงได้อย่างเต็มที่
9. เปลี่ยนปลอกหมอนสัปดาห์ละครั้ง
ปลอกหมอนถือเป็นแหล่งสะสมความมัน สิ่งสกปรก และครีมบำรุงส่วนเกินที่เราประโคมลงบนผิวหน้าก่อนนอนในทุก ๆ วัน จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมสิวถึงไม่หายสักที วิธีแก้ไขก็ง่ายนิดเดียว แค่สาว ๆ เปลี่ยนปลอกหมอนสัปดาห์ละครั้ง เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดสิวได้แล้ว
10. ทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าเป็นประจำ
แปรงแต่งหน้าอาวุธคู่กายของสาว ๆ หากใช้ซ้ำ ๆ โดยไม่ได้ล้างทำความสะอาด ก็อาจจะทำให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ด้วยเหตุนี้จึงอยากชวนให้ทุกคนหันมาทำความสะอาดแปรงและพัฟแต่งหน้าสัปดาห์ละครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดสิว
11. ทาครีมกันแดดทุกวัน
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในร่ม หรือกลางแจ้งก็ควรจะทาครีมกันแดดอยู่เสมอ เพราะรังสียูวีไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และอยู่รอบ ๆ ตัว โดยที่เราไม่เคยระวัง เช่น แสงจากจอคอมพิวเตอร์, ลมร้อนจากไดร์เป่าผม และเตาอบ เป็นต้น ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัยอันควร ผิวคล้ำเสีย รวมถึงมะเร็งผิวหนัง เพราะฉะนั้นสาว ๆ จึงต้องทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวอยู่เสมอไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน โดยแนะนำให้เลือกใช้ครีมกันแดดที่มี SPF30 ขึ้นไป และทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง
12. มาสก์หน้าสัปดาห์ละครั้ง
ข้อเสียของการมาสก์หน้าทุกวันคือแผ่นมาสก์จะดูดซับความชุ่มชื้นจากผิวหน้าออกไป จนทำให้ผิวหน้าแห้งกร้าน ดังนั้น แนะนำให้สาว ๆ มาสก์หน้าสัปดาห์ละครั้งจะดีที่สุด เพื่อให้ผิวได้ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า และฟื้นบำรุงให้นุ่ม ชุ่มชื้นขึ้น
เมื่อรู้แบบนี้แล้วสาว ๆ คนไหนที่อยากมีผิวสวย สุขภาพดี อย่าลืมนำคำแนะนำเหล่านี้ไปลองทำตามกันดูนะคะ รับรองว่าผิวหน้าใส ๆ อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน !
ขอบคุณข้อมูลจาก : goodhousekeeping.com, prevention.com
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ไม่มั่นใจว่าทุกวันนี้เราดูแลผิวหน้าถูกวิธีหรือไม่ ? วันนี้กระปุกดอทคอมได้นำความรู้เกี่ยวกับวิธีดูแลผิวหน้าที่ถูกต้องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาฝาก ถ้าใครอยากหน้าสวยใสแบบมีสุขภาพดี บอกเลยว่าห้ามพลาดเชียวนะ
1. เลือกใช้คลีนเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง
สาว ๆ หลายคนอาจจะคิดว่าเราสามารถใช้คลีนเซอร์แบบไหนก็ได้ บอกเลยว่าเป็นความคิดที่ผิด เพราะถึงแม้คลีนเซอร์จะเป็นแค่ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาด แต่ก็มีผลกับผิวหน้าของเราโดยตรง ดังนั้น ควรเลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพผิว เช่น สาวผิวแห้งควรเลือกคลีนเซอร์สูตรน้ำนม ที่อ่อนโยน และไม่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ส่วนใครที่มีปัญหารอยสิว ฝ้า กระ และจุดด่างดำต่าง ๆ แนะนำให้ใช้คลีนซิ่งที่มีส่วนผสมของกรดอัลฟาไฮดรอกซี หรือที่เรียกว่าเอเอชเอ (AHAs) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น พร้อมลดเลือนรอยดำรอยแดงต่าง ๆ ให้ดูจางลง
2. เช็ดเมคอัพรอบดวงตาอย่างเบามือ
ผิวรอบดวงตาเป็นส่วนที่บอบบางกว่าผิวบริเวณอื่น ๆ เพราะฉะนั้น เราจึงต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเวลาที่สาว ๆ เช็ดคราบเมคอัพบริเวณรอบดวงตา แนะนำให้ใช้อายเมคอัพรีมูฟเวอร์สูตรอ่อนโยนหยดลงบนสำลี จากนั้นแปะทิ้งไว้บนเปลือกตาสักพัก แล้วเช็ดออกเบา ๆ ส่วนอายไลเนอร์ และมาสคาร่าที่เช็ดออกไม่หมด ให้นำอายเมคอัพรีมูฟเวอร์หยดลงบนคอตตอนบัดแล้วค่อย ๆ เช็ดออกอีกครั้ง วิธีนี้จะช่วยกำจัดคราบเมคอัพบริเวณรอบดวงตาได้อย่างสะอาดหมดจด และไม่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรจากการเช็ดเครื่องสำอางที่แรงจนเกินไป
การใช้ผ้าขนหนูถูหรือเช็ดหน้าแรง ๆ นอกจากจะทำให้ผิวหน้าระคายเคืองจนเกิดปัญหาสิวต่าง ๆ ตามมาแล้ว ยังเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรด้วย วิธีเช็ดหน้าที่ถูกต้องก็คือ ใช้ผ้าขนหนูซับน้ำบนผิวหน้าออกอย่างเบามือเท่านั้นก็พอแล้ว
4. ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าเยอะจนเกินไป
หลายคนเข้าใจผิดว่าการทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าเยอะ ๆ ยิ่งทำให้ผิวสวยเป๊ะ แต่ความจริงแล้วนอกจากจะเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุแล้ว การประโคมทั้งครีม เซรั่ม และอีกมากมายลงบนผิวหน้ายังทำให้เกิดปัญหาสิวอุดตันตามมาด้วย ดังนั้น ควรใช้แต่พอดี และเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวเราที่สุดจะดีกว่า
การใช้มือสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ ไม่เพียงแต่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวเท่านั้น ยังอาจทำให้สาว ๆ เจ็บป่วยโดยไม่รู้ตัว เพราะในแต่ละวันมือของเราสัมผัสกับสิ่งสกปรกมากมาย ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ควรใช้มือสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนนำมาสัมผัสใบหน้า
สาว ๆ หลายคนห่วงดูแลผิวหน้าจนละเลยผิวบริเวณลำคอ ซึ่งอาจทำให้ผิวบริเวณลำคอหมองคล้ำ และเหี่ยวย่นอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น ถ้าใครไม่อยากหน้าลอย อย่าลืมทาครีมบำรุงที่บริเวณลำคอกันด้วยนะคะ จะได้สวยแบบครบสูตร
7. ชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอก
สำหรับใครที่มีผิวแห้งกร้าน แค่บำรุงผิวหน้าด้วยมอยส์เจอไรเซอร์อย่างเดียวคงยังไม่พอ ต้องเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวจากภายในสู่ภายนอกด้วยการดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ผิวของสาว ๆ นุ่มชุ่มชื้นเท่านั้น ยังช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายด้วย
8. สครับผิวหน้าสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
ผิวหน้าที่ไม่ได้รับการผลัดเซลล์ผิวนาน ๆ จะเกิดการอุดตันของสิ่งสกปรกทำให้มีปัญหาสิว และริ้วรอยตามมา ทางออกที่ดีที่สุดคือ การสครับผิวหน้าสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อขจัดเซลล์ผิวเก่า และสิ่งสกปรกที่อยู่บนผิวหน้าให้หลุดออก ทำให้เซลล์ผิวใหม่ที่ขึ้นมาแทนที่ มีความขาวกระจ่างใส และพร้อมรับการบำรุงได้อย่างเต็มที่
9. เปลี่ยนปลอกหมอนสัปดาห์ละครั้ง
ปลอกหมอนถือเป็นแหล่งสะสมความมัน สิ่งสกปรก และครีมบำรุงส่วนเกินที่เราประโคมลงบนผิวหน้าก่อนนอนในทุก ๆ วัน จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมสิวถึงไม่หายสักที วิธีแก้ไขก็ง่ายนิดเดียว แค่สาว ๆ เปลี่ยนปลอกหมอนสัปดาห์ละครั้ง เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดสิวได้แล้ว
แปรงแต่งหน้าอาวุธคู่กายของสาว ๆ หากใช้ซ้ำ ๆ โดยไม่ได้ล้างทำความสะอาด ก็อาจจะทำให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ด้วยเหตุนี้จึงอยากชวนให้ทุกคนหันมาทำความสะอาดแปรงและพัฟแต่งหน้าสัปดาห์ละครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดสิว
11. ทาครีมกันแดดทุกวัน
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในร่ม หรือกลางแจ้งก็ควรจะทาครีมกันแดดอยู่เสมอ เพราะรังสียูวีไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และอยู่รอบ ๆ ตัว โดยที่เราไม่เคยระวัง เช่น แสงจากจอคอมพิวเตอร์, ลมร้อนจากไดร์เป่าผม และเตาอบ เป็นต้น ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัยอันควร ผิวคล้ำเสีย รวมถึงมะเร็งผิวหนัง เพราะฉะนั้นสาว ๆ จึงต้องทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวอยู่เสมอไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน โดยแนะนำให้เลือกใช้ครีมกันแดดที่มี SPF30 ขึ้นไป และทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง
12. มาสก์หน้าสัปดาห์ละครั้ง
ข้อเสียของการมาสก์หน้าทุกวันคือแผ่นมาสก์จะดูดซับความชุ่มชื้นจากผิวหน้าออกไป จนทำให้ผิวหน้าแห้งกร้าน ดังนั้น แนะนำให้สาว ๆ มาสก์หน้าสัปดาห์ละครั้งจะดีที่สุด เพื่อให้ผิวได้ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า และฟื้นบำรุงให้นุ่ม ชุ่มชื้นขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : goodhousekeeping.com, prevention.com